เป็นอีกหนึ่งคนที่เราได้เห็นหน้าเห็นตากันบ่อยๆเป็นทั้งคอมเมนเตเตอร์ ครูสอนร้องเพลง พร้อมทั้งยังมีฝีไม้ลายมือการแสดงที่ไม่แพ้ใคร สำหรับครูอ้วน มณีนุช เสมรสุต ที่นอกจากจะมีงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังมากมายจนกลายเป็นอีกคนที่คิวทองหาตัวจับยาก แต่รายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้คว้าตัว ครูอ้วน มานั่งคุยเรื่องราวชีวิตในวงการบันเทิงแบบล้วงลึกตลอด 40 ปี ที่ผ่านมาเจ้าตัวผ่านนั้นได้ผ่านอะไรมามากมายจนได้รับฉายา แม่พระของวงการบันเทิง เป็นผู้หญิงที่คิดบวกโลกสวยที่สุด พร้อมยังได้เคลียร์ข่าวเรื่องค่าเรียนสอนร้องเพลงที่แพงที่สุดในประเทศไทย ปิดท้ายด้วยเรื่องหัวใจที่ใครๆอยากรู้
ขื่อเสียงโด่งดังที่ไทยมากตั้งแต่ปีอะไร ??
ครูอ้วน : 2523 ค่ะ
จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแม่ของวงการเพลงแต่ก็มีข่าวเมาท์มาว่าครูอ้วน คือ แม่พระของวงการบันเทิง คิดบวกโลกสวย ไม่เคยโกรธใครเลยจริงไหม ??
ครูอ้วน : อันนั้นก็เกินไปถามว่าเราเคยโกรธไหมมันก็เป็นอารมณ์เนอะ แต่ด้วยความที่เราอยู่มานาน เรารู้สึกว่าเวลาเราโกรธเราจะไม่สวยและคำพูดที่เวลาเราพูดออกไปตอนโกรธมันก็จะถูกบันทึกอยู่ในโลกออนไลน์ ภาพก็ถูกบันทึกไว้ในโลกออนไลน์ มีความรู้สึกว่าเราไม่ชอบเราก็ตั้งไว้ว่า เวลาโกรธถ้าเราดับได้เร็วทุกอย่างจะดีกับเรา คือ เราเคยโกรธนะคะมากๆแล้วเราพอย้อนนึกถึงสิ่งที่เราโกรธเราทำเรารู้สึกอายในสิ่งนั้น เวลาที่ใครว่า หรือทำอะไรเรา เราก็หันไปมองไปกอดลูกหมา 4 ตัวที่เราเลี้ยง เพื่อให้เราได้สบายใจกีกว่า เราก็ได้มีความสุขกับตรงนี้
แล้วเวลาครูอ้วนโกรธจัดๆเป็นยังไงบ้าง
ครูอ้วน : คือถ้าเป็นสมัยก่อนนะคะ คือจับเข้าห้องเน้นเคลียร์กันไปเลย ถ้าเกิดโกรธ ต้องให้คนรู้ว่าทำไมเราถึงโกรธ ทำไมคุณถึงโกรธ ต้องเคลียรกันเลยตอนนั้นว่าเรื่องมาจากอะไร ตรงๆไปเลย แต่มาตอนนี้ เราคิดว่าทำไปเพื่ออะไรอะไรที่ปล่อยผ่านไปได้ก็ปล่อยผ่านไป เพราะเราก็จะดูไม่สวยไม่งาม และถึงแม้เราจะเคลียร์กันเสร็จก็ไม่มีใครรักเราจริงหรอก เมื่อมีปัญหาต่อกัน
เคลียร์ชัดเจนไปที่ไม่โกรธใครเพราะกลัวไม่สวยไปล่ะ ยังมีเรื่องให้เคลียร์ต่อว่า ชอบจำคนชื่อที่คุยด้วยไม่ได้ทั้งๆที่ยืนคุยกับเขานานมากเป็นยังไงเรื่องนี้ ???
ครูอ้วน : อันนี้ มาจากอายุด้วยนะ อายุมันสำคัญมาก เรารู้จักคนเยอะไง ไม่ใช่แค่ความแก่นะที่จำเขาไม่ได้ คือเราเป็นคนสาธารณะใช่ไหม แล้วพอมีคนมาทักเราว่าเป็นไงบ้าง คุยกันยาวเลย เป็นยังไงสบายดีไหม แต่เราก็พยายามนึกแล้ว คิดแล้วแต่ก็นึกไม่ออกเพราะด้วยความที่ลูกศิษย์เราเยอะด้วยสอนมาตั้งแต่ 30-40 ปีที่แล้ว ลูกศิษย์ปัจจุบันเอาลูกของตัวเองมาเรียนกับเรา จนเราเป็นยานแล้วตอนนี้ แล้วอีกอย่าคือ ลูกศิษย์มีคุณตาคุณยาย คุณย่าคุณปู่ ดิฉันจำไม่ได้หมดแน่นอนแล้วเขาก็ทักถามเราตลอดว่าจำได้ไหมคะ เราก็ต้องบอกว่า ค่า (หัวเราะ)
แล้วอีกเรื่องคือ จริงไหม ถึงขนาดที่พอเจอเวลาดารา นักแสดงหรือ ศิลปินหน้าใหม่ที่มาในรายการเราไม่รู้จักเราต้องรีบค้นหาในอินเตอร์เน็ตทันที ??
ครูอ้วน : คือ มันเป็นหน้าที่ของเราที่เราต้องรู้จักเขา คือ ถ้าฟังเพลงเฉยๆเพราะไม่เพราะเราจะคอมเมนท์ได้จากการร้องของเขา แต่จะให้เราพูดว่าไม่รู้จักเขาไม่ได้ เพราะเดี๋ยวนี้ดาราเกิดขึ้นเร็ว เราเลยต้องเพิ่งกูเกิ้ลตลอด เพื่อให้เราได้รู้จักว่าคนนี้เป็นใครคนนั้นทำไร ชื่ออะไร
นอกจากถ้าอยากรู้อะไรก็ต้องรู้ให้สุดทุกอย่างแล้ว ครูอ้วน ถ้าชอบอะไรก็สุดเหมือนกันอย่างรองเท้าคู่ไหนก็จะซื้อคบสีจริงไหม ??
ครูอ้วน : (หัวเราะ) จริงค่ะ คือ อันนี้จะเป็นโรคจิตหน่อยนึก ต้องบอกไว้ก่อนว่าเมื่อก่อนคือ ประเทศไทยจะไม่ค่อยมีรองเท้าแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามา ไม่เหมือนสมัยนี้ ถ้าเราอยากได้รองเท้าคู่นี้มากๆเราต้องบินไปซื้อที่ต่างประเทศ หรือไม่ก็จะมีแค่ร้านนี้เท่านั้น มันก็จะรองเท้าที่เราชอบและหลายสี พอเราชอบเราก็ไม่อยากให้ใครใส่เหมือนเราไง เราเลยต้องซื้อทุกสี และทุกไซส์ คือมีความเป็นโรคจิต ถ้าชอบไม่เสียดายเงินเลย แต่สมัยก่อนๆนะคะ ที่เป็นตอนนั้นที่ไม่ได้บริจาค หรือขายต่อนะคะ เพราะว่าหวง เพราะเป็นความสุขบ้าๆบอๆของคนโสดนะคะ อย่าว่ากันเลยนะคะ
ส่วนอีกเรื่องคือ จริงหรือไม่ที่ครูอ้วน เป็นโรงเรียนสอนร้องเพลงที่แพงที่สุดในประเทศไทย
ครูอ้วน : มีคำตอบจากผู้ปกครองที่พอเขารู้ข่าวเรื่องนี้ว่า ครูอ้วนคะ ครูไปตอบเลยนะคะ เป็นราคาที่จับต้องได้ แต่แพงค่ะ แต่แพงแบบจับต้องได้คุณภาพคับราคา แต่ราคานี่เป็นราคาเดียวที่ตั้งแต่เปิดโรงเรียนปี 2530 จนถึงปัจจุบัน ราคาเป็นรายชั่วโมงนะคะ ถ้าจะแพง เราไม่ได้สอนแต่การร้องเพลงแล้วจบๆไปแค่นั้นเรายังไงสอนวิธีการสื่อสารว่าเป็นยังไง ทำยังไง จังหวะการร้องคือมีการสอนแอคติ้งตอนร้องไปด้วยเลย
แต่เห็นตอนนี้งานในวงการบันเทิงเยอะมาก จนไม่มีเวลาสอนครูศิษย์แล้ว
ครูอ้วน : เป็นไปได้ค่ะ เพราะเวลาที่เขามาเรียนกับเราเขาจะบอกว่าครูอ้วนขา หนูดูครูอ้วนทุกช่องเลยค่ะ หนูมาวันไหนลูก เพราะเรามี 8 สาขาใช่ไหมคะ เราก็ต้องบริหารตัวของเราไปให้ครบทุกสาขาด้วย เราเลยบอกว่าถ้าเขาอยากเจอเราให้เขามาในสาขานั้นในช่วงเวลาที่เราเข้าสาขาไปดูแลงาน
ทำงานเยอะแล้วยังเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ที่มีผู้ชายมารุมจีบเยอะมาก แต่ถ้าคนไหนที่ไม่ใช่ ก็จะเป็นการบอกเขาว่าไม่ชอบด้วยการให้เขาพาไปเลี้ยงข้าวและมื้อนั้นก็เป็นมื้อสุดท้าย
ครูอ้วน : จริงๆแล้ว คือแบบนี้ เราไม่ได้จะไปหลอกเขาแบบเราไม่ได้จะกินอิ่มแล้วหนี แต่ด้วยเพราะผู้ชายที่จะมาจีบผู้หญิง เขาก็จะชวนเราไปทานข้าว เราก็เลือกที่จะไปทานอาหารที่เราอยากทานแล้วเมื่อเขาเห็นในการทานของเราเขาก็จะไปเอง เช่น เราเป็นคนชอบทานปู จะมีร้านที่ปูอร่อยมากตัวใหญ่มาก เราเลยสั่งมาเลยตัวละ 2,500 บาท 3 ตัว และเวลาเราทานคือ เราทานจริงๆ คือ เขาก็คุยไปเราทาน แล้วการแกะปูไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่ายๆ แต่เราก็ชอบทานๆไปแล้วหมดเขาก็ต้องจ่าย สุดท้ายเขาก็หายไป แต่มันเป็นเพียงการพิสูจน์เท่านั้นนะคะที่ทำแบบนั้น แต่เพราะเราพิสูจน์แบบนั้นตอนนี้ก็ยังโสดอยู่เลยค่ะ (หัวเราะ)
สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ทางยูทูป : https://youtu.be/zQvombtPBSg
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี