ถ้าเอ่ยชื่อนักแสดงนามว่า จีน่า-วิรายา ภัทรโชคชัย คงไม่มีใครรู้จักในวงกว้างมากนัก แต่ถ้าเอ่ย จีน่า เดอะเฟส ในฐานะนางแบบเจ้าของตำแหน่ง The Face Thailand(เดอะเฟซไทยแลนด์) คนที่ 4ของประเทศไทยหลายคนคงจะร้องอ๋อ เพราะเธอเป็นนางแบบที่มากความสามารถและเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นของประเทศไทยเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นงานด้านการแสดงเธอยังถือว่าเป็น “น้องใหม่” ที่กำลังไต่เต้าสู่ “นักแสดงมากฝีมือ” ที่ใครหลายๆ คนกำลังจับตามองในความสามารถของเธอ!!!ทั้งนี้พิสูจน์ได้จากผลงานด้านการแสดงจากซีรีส์เรื่องล่าสุด Mafia The Series: Guns & Freaks (มาเฟียเดอะซีรีส์ ปืนกลและคนเพี้ยน) ของค่าย สแล็ป มอนสเตอร์โดยผู้จัดฯ ไฟแรง คุณโจ-ปิยะวัฒน์ ปฐมวาณิชย์ที่รั้งตำแหน่ง คนเขียนบท และกำกับการแสดงซีรีส์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง คุณโจเขียนคาแรคเตอร์ แอนนาคอนดร้า บทบาทที่ สาวจีน่า ต้องพลิกคาแรคเตอร์จากนางแบบสู่นักฆ่าที่สวยและเก่งที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่า มีคิวบู๊ให้เธอได้แสดงความสามารถอย่างแน่นอนเธอบอกว่า ไม่ใช่แค่คิวบู๊ แต่เป็นบทบาทที่ท้าทายความสามารถของเธอสุดๆ ทั้งบทพูดที่ยาวมาก ทั้งคิวบู๊ที่เธอต้องไปเวิร์คช้อปเป็นเดือนๆ รวมทั้งการเรียนยิงปืนกับหน่วยยิงปืนที่เจ๋งที่สุดในประเทศไทยอีกด้วยว่ากันว่า Mafia The Series: Guns & Freaks (มาเฟียเดอะซีรีส์ ปืนกลและคนเพี้ยน)แค่ออกฉาย EPแรก ความปังก็มา ถึงกับติด TOP5 เทรนด์ทวิตเตอร์ในค่ำคืนนั้น และคาแรคเตอร์ของ “แอนนา” ก็ได้รับความชื่นชมเช่นกัน

“ไม่คิดว่าจะมาเร็วในEP1ซึ่งการถ่ายทำ  การแสดง การตัดต่อ บทพวกนี้ ยังไม่ค่อยเห็นในไทยเท่าไหร่ ก็เลยแอบไม่ได้คาดหวังกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ พอรู้ว่าติดเทรนด์ ดีใจมากแทนผู้จัดฯ แทนนักแสดง เพราะพวกเราเหนื่อยมากจริงๆ ทุกๆ ซีน ทุกๆ ฉาก มันไม่ง่าย แล้วด้วยตัว จีน่า เองต้องใส่เฟอร์ ขนนก ใส่แว่น ใส่หมวก ใส่บูทส้นสูง พูดได้ว่าเป็นหนึ่งตัวละครที่เสื้อผ้าเยอะสุด แล้วก็ดีใจมาก คนดูเห็นเราในซีนแรกก็พูดถึงชุดเลย ก็คิดอยู่ว่าจะมีใครพูดถึงชุดมั้ย ตอนถ่ายทำ เราค่อนข้างทุ่มกับชุดมาก บทเราเยอะมากๆ ต่างจากพี่ธันน์ธนากร ที่พูดน้อยต่อยหนัก มันหายเหนื่อย การตอบรับดีขนาดนี้ ชุดของจีน่าก็ติดแฮชแท็คตั้งแต่ EPแรก ก็รู้สึกดีใจมาก ดีใจแทนตัวแอนนา ดีใจแทนตัวเอง ดีใจแทนทุกคน อยากให้ทุกคนรอดู EP ต่อๆ ไป

ความเป็นแอนนา ที่เราทำการบ้านมา

เป็นนักฆ่าที่เก่งมาก แล้วเราก็ถูก มาสเตอร์ราเชน (ผู้พันเบิร์ด) เก็บมาเลี้ยง ซึ่งมาสเตอร์ราเชน ก็เป็นพ่อของบีม (จุง อาเชน)  แล้วเขาก็สอนเราจนเป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุด แล้ววันหนึ่งพ่อเขาไม่อยู่แล้ว คือพอหัวหน้าแก๊งเราไม่อยู่แล้วก็ต้องเป็นเรานี่แหละที่เป็นคนดูแลบีม ซึ่งเราก็จะมากับคู่หูคือ สเว็น (ธันน์ธนากร)ในส่วนของคาแรคเตอร์จะบอกว่าไม่ต่างจากตัวจีน่าเลย แต่ที่ต่างก็คือเก่งในด้านบู๊ ซึ่งตัวจริงเราไม่ได้เก่งขนาดนั้น คือจะเป็นคนฝีปากค่อนข้างจัดมาก คือถ้าใครพูดอะไรมาเราสามารถจัดหรือว่าพูดโต้ตอบไปด้วยคำพูดที่ฉลาดแอบเจ็บ ทิ้งอะไรไว้ให้เป็นข้อคิด แต่อีกมุมหนึ่งก็จะเป็นพี่สาวแบบตลกๆ ก็จะมีสองมุมในคนเดียว ซึ่งเป็นสองมุมที่ต่างกันมาก ส่วนตัวจีน่าแล้วเป็นคนตลกค่ะ ค่อนข้างเป็นคนชอบความคิดสร้างสรรค์ร่าเริง แต่ก็จะมีมุมคิดงานคล้ายๆ แอนนาแต่ว่าจะไปไม่ถึงแอนนา เพราะว่าแอนนาเขาจะสุดทุกเรื่อง บู๊ก็เก่งมาก ฉลาดก็ฉลาดมาก ไหวพริบดีมาก ตลกก็ตลก คือเขามีความเก่งทุกด้าน ยังไม่มีข้อผิดพลาดไหนเลย อยู่ๆนึกอยากจะซึ้งผู้หญิงคนนี้ก็ซึ้งขึ้นมาได้เลย เราเล่นเองในฉากบอกไม่ต้องร้องไห้แต่เราก็น้ำตาคลอไปเลย

ความรู้สึกแรกที่ได้รับการติดต่อให้มารับบท แอนนา 

ตอนแรกเขายังไม่ได้ส่งบทให้ เพราะว่าด้วยความที่เราก็รู้จักกันอยู่แล้วกับพี่โจผู้จัดฯ เขาก็แค่โทรมาบอกว่าตัวแอนนาเป็นผู้หญิงแซ่บ เป็นตัวจีน่าเลยเล่นง่ายมากตลกมาก แล้วก็เป็นผู้หญิงที่เก่งที่สุดเป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุด ก็เลยบอกว่าเราไม่ไหวนะเป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุดเราก็แค่บู๊ได้ เขาก็บอกว่าบู๊วันเดียว แต่มาถึงบู๊ทุกวันเลยค่ะซึ่งเป็นบู๊ที่เราเห็นแล้วเราก็อยากเล่นเอง เพราะว่ามันค่อนข้างเป็นการฉีกคาแรคเตอร์เรามาก จะบอกว่าเล่นเอง 99 เปอร์เซ็นต์ ไปเรียนมาก่อนถ่ายทำค่ะเรียนกับทีมพันนาตั้นท์ ก็ไปขลุกตัวอยู่ที่นั่นเลย มันเหมือนเราไปอยู่ตรงนั้นไม่นานนะ แต่จีน่าว่านาน เพราะว่ามันเป็น 4 วันที่ครึ่งวันเราต้องอยู่ตรงนั้น เรียนวันละ 6-7 ชั่วโมง ตอนแรกเรียนรู้สึกท้อมากเลย มีเรียนยิงปืน เก็บปืน แย่งปืน คือเรียนทุกอย่างที่คนต่อสู้ต้องเรียน ไม่มีข้ามเลย ม้วนหน้าม้วนหลังตีลังกากระโดดทุกอย่างครบเลย ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เราเรียนอยู่แล้วก็เลยไม่ได้ถอดใจ แต่แบบโอ้ย...วันนี้ขี้เกียจจังเลย แต่พอไปถึงหน้าเซ็ตแล้วก็รู้สึกว่าฉันอยากเล่น ฉันอยากให้ซีนนี้ ออกมาดีดังนั้นเราต้องเล่นเอง แต่ว่าเขาก็เตรียมสตั้นท์ไว้ให้เรานะ ซึ่งพอเราเห็นเขาเล่นแต่เราก็ซ้อมมาแล้วเราก็เลยอยากจะเล่นเอง ขับรถก็ขับเอง อย่างที่บอกเลยค่ะว่าเล่นเองหมด 99 เปอร์เซ็นต์จริงๆ ปีนหน้ารถม้วนตัว ก็คือทำเองหมดเลยทุกอย่าง ก็เลยได้แผลเขียวช้ำกลับบ้านทุกวัน

เรียกได้ว่าเป็นบทที่ทุ่มเทมากๆ 

เขาจ้างเราแล้วเราก็ต้องทุ่มค่ะ จริงๆจะบอกว่าเรามาด้วยความที่ไม่ได้อยากบู๊ ไม่ได้อยากเล่นอะไรขนาดนั้น แต่พอได้รู้จักตัวแอนนาแล้ว มันมาเองเลยโดยที่ไม่ต้องรู้สึกว่านับหนึ่งใหม่ สมมติว่าเราถ่ายวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เราเว้น จันทร์ อังคาร พุธ วันพฤหัสกลับมาถ่ายทำใหม่ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะมันอยู่ข้างในไปแล้ว และทุกคนก็ค่อนข้างที่จะน่ารักกับเรา

ความรู้สึกกับตัวละครแอนนา

วันสุดท้ายที่ต้องพูดถึงก็มีร้องไห้ คือเราถ่ายกันนานมาก เราคลุกคลีอยู่กับเขาและตัวละครแอนนามันซึมเข้าไปในตัวจีน่าเร็วมาก เพราะว่าบทพูดมันเยอะมาก ไม่มีซีนไหนที่จะได้พูดแค่ว่าโอเค คืออย่างต่ำสองหน้า มากสุด 4-5 หน้า ต่อซีนเดียวนะมันเลยรู้สึกว่าบางคำศัพท์เราไม่ต้องจำเลยด้วยซ้ำ เรารู้เลยว่าถ้าคนนี้เขาตอบมาแบบนี้แอนนาจะตอบอะไร เขาจะมีแบบหัวกลางแล้วก็สรุปให้เลยทุกๆ ซีน แอนนาจะเป็นคนที่ออกมาแล้วพูด หัวกลางท้ายจบ เป็นตัวละครที่ดำเนินเรื่องแล้วก็ขาดไม่ได้

ฉากที่รู้สึกว่ายากมาก

จริงๆ แล้วบทบู๊ทุกๆ ซีนก็คือยากสำหรับเราหมดแล้ว แต่ด้วยความที่ทีมงานแล้วก็พี่ๆ ทีมพันนาก็เซฟเราดีมาก ทุกคนจะต้องใส่หน้ากากซึ่งเราก็จะจำไม่ได้เลยว่าเราต้องเขาไปหาใครก่อน แต่เขาก็จะช่วยเราได้ดีมากในการรับส่ง ไม่เข้าพร้อมกัน ก็คือทุกคนน่ารักมากๆ

ฉากที่ภูมิใจนำเสนอที่สุด

น่าจะเป็นซีนบู๊ซีนสุดท้าย เป็นซีนที่เราจะต้องโค้งตัวแทบจะติดพื้นแล้วก็ให้อีกฝ่ายหนึ่งกระโดดข้ามเราไป ซึ่งเป็นซีนที่ประทับใจและตอนแรกไม่ได้เล่นเอง แต่อยากเล่นเองก็เลยไปเล่นเองทั้งที่อยู่บนส้นสูง แล้วตัวแอนนาจะมี 2 ซีนที่ซึ้งมากๆ คือซีนที่พูดถึงบีม (จุง อาเชน) ว่าสุดท้ายแล้วถ้าเราไม่สามารถที่จะเอาเขาขึ้นบัลลังก์ได้เราจะยังดูแลเขาอยู่ไหม ก็นั่งคุยกับพี่ธันน์ค่ะในซีน ในบทไม่ได้บอกว่าต้องซึ้งต้องร้องไห้นะ แต่ว่าพอตอนพูดก็คืออารมณ์ไปหมดแล้ว เพราะว่าตัวแอนนาเป็นคนที่ร้องไห้ยาก แต่เราด้วยความที่อินเราก็เลยจะร้องไห้ แล้วจะมีอีกซีนที่พี่ธันน์ เข้าไปช่วยบีมแล้ววันนั้นเหมือนเราไม่ได้ไปด้วย เราคิดว่าพี่ธันน์เอาอยู่ แต่พี่ธันน์กลับมาคือบาดเจ็บหนักมากทั้งที่เขาเก่งมาก เก่งพอๆกับเรา เป็นคู่หูกันแล้วพอเราเห็นเขาบาดเจ็บจะร้องไห้น้ำตามาแล้ว แต่ก็พยายามฮึบ...ว่าอย่าร้องนะ เพราะว่าแอนนาเขาไม่ร้อง มันเป็นความรู้สึกผูกพันเราเห็นเขาบาดเจ็บกลับมาแสดงว่ามันต้องแรงมากๆ ทั้งที่เขาเป็นคนเก่งมาก ก็เลยจะโมโหบีมไปด้วย

นอกจากเป็นนักฆ่าที่เก่งแล้ว ยังต้องเป็นนักฆ่าที่สวยที่สุดด้วย

ดูมั่นหน้าเหมือนกันนะคะ (หัวเราะ) แต่ว่าด้วยทุกคนเขาเชิดชูเราอยู่แล้วในเรื่อง เราก็เลยจะมั่นหน้าไปเองโดยอัตโนมัติ เรื่องนี้มันก็เลยกลายเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าบู๊ไปเลย คือแบบฉันมโนว่าฉันสวย ฉันเก่งที่สุด คือด้วยความที่ลูกน้องเราเก่งมากเพราะฉะนั้นมันก็จะไม่ค่อยมาถึงมือเรา แต่ถ้ามาถึงมือแอนนาแสดงว่าคนนั้นต้องตายแน่ ทุกคนที่เข้ามาถึงแอนนายังไงก็ตาย

พอได้ดูการแสดงของตัวเองแล้วรู้สึกอย่างไร

รู้สึกว่าเขาหลอกเราค่ะ เขาตัดแต่ซีนเท่ๆ ออกมา เดี๋ยวมันจะมีซีนดราม่าซีนตลกอีกเยอะมาก แล้วพอเห็นแล้วเราก็รู้สึกนะว่าทำไมตอนนั้นเราอินจังเลย เขาตัดมาขนาดนี้เลยเหรอ ตอนที่เล่นเราไม่รู้สึกฮึกเหิมขนาดนี้เลย แต่พอเราได้เห็นผลงานที่มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างมันก็รู้สึกดีใจค่ะ ที่แบบฉันได้เห็นสักที

จากบทบาทการเป็นนางแบบสู่งานแสดงมากขึ้น

ก็เพิ่งจะมาเริ่มเมื่อ 2 ปีนี้เองค่ะ คือผู้จัดการจะบังคับอยากให้ลอง พอลองเราก็รู้สึกสนุกกับงานนี้กับเวย์นี้ ซึ่งมันก็ต้องลองอีกเยอะเลยค่ะเพราะว่าเราก็เพิ่งเข้ามาได้แค่ 2 ปีเอง คือผู้จัดการก็อยากให้จีน่าเติบโตอยากให้ลองอะไรหลายๆ อย่าง จะได้รู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง คือถ้าเราอยู่แค่ในกรอบของเราแค่เดินแบบถ่ายแบบ ซึ่งเราอยู่ตรงนั้นมาประมาณ 5 ปีแล้ว ก็คืออิ่มแล้ว มันเหมือนอยู่ในสายเลือด มาถึงเราก็เดินได้เลย ก็เลยอยากให้เราเติบโต อยากให้รู้ลิมิตว่าเราสามารถออกไปแตะขอบฟ้าได้นะ

อยากผันตัวเองมาเป็นนักแสดงเต็มตัวหรือเปล่า

ก็ด้วยค่ะคือปีที่แล้วรับไป 5 เรื่อง ซึ่งเหนื่อยมาก แต่ยังติดต่อมาได้นะคะ คือเพิ่งถ่ายเสร็จเมื่อประมาณสิ้นปีที่แล้ว และมัน 5 เรื่องติด แล้วจะมีออนแอร์ 3 เรื่อง คือมีเรื่องนี้ มาฟียเดอะซีรีส์ แล้วก็อีก 2 เรื่อง ก็เลยรู้สึกว่าขอพักแปบนึงเดี๋ยวกลับมารับ คือขอพักหายใจสักครึ่งปีได้ไหม เพราะว่าการที่เราไปอยู่กองมันต้องอยู่ทั้งวัน คืออาทิตย์หนึ่ง 7 วัน หนูเคยรับ 3 เรื่อง แล้วก็เวียนกันอยู่ ก็ไม่ได้สับสนกับคาแรคเตอร์นะคะ เพราะว่าแต่ละเรื่องมันก็จะต่างกันมาก แต่จะมีแบบไปถึงกองถ่ายเสร็จเที่ยงปุ๊บจากชลบุรีต้องตีรถกลับกรุงเทพฯ ถ่ายเสร็จตีหนี่งต้องกลับไปถ่ายที่ชลบุรีเหมือนเดิม เพราะว่าคิวเขาแบ่งกันไม่ลงก็เลยต้องแบ่งกันแบบนี้เราก็เข้าใจค่ะ

ทุกวันนี้คิดว่าตัวเองเป็นนักแสดงหรือยัง

ยังเลยค่ะ หนูคิดว่าตัวเองเป็นนางแบบที่ได้เข้ามาเล่นละครเล่นซีรีส์มากกว่า ยังไม่ได้เก็บแต้มอะไรเยอะ ต้องขอบคุณทางผู้ใหญ่ค่ะ ปีที่แล้วหนูอยู่แต่กองละครตลอด เราไม่ได้ทำคอนเทนต์ที่อยากทำหรือว่าการเดินแบบมันก็หายไปบ้าง หายจากวงการแฟชั่นไปเลย ไม่ได้จะหยุดค่ะเพราะว่าสุดท้ายแล้วละครมันก็มีเสน่ห์ของมัน หนูยังอยากมากองอยู่ยังคิดถึงค่ะ

บทบาทที่อยากจะเล่น

อยากเล่นบทโรคจิตค่ะ เป็นอารมณ์แบบร้ายลึก แต่ไม่ถึงกับฆ่าหั่นศพนะคือเป็นแบบร้ายลึกมีแผนการแต่ไม่แสดงออกแต่แบบจิตๆนิดนึงอยากลองดูค่ะมันดูดิบดี แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเครียดไหม

นอกจากงานแสดงแล้วทำอะไรอีกบ้าง

เปิดคาเฟ่ค่ะทำธุรกิจเล็กๆ ชื่อต้าวหมี อยู่ซอยนาคนิวาส 27 ปากซอยเลย เป็นคาเฟ่ที่ทำเอง อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แล้วก็มีแบรนด์ที่แปะจุกนมชื่อแบรนด์Ginaginaมีไอจีให้ติดตาม ทั้ง 2 ธุรกิจเลยที่หน้าไอจีส่วนตัวของจีน่าชื่อ Ginaa.24

หันมาถามเรื่องความรักบ้าง

ก็โอเคค่ะ คบกันมาเกือบปีแล้ว (ทอย ปฐมพงศ์) ก็ได้ดูละครที่เขาเล่นเหมือนกันเขาส่งให้ดูหรือบางทีนั่งใกล้ๆ กันเขาก็จะให้ดู แต่ว่ายังไม่ได้ดูแบบเต็มเรื่อง เห็นที่แฟนคลับส่งมาให้เขาดู ก็เป็นช็อตเลิฟซีน จริงๆเราก็เหมือนถ่ายทำด้วยนะ เพราะว่าพอเขาไปถ่ายทำเสร็จแล้วกลับมาเขาก็จะเล่าให้ฟัง ความจริงเราก็รู้หมดแล้ว

คาดหวังกับความรักครั้งนี้มากแค่ไหน

หนูก็เหมือนทุกคนแหละค่ะ คือก็มีคาดหวังอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดไปไกลถึงเรื่องแต่งงาน คือพอมีความรักก็ต้องทำให้มันดีที่สุด ตอนนี้ก็แฮปปี้ดีค่ะ แต่ยังไม่มีแพลนแต่งงานอะไรเพราะว่าอยู่ในช่วงที่เราปรับตัวเข้าหากัน เรายังเด็กและยังห่างไกลกับคำว่าแต่งงานทั้งคู่ค่ะ ต่างคนต่างต้องทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง และไม่เคยเอาสิ่งนี้มากดดันกันและกัน คนจะใช่ก็ใช่ ใครจะไปรู้หนูอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เขาอาจจะไม่ใช่ของหนูก็ได้

มีการคุยเรื่องการรับงานกันบ้างมั้ย

หนูว่าเรื่องการรับงานเราให้สิทธิ์กันเต็มที่ เรารู้ลิมิตกันอยู่แล้วค่ะว่าอะไรมากไปหรือว่าอะไรที่มันพอดี เขาคิดมาดีแล้ว เรามีปรึกษากันอยู่แล้ว หนูว่าการแสดงมันไม่ใช่ชีวิตจริง อย่างเราก็มีบางครั้งเราหนักกว่าเขาอีกเลิฟซีนอะไรอย่างงี้ เพราะฉะนั้นเราก็พูดมากไม่ได้ ดังนั้นในเรื่องของงานเราจะปรึกษากันบทนี้รับดีไหมหรือยังไงดี คือจะเป็นคนที่คอยซัพพอร์ตกัน โอเคเธอจะรับก็รับถ้าไม่รับเพราะอะไรถึงไม่รับ ทุกครั้งที่เราจะปรึกษาเรื่องงานถ้าเป็นงานเล็กๆ เราก็จะปรึกษากับผู้จัดการ แต่ถ้าเป็นงานใหญ่ๆ ก็จะปรึกษาเขา เขาก็จะพูดมาคำหนึ่งว่าเอาที่สบายใจ ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องรับ คือเขารู้ลิมิตเราอยู่แล้ว หรือถ้าเราตัดสินใจไม่ได้สักทีเขาก็จะถามแล้วว่าหนึ่งสองสามคืออะไร ข้อดีข้อเสียที่จะรับหรือไม่รับ คือทั้งคู่มีมุมผู้ใหญ่ มีพาร์ตทำงานเพราะเราทำงานเลี้ยงดูตัวเอง แต่ว่าในมุมของแฟนหรือมุมของมนุษย์คนหนึ่งก็ยังมีความเป็นเด็กด้วยกันทั้งคู่ค่ะ

ติดตามคาแรคเตอร์ที่ไม่ธรรมดาของ สาวจีน่า ได้ใน Mafia The Series: Guns & Freaks (มาเฟียเดอะซีรีส์ ปืนกลและคนเพี้ยน)ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 23.00 น. ทางช่อง GMM25 และดูย้อนหลังได้ที่ WeTVหรือที่ https://bit.ly/MafiaTheSeries แฟนๆ สามารถติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวและอัพเดทผลงานของสแล็ป มอนสเตอร์ ได้ที่ FACEBOOK: SLAP MONSTER  / IG: Slapmonster.th

w014