หากเอ่ยชื่อจริงอย่าง “เกลียว เสร็จกิจ” คนไม่ใช่น้อยอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าหากพูดชื่อ แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ปี 2539 (เพลงพื้นบ้าน-เพลงอีแซว) รับรองทุกคนเป็นต้องร้องอ๋อ ด้วยสำเนียง  เนอสุพรรณฯ ที่ฟังสบายและจิตใจเป็นกันเอง และยิ่งได้ฟังเพลงพื้นบ้านอย่างเพลงอีแซว เพลงลำตัด เพลงฉ่อย เพลงแหล่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากน้ำเสียงแหบเสน่ห์ของแม่ขวัญจิต ก็ยิ่งรู้สึกไพเราะเสนาะหู ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 แม่ขวัญจิต ได้แต่งเพลงร้องสดๆให้กับเหล่าพิธีกรได้ประทับใจกันทั้งรายการพร้อมเปิดเส้นทางของศิลปินแห่งชาติ แม่เพลงพื้นบ้านระดับตำนาน “แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์” เม้าท์เปิดอก เคยถูกแฟนเพลงทั้งประเทศเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเมียของ “พ่อไวพจน์ เพชรสุพรรณ”

ถาม แต่ตอนนั้นพ่อห้ามไม่ให้ แม่ ร้องเพลงใช่ไหม แต่ส่งเสริมให้น้องสาวเราไปร้องเพราะอะไร

แม่ขวัญจิต : ตอนนั้นเราก็ไม่กล้าถามท่านว่าทำไมไม่ให้เราไปร้อง พ่อก็แค่ว่าให้น้องๆเราไป ส่วนเราท่านให้อยู่บ้าน เราก็ถามแม่อยู่เรื่อยๆว่าเมื่อไหร่พ่อจะให้เราไป แต่แม่ก็ไม่ค่อยกล้าพูดก็บอกกับเราเพียงแค่ว่าคงไม่ได้ไปร้องแล้ว

ถาม เมื่อคุณพ่อไม่ให้ไปแล้วสุดท้ายมาเป็นนักร้องได้ยังไง

แม่ขวัญจิต : เราก็ออกความคิดบอกพ่อกับแม่ว่าจะไปดูน้องๆว่าไปอยู่กับเขาแล้วอยู่ยังไง ไปดื้อกับเขาไหม เลยใช้วิธีนี้ แต่พอเราไปก็ไปแค่สองสามวันก็กลับเราไปเราก็แอบฟังเขาร้องเขาสอน แล้วก็เอาสมุดของน้องมาแอบดูแอบอ่าน แต่ครูโบราณเขาบอกว่าถ้าเขาไม่ให้คือเราก็ไม่สามารถเอามาร้องหรืออะไรไม่ได้เพราะว่าจะไม่ดีถ้าเขาไม่อนุญาต (เราก็กลัวนะ) แต่ว่าแม่บัวผันที่เป็นภรรยาของพ่อไสวซึ่งเขาก็เป็นญาติกับเรานะท่านก็บอกว่าถ้าท่านไม่อนุญาตยังไงก็เอาไปร้องเองไม่ได้ แต่แม่บัวผัน ท่านใจดีบอกว่าจะสอนเรา

ถาม แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้นเป็นแม่เพลงของคณะพ่อไสว แม่บัวผัน จนตอนนั้นต้องเรียกว่าคนทั่วภาคกลางไม่มีใครไม่รู้จัก สามเกลียว

แม่ขวัญจิต : สามเกลียว สร้อยเกลียว เป็นฉายาที่ชาวบ้านที่คนที่เขามาดูทั้งให้

ถาม แล้วชื่อ ขวัญจิต ศรีประจันต์ มายังไง

แม่ขวัญจิต : มาตอนเป็นนักร้องลูกทุ่ง เพราะชื่อ เกลียว มันก็ไม่ได้เนอะก็คิดกันว่าเรามาจาก ศรีประจันต์ ต้องมีตัว จอ ก็เลยเป็นขวัญจิต ศรีประจันต์ เพราะให้คนได้รู้ว่าเรามาจากไหนเลยเอาถิ่นที่อยู่เรามาเป็นนามสกุล

ถาม ซึ่ง แม่ขวัญจิต มาดังสุดๆเลยเพราะมาร้องเพลง แก้กับพ่อ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ

แม่ขวัญจิต : ตอนนั้นเรามาอยู่ที่วงดนตรีของ จํารัส สุวคนธ์ แต่เพลง ไวพจน์ ดังเพลงไหนครูเพลงในคณะที่เราอยู่เขาก็จะแต่งแก้เพราะเขาแต่งให้ ไวพจน์ แล้วแต่เพลงแก้ที่เขาแต่งให้ผู้หญิงไม่รู้จะให้ใครร้องเราเลยได้ร้อง เพลงแรกที่เราร้องแก้คือ แบ่งสมบัติ แก้กับ เบื่อสมบัติ ก็ดังเลยเพลงนั้น แล้วพ่อไวพจน์ เขาดังมากเราก็เหมือนไปเกาะเขาดัง (พูดกันแบบเปิดอกนะ) เพราะพี่ไวพจน์ เขาดังอยู่ถ้าเราร้องแก้กับใครไม่รู้มันก็อาจจะไม่ดังเท่านี้ เราก็ร้องเพลงแก้เขาทุกเพลงเลยอย่างเขาร้อง ลาน้องไปเวียดนาม เราก็จะร้องแก้เป็นเพลง รอพี่กลับจากเวียดนาม

แม่ขวัญจิต : แต่ไม่ได้ออกงานคู่กันนะคะ อยู่คนละคณะสมมติว่างานสัก 5 คืน คณะจำรัส สุวคนธ์ ที่เราอยู่จะเล่นคืนแรกกับคืนสุดท้ายเท่านั้น คืนกลางๆจะเป็น ไวพจน์ สุรพล ถึงจะร้องแก้เพลงกันแต่พอเล่นต่างคนก็ต่างร้อง แต่เพลงเราเป็นเนื้อเพลงที่ไปร้องแก้เขา

ถาม แต่ร้องเพลงแก้ไปแก้มาคนเลยเข้าใจผิดคิดว่า แม่ขวัญจิต เป็นภรรยาของพ่อไวพจน์

แม่ขวัญจิต : ยิ่งกว่านั้นค่ะ เพราะหลังจากที่พ่อจำรัส เขาหยุดวงก็พาเราไปฝากกับ พ่อไวพจน์ พออยู่กับแกได้สัก 3-4 เดือน จนคุ้นเคยเขาก็เห็นว่าเราเป็นผู้หญิงบ๊องๆอะไรอย่างนี้ พ่อไวพจน์ เขาเอ็นดูเราเหมือนลูก แต่เพราะหน้าเวทีเวลาเราไปร้องคู่กับพ่อ เขาก็จะเอาเรามาหอม แล้วก็บอกว่าเราเป็น เมียไวพจน์ เมียไวพจน์ แต่คนค่อนข้างไม่เชื่อ

ถาม แล้วภรรยาตัวจริงของ พ่อไวพจน์ มีไหม

แม่ขวัญจิต : มีหลายคน (หัวเราะ) เพราะด้วยความเจ้าชู้ของพ่อไวพจน์ ทุกคนก็งงว่าทำไมพ่อไม่เจ้าชู้กับเราเลยพ่อเจ้าชู้กับคนอื่นจริงแต่สำหรับเราสามพี่น้องถ้าไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยคือ พ่อไวพจน์ก็ไม่เคยพูดกับเราเลย

ถาม ไม่ใช่แค่ร้องเพลงพื้นบ้าน เพลงอีแซว ได้เท่านั้นยังสามารถร้องเพลง แร๊พ เก่งมาก

แม่ขวัญจิต : ไม่ได้เก่งอะไร แต่เพราะเราได้มีโอกาสไปร่วมกับลูกๆ พ่อกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เขาชอบเราเขาอยากร้องเพลงฉ่อยเขาเลยให้เราไปขึ้นคอนเสิร์ตเขา

ถาม เห็นว่าตอนนี้ คุณแม่ขวัญจิต มีโครงการสอนเด็กเกี่ยวกับเรื่องเพลงพื้นบ้าน

แม่ขวัญจิต : สอนทั้งพื้นบ้านอย่างที่เราร้องกัน ที่เน้นๆสอนเลยคือ เพลงฉ่อย เพลงอีแซว เพลงเรือ เพลงเกี่ยวข้าว เพลงพวงมาลัย รำตัดอะไรอย่างนี้ ซึ่งโดยมากที่มาเรียนคือไม่มีพื้นฐานในการร้องมาเลยบางทีชอบเอง บางทีพ่อแม่พามาเรียน อยากจะฝากถึงลูกๆหลานๆเด็กไทยทุกคนถ้าสนใจแม่สอนได้หมด ถ้าอยากรักษาความเป็นไทย นอกจากเราจะได้การร้องแล้วเรายังได้ความกล้าขึ้นเวที ติดต่อได้ที่ สมาคมเพลงพื้นบ้านภาคกลางประเทศไทย หรือ ขวัญจิต ศรีประจันต์