หากนึกถึงดารานางแบบ เซ็กซี่ สตาร์ ที่มีผิวสีแทน ใบหน้าเรียว จมูกโด่ง นัยน์ตาซึ้งกลมโต คงต้องนึกถึง แชมเปญ เอ็กซ์ หรือชื่อจริง จันทร์เพ็ญ อินทรจักร หลังจากที่เธอฝากผลงานให้กับบรรดาหนุ่มๆ ในยุคนั้นได้ฮือฮามากมาย ทั้งมิวสิกวีดีโอผลงานภาพยนตร์ ละคร และปฏิทินเซ็กซี่ ก่อนหายหน้าจากถนนวงการมายาจวบจนวันนี้ 10 กว่าปี ล่าสุดทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า ได้เปิดใจถึงเรื่องราวชีวิต เหตุผลที่ต้องอำลาวงการ ด้วยภาระหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นเสาหลักหัวหน้าครอบครัว วันนี้เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมบทบาทใหม่กับการเป็นชาวไร่
เริ่มต้นเข้าวงการ
“เริ่มเข้าวงการด้วยการประกวดนางแบบเวทีของไทยแลนด์ซูเปอร์โมเดล จนได้รางวัลเบสท์คัฟเวอร์ หลังจากนั้นเริ่มทำงานมาเรื่อยๆ ถ่ายโฆษณาชิ้นแรกหมู่บ้านริมวิภา ที่เป็นแอร์โฮสเตสกระโดดลงมาจากเครื่องบิน หลังจากนั้นเริ่มถ่ายแบบใน
นิตยสารเล่มแรกเป็นของนิตยสาร อิมเมจ และเริ่มเดินแบบ ถ่ายแบบมาเรื่อยๆ แต่ไม่มาก จนมาวันหนึ่งได้มีโอกาสมาเล่นมิวสิกวีดีโอเพลงของ พี่ “ก๊อต” จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เพลง “ความรักเหมือนยาขม” และ “คนเดียวในดวงใจ” ตอนนั้นเล่นมิวสิกวีดีโอของศิลปินหลายคนเยอะมาก จนได้มีโอกาสมาเป็นนางเอกมิวสิกวีดีโอของศิลปินต่างชาติ Peter Andre ในเพลง Mysterious Girl ที่เขามาถ่ายทำที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ในปี พ.ศ.2538 เริ่มทำให้พี่มีชื่อเสียงมากขึ้น”
เริ่มเป็นที่รู้จัก
“ตอนนั้นเริ่มมีคนรู้จักแล้วแต่ว่าในวงการนางแบบซึ่งอาจไม่กว้างมาก เพราะพี่เดินแบบ ถ่ายแบบค่อนข้างเยอะจนได้มีโอกาสมาแสดงภาพยนตร์เรื่อง “จักรยานสีแดง” เรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก แต่ในระหว่างนั้นยังถ่ายทำไม่เสร็จพี่ได้ไปแคสติ้งหนังเรื่อง “ฝันบ้าคาราโอเกะ” อีกซึ่งช่วงที่ทั้ง 2 เรื่องนี้ยังไม่เสร็จ ได้มาเล่นหนังอีกเรื่อง “2499 อันธพาลครองเมือง” ซึ่งหลังจากที่หนังได้ออกมาฉายไล่เลี่ยกันทั้งสามเรื่องปรากฏว่าหนังประสบผลสำเร็จหมด แต่ว่าคนละด้านกัน รู้สึกจะช่วงปี พ.ศ. 2540 ทำให้เรามีชื่อเสียงมากขึ้นในวงกว้างไม่ใช่แค่นางแบบแล้ว พอคนเริ่มรู้จักเยอะเราเลยมีคนมาชวนไปเล่นละคร เรื่องแรกจำได้เลย “บริษัทถนัดฝัน” ของบริษัท เจเอสแอล ตามมาด้วยเรื่อง “มาดามมด” ของทีวีธันเดอร์ ทางช่อง 3”
ช่วงที่มีชื่อเสียง
“เหนื่อยนะคะ แต่ว่าช่วงนั้นที่เรากำลังโชคดีเรื่องงานเนี่ย ปรากฏว่าคุณพ่อป่วย ซึ่งพี่ก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วยมันไม่ได้ทำงานฉลุย เราดังเรามีงานมากแต่ว่า แทนที่จะทำงานอย่างเดียวมันก็เหนื่อยแล้วพอคุณพ่อไม่สบายพี่ต้องมาดูแล ทำอย่างนี้มาหลายปี จนคุณพ่อเสีย”
มีชื่อเสียงท่ามกลางวิกฤติชีวิต
“พี่ไม่ได้สบายเหมือนคนอื่นๆ ที่ทำงานอย่างเดียวแล้วเก็บเงิน ช่วงที่พี่มีชื่อเสียงงานเข้าเยอะ แต่พี่ก็เจอวิกฤติชีวิตตามมาเหมือนกัน คือเงินที่พี่ทำงานได้มา พี่ให้ที่บ้านหมด พี่ไม่ได้ไปเที่ยวไปดื่มกับเพื่อน หรือเลี้ยงเพื่อน แม้แต่จะช็อปปิ้งก็น้อย เพราะพี่ต้องดูแลที่บ้าน คุณพ่อก็ระดับหนึ่ง แล้วมีพี่ชาย หลานๆ อีก พี่ดูแลทุกอย่าง เหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ชีวิตในวงการมันไม่แน่นอนคลื่นลูกเก่าไป ลูกใหม่มา เมื่อวันหนึ่งช่วงที่ชื่อเสียงพี่เริ่มซาลงไปช่วงนั้นพี่หายไป 2 ปี คืองานมันไม่มีอะไร อยู่ๆ หายไปเลย มีเดินแบบประปราย โชว์ตัวบ้าง มันไม่ได้หายไปเพราะตก พี่มีงานทุกวันแต่ว่าไม่ได้มีละคร มีงานโชว์ตัว มีงานอีเว้นท์ แต่พอทุกอย่างเริ่มลงตัวพี่กลับมาเริ่มต้นงานวงการใหม่ถ่ายปฏิทินเซ็กซี่ คราวนี้ชื่อเสียงของพี่ก็ฮือฮาขึ้นมาอีก แต่ก็เป็นช่วงที่คุณแม่ของพี่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทำให้พี่ต้องกลับมาดูแลคุณแม่ และออกจากวงการอีกครั้ง จนคุณแม่เสีย”
อิ่มตัวกับวงการ
“พี่คิดว่าพี่อิ่มตัวแล้วกับวงการ พี่ไม่ได้ทิ้งแต่ว่าตอนนี้มันยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจ แล้วอีกอย่างน้องๆ ดารา นักแสดงนางแบบหน้าใหม่ๆ เข้ามาเยอะ เราให้โอกาสน้องๆ เขาดีกว่า ทุกวันนี้พี่คิดว่าที่ผ่านมาตัวพี่เองประสบความสำเร็จนะ น้อยมากที่เข้ามาในวงการแล้วจะประสบความสำเร็จเท่าพี่ เมื่อเราได้โอกาสเราก็ต้องคืนให้สังคมบ้าง อย่างตอนนี้พี่เริ่มไปทำบุญทุกอาทิตย์ ทำหลายที่เหมือนกัน”
ผันตัวเองมาใช้ชีวิตครอบครัว ทำไร่ทำนายึดเศรษฐกิจพอเพียง
“ตอนนี้พี่มีแฟน แล้วเขาได้รับมรดกที่ดินที่สระแก้ว 20 ไร่ซึ่งเราก็ซื้อเพิ่มมาจากพี่ชายเขาอีก 50 ไร่ ให้มันเป็นผืนเดียวกันจนตอนนี้มีราวๆ 200 ไร่ พี่คิดว่าจะปักหลักสร้างชีวิตครอบครัวตรงนี้ ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยเรียนรู้เรื่องอาชีพการเกษตรเลย แต่พอเราตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นและสานต่อ พี่เลยเริ่มที่จะเรียนรู้ ไปเรียนปลูกยางกับลุงที่หนองคายมา 2 อาทิตย์ สอบถามจากผู้รู้ต่างๆ ศึกษาด้วยตัวเองบ้าง ลองผิดลองถูก พี่คิดว่าคนเรามันไม่เกินความสามารถนึกออกไหมถ้าเราตั้งใจ เด็กๆ ที่เรียนเกษตร พี่ไม่เคยดูถูก แต่ว่าตอนนั้นพี่ไม่เคยทำเอง พอลองนึกย้อนไปทำไมเราไม่เรียนเรานึกถึงว่าเวลาคนเขาสอนเราตั้งแต่เด็กทำไมเราไม่ใส่ใจ เวลาวันใดวันหนึ่งมันวนกลับมาเราต้องมาเริ่มเรียนรู้ใหม่ อย่างที่พ่อ-แม่พี่สอนเรื่องสวดมนต์พี่รับฟัง แต่เรื่องพี่เย็บผ้าไม่เป็นสอนไม่เอา รวมทั้งเรื่องการเกษตรคุณพ่อ-คุณแม่พี่ท่านเป็นชาวเกษตรกรเหมือนกันเขาสอนแต่เราไม่เอา และวันนี้เหมือนเราดำเนินรอยตามท่าน แต่พี่เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจก็จะทำมันได้ ตอนนี้พี่ใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พี่มองว่าการเกษตรมันอยู่ได้ของสวยๆ งามๆ มันอยู่ไม่ได้ อย่างในวงการที่เราเห็นนักแสดงมาๆ ไปๆ กันตลอดมันไม่แน่นอนยั่งยืน แต่ถ้าในวงการเขามีงานอะไรที่มันดีๆ พี่ก็จะทำคือถ้ามันคุ้มค่า เพราะที่ผ่านมาพี่ลงทุนกับไร่ของพี่เยอะ ซื้อรถแม็กโคร ซื้อที่ร้อยกว่าไร่ วันๆ พี่ยุ่งเรื่องคนงานพี่ไม่มีเวลามายุ่งเรื่องพวกนี้แล้ว ตอนนี้วางแผนอยากทำเป็นแคมปิ้งให้คนมาเที่ยว มากินผักสดๆ ตอนนี้ที่ไร่เราปลูกเอาไว้แค่พอทานไม่ได้ปลูกขาย เพราะถ้าปลูกขายมันต้องดูแลเยอะ พอมันเหลือกินเหลือใช้ก็แจกเพื่อนฝูงไป เดี๋ยวอีกหน่อยพอมันอยู่ตัว คนงานเข้าที่แล้วจะขายค่อยว่ากัน”
เหมือนเป็นคนละด้านกับในวงการ
“ใช่ พี่ไม่มองย้อนถึงอดีตเลยนะ พี่รู้ว่าพี่ประสบผลสำเร็จเพราะอะไรแต่พอมาอยู่ตรงนี้ พี่ไม่คิดแล้ว พี่คิดถึงแต่ไม่หมกมุ่นเราเอาอดีตกลับคืนมาไม่ได้ อนาคตมันยังไม่เกิด แค่วันนี้เราอยากทำให้ดีที่สุด เรามีความฝัน แต่ว่าเราอย่าไปฟุ้งเฟ้อ เพ้อฝันมากเกินไปเราต้องมีจุดยืนของตัวเอง พี่ไปทำไร่ ได้คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า อากาศบริสุทธิ์ อย่างน้อยเดี๋ยวนี้พี่ปลูกข้าวกินเองได้ ถึงแม้มันไม่สวยคือเราปลูกตามมีตามเกิด แต่ว่ามันปลอดภัยกว่า อีกอย่างเราได้ไปสร้างรายได้ให้ชาวบ้านด้วยให้เขามีงานทำ”
อุปสรรคที่เกิด
“ทำงานทุกอย่างต้องมีอุปสรรค อย่างเราต้องการมาพัฒนาที่นี่ แต่บางทีชาวบ้านไม่เอา บางทีพี่ต้องไปหัดทำเอง แต่ว่าการทำงานต้องใช้เทคนิค ใช้ประสบการณ์ มันมีปัญหาตลอดแต่พี่คิดว่าปล่อยมันไป วันนี้เรามีปัญหา พรุ่งนี้มันอาจจะหายไปก็ได้ อย่าไปใส่ใจกับมันมาก”
มีชื่อเสียงจากภาพเซ็กซี่
“พี่ไม่เคยคิดว่าพี่เซ็กซี่ พี่เป็นคนที่เวลาออกงานพี่ก็อยากสวยแต่ไม่ได้มากมาย เป็นคนง่ายๆ ออกงานอาจสวยหน่อย แต่ไม่ได้แบบว่าต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ อย่างคนที่จะเซ็กซี่พี่มองว่าเขาต้องมีเซ็กซ์แอพเพียล อยู่ในตัว คือบางทีเราไม่ต้องโป๊เปลือยก็ได้อย่างสมัยก่อนพี่ถ่ายชุดว่ายน้ำวันพีซเราจะคิดราคาหนึ่ง ทูพีซจะอีกราคาหนึ่งมากขึ้น แต่ไม่ได้โชว์มากมายคือ เป็นนางแบบเราต้องพรีเซ็นต์เสื้อผ้า เขาเอามาให้เราใส่เราก็ต้องใส่ให้มันดูสวย เราไม่ได้พรีเซ็นต์ตัวเราเองนะ คือสมัยนี้พี่จะเห็นพรีเซ็นต์ตัวเอง พี่เรียนนางแบบมาทุกคนสอนว่าการเป็นนางแบบที่ดีไม่ใช่การพรีเซ็นต์ตัวเอง คือคนที่เป็นนางแบบได้ไม่ต้องสวย หน้าต้องเปลี่ยนได้ทุกรูปแบบสามารถพรีเซ็นต์ได้ทุกอย่าง หัวใจของนางแบบคือการพรีเซ็นต์สินค้าทำยังไงให้สินค้าเขาออกมาดูดีและสวยที่สุด เป็นจุดจูงใจที่สุด”
เซ็กซี่ปัจจุบันนี้กับเมื่อก่อนต่างกันยังไง
“ทุกอย่างเปลี่ยนคือสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ พี่คิดว่ากาลเทศะมันไม่มีแล้ว การเคารพนับถือผู้ใหญ่ มันน้อยลง คนไปยึดติดกับวัตถุ ยึดติดกับเงินมากเกินไป ทุกอย่าง อันนั้นก็คือขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะคะ ถามว่าถ้าเราโป๊เปลือยมากมันดูไม่มีค่า เพราะคนเบื่อแล้วจะโป๊เปลือยไปทำไม มันไม่ใช่ ถ้าทำแล้วออกมาสวยแต่พี่ไม่จำเป็นต้องไปแก้ผ้าเดินถนนนี่ งานคืองานเสร็จจากงานคืออะไรก็ได้แล้ว”
ตัวตนของแชมเปญ เอ็กซ์
“พี่ง่ายมาก ถ้าไม่ง่ายไม่มาอยู่ป่าหรอก พี่มองว่าเดี๋ยวนี้ความเป็นอยู่ของคนเรามันลำบาก ทุกอย่างมันแพง นักการเมืองต่างๆ เขาก็ไม่ได้มาช่วยเรา เราต้องช่วยตัวเอง มุ่งมั่น สมัยก่อนพ่อพี่สอนไว้ว่าต้องมี 3 อ. อดทน อดออม อดกลั้น แต่เดี๋ยวนี้ มันมี อึดอัด อะไรก็ไม่รู้ ทำอะไรต้องรักษาคำพูด ทุกวันนี้พี่ปฏิบัติธรรมพี่ไม่อยากเจอคนมากมาย ไปงานเหมือนกันพี่ก็ไม่อยากออก เจอแต่คนแข่งกัน ใส่หน้ากากเข้าหากันมันคืออะไร บางคนพี่รู้ว่าเบื้องหลังเขามายังไง เขาทำอะไรเพื่ออะไร พี่ก็ปลง พี่คิดว่าคนเราจะยึดติดกับวัตถุอะไรมากมาย ยอมรับได้ไหมว่าตัวเราไม่มี เราต้องยอมรับในสิ่งที่เรามี เงินทองมันไม่ได้หาง่ายๆ อีกไม่นานเรื่องความสวยความงามมันจะอยู่ไม่ได้เพราะคนไม่มีตังค์ซื้อ ไม่มีเงินกินข้าว ชาวนาจะไม่มีข้าวมาให้เรา พี่ถึงได้อยู่กับการเกษตร เพราะว่าเราปลูก เราไม่ต้องไปซื้อเขากิน เราทำเองปลอดภัยกว่า เหลือมาเราจะขายก็ขายแจกใครก็แจก แจกคนกินเราได้บุญ”
กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์
“ตอนนี้มีหนังเรื่อง until now ของโอสถสภา บทเป็นครูรับเชิญมานิดหน่อย มีรุ่นเด็กๆ มี 3 รุ่น เด็กน้อย เด็กโต แล้วก็วัยรุ่น ที่กลับไปครั้งนี้เพราะว่าเขาชวนมา แล้วเป็นคนกันเอง”
ฝากถึงนักแสดงรุ่นใหม่ และผู้ที่ติดตามผลงาน
“นักแสดงรุ่นใหม่ๆ เขาก็ดูแลตัวเองเขาดีรักสวยรักงามการรักษาชื่อเสียงไม่จำเป็นต้องแค่นักแสดง ใครก็ได้ที่ได้อ่านพี่อยากให้รักษาความมีคุณภาพของตัวเองให้ดี คือถ้าเราดี รู้จักนอบน้อมถ่อมตนศักดิ์ศรีตรงนั้นมันจะเกิดขึ้นเอง พอเรามีศักดิ์ศรีเราจะมีคุณค่า โดยเราไม่ต้องอะไรมาก ไม่ต้องไปโชว์ ไม่ต้องอะไร คุณค่าของเราก็จะอยู่ตรงนั้นแหละ และขอขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านที่ติดตามเคยติดตามผลงานถ้าคิดถึงกันลองแวะมาเยี่ยมเยียนที่ “ไร่วันจันทร์เพ็ญ”จังหวัดสระแก้วได้ค่ะ และเร็วๆ นี้อาจมีผลงานให้ได้ชมบ้างค่ะ"
พินิตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี