หลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นานก็เจอดราม่ามากมายแต่"อิงฟ้าวราหะ"เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ปี2022ความฮอตของเธอก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อยพร้อมยังเปิดตัวว่าเป็นกลุ่มLGBTQ+รักได้ไม่จำกัดเพศเป็นนางงามก็สามารถเป็นกระบอกเสียงได้และตนมีจุดยืนที่ชัดเจนแย้มถึงเรื่องราวชีวิตรักและครอบครัวที่แสนลำบากในวัยเด็กจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อยากให้พ่อได้เห็นความสำเร็จในวันนี้เรื่องราวทั้งหมดนี้ในรายการWoody FM
ชอบอะไรบนใบหน้าและเรือนร่างของตัวเองมากที่สุด?
อิงฟ้า : ชอบดวงตาตัวเองค่ะจะบ่งบอกทุกอย่างเลยคือดวงตาโกหกไม่ได้เลยจริงๆอย่างบางทีเราบอกมีความสุขแต่ตาเราเศร้ามากคนรอบข้างก็จะรู้แล้วว่าไม่ใช่หนูเชื่อว่ามันจริงใจที่สุดแล้ว
มีหลายช่วงไหมที่เราต้องฝืนความรู้สึกแล้วคนก็จับได้?
อิงฟ้า : เยอะมากโดยเฉพาะตอนที่มาประกวดนางงามเราไลฟ์สดยังงี้ก็ต้องไม่เหนื่อยเลยค่ะแฮปปี้มากมีความสุขมากเลยเจอดราม่าเป็นยังไงโอ้โห! ลอยตัวค่ะไม่เป็นไรแต่ตาคือแบบน้ำตาคลอแล้ว
ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการมีดราม่าในชีวิต?
อิงฟ้า : เยอะนะคะมันทำให้หนูโตขึ้นถ้าเป็นเมื่อก่อนถ้าไม่ได้ประกวดนางงามคงก็มาดิคร๊าบอะไรแบบนี้แต่พอเราเป็นนางงามมันสอนให้เราใช้สติเก่งมากขึ้นมีวุฒิภาวะมากขึ้นรู้จักควบคุมสติตัวเองแล้วก็ใจเย็นมากขึ้นดราม่าจะมาไวไปไวมากถ้าไปจมกับมันหรือให้ความสำคัญจะทำให้เราดิ่งไปเลยแล้วจะเป็นตัวเรานี่แหล่ะที่ยังอยู่กับมัน
คำว่านางงามในความคิดของอิงฟ้าเป็นอย่างไรในวันนี้?
อิงฟ้า : ตอนเด็กเลยหนูคิดว่านางงามต้องรักเด็กเรียบร้อยต้องเป็นคนที่เพอร์เฟคทุกอย่างแต่พอโตมาสังคมเปลี่ยนทำให้เราเห็นว่าจริงๆแล้วการที่จะเป็นแบบอย่างให้กับใครสักคนไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคขนาดนั้นตัวหนูเองก็ไม่ได้เพอร์เฟคแม้กระทั่งที่มาเป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์2022แต่เราสามารถเป็นแบบอย่างอะไรหลายๆอย่างให้กับคนที่เป็นเด็กรุ่นหลังได้หรือเป็นผู้ใหญ่แล้วก็มีที่ให้เราเป็นไอดอลหรือให้เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตนางงามมิสแกรนด์ไทยแลนด์ต้องการคนที่คุณประกวดจะทำยังไงให้คนไม่ลืมคนสวยPerformance ดีมีเยอะมากแต่สิ่งที่จะทำให้คนตกหลุมรักคุณได้หรือเสน่ห์เอกลักษณ์ที่คนจะจำได้คืออะไรต้องงัดออกมาให้ได้มากที่สุดหนูก็ใช้ความเป็นตัวเองความจริงใจ ไม่เคยมีความลับกับแฟนคลับเลยรู้สึกว่าถ้าอะไรที่เป็นความจริงเราจะไม่เหนื่อยคนจะชอบก็ให้เขาชอบที่เป็นเราเพราะไม่สามารถที่จะทำให้คนชอบเรา100 %
อย่างเรื่องของการเป็นกระบอกเสียงLGBTQ ช่วงแรกก็โดนดราม่าหนักมากว่าเป็นนางงามจะมีคู่จิ้นได้ยังไงเป็นนางงามจะมาอยู่ในกลุ่มLGBTQ ได้ยังไงโดนเยอะมากเราพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าการที่เป็นLGBTQ สามารถเป็นนางงามได้และเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังได้ต้องยอมรับว่าโลกเราตอนนี้มีเยอะมากกลุ่มที่เป็นLGBTQ แม้กระทั่งการทำงานร่วมกับองค์กรแล้วเราก็ฝ่าฟันกับดราม่าได้จนทุกวันนี้กลายเป็นน้องๆนางงามหลายคนก็เปิดตัวว่าเขาเป็นLGBTQ เหมือนกันทุกคนกล้าที่จะเปิดตัวเองมากขึ้นแฟนคลับเรากล้าที่จะบอกพ่อแม่กล้าที่จะบอกกับเพื่อนกล้าที่จะเปิดเผยมากขึ้นเรายิ่งรู้สึกว่านี่ล่ะคือนางงามคือจุดยืนที่ชัดเจนว่าคุณมายืนตรงนี้เพื่ออะไรถ้าครอบครัวไหนเปิดใจยอมรับคุยกันและรับได้ในสิ่งที่ลูกตัวเองเป็นและเป็นกำลังใจให้หนูคิดว่าเด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาได้ด้วยศักยภาพมากๆ
ชีวิตรักของอิงฟ้าเป็นอย่างไร?
อิงฟ้า : เคยคบมาหลากหลายเพศมากๆเคยคบทั้งผู้หญิงและผู้ชายทอมเคยผ่านมาแล้วเราจะเห็นข้อดีข้อเสียต่างกันเสน่ห์ของแต่ละเพศต่างกันซึ่งจริงๆแล้วหนูมองว่าความรักจะออกมาดีไม่ดีไม่ได้อยู่ที่เพศเลยอยู่ที่คน2คนจะสร้างมันยังไงมากกว่าความรักของหนูแทบจะไม่สมหวังเลยไม่รู้เป็นอะไรเวลาคบใครสักคนจะดูที่ความสบายใจและสำคัญสุดคือความเสมอต้นเสมอปลายยิ่งกว่าคลับฟรายเดย์อีกขนาดไม่คบคนที่หน้าตาแล้วนะเจอโมเม้นต์แบบการทำร้ายร่างกายก็มีเป็น2คนในร่างเดียวเหมือนเราไม่เคยรู้จักเขามาก่อนคบเกือบ4ปีเพราะรักเลยให้อภัยเขาง้อนิดเดียวก็หายแล้วคิดว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเราได้เพราะให้โอกาสแต่มันก็ไม่ใช่บ้างคนมองว่าความรักอิงฟ้าต้องดีใครจะไปกล้านอกใจคือจริงๆฉันผ่านมาหมดแล้วตอนนี้โสดทำงานอย่างเดียวเลยค่ะเวลาจะคุยกับคุณแม่ยังไม่มีเลยล่าสุดมีแฟนก็คือก่อนเข้ากองประกวด6-7เดือน
คู่จิ้นหรือคู่จริง ?
อิงฟ้า :กับชาล็อตเราว่าก็น่ารักดีนะ ตอนนี้มีแต่เรื่องให้เครียดเศรษฐกิจเต็มไปหมด ถ้าอะไรทำแล้วมีความสุขทำเลย แล้วเราก็มีโอกาสได้คุณกับน้องชาล็อตว่าหนูอึดอัดหรือเปล่ากับกระแสจิ้นที่มันเกิดขึ้น น้องโอเคมาก เราธรรมชาติกันมากเลย เพราะฉะนั้นโมเม้นต์ที่เกิดขึ้นของเรา 2 คนธรรมชาติหมดเลย เราไม่ได้ทำตามใจแฟนคลับ จิ้นได้แต่ต้องมีสติด้วย เพราะเรา 2 คนอยู่ในโหมดของการทำงานอยู่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่หลังจากที่ผ่านล่วงเลยไปแล้วเสร็จหน้าที่ตำแหน่งนี้ไป
เริ่มทำงานตั้งแต่เด็กเลย?
อิงฟ้า : ใช่ค่ะ ต้องบอกว่าครอบครัวหนูจนจนเพราะว่าเหมือนตากับยายไม่ยอมรับคุณพ่อเพราะเขาเจ้าชู้พ่อกับแม่เลยต้องออกมาใช้ชีวิตกันเองโดยที่ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรให้สักอย่างเราไม่มีข้าวกินกันตอนนั้นอยู่ที่สุพรรณจำได้เลยอยู่กัน4คนแล้วห้องเล็กมากต้องยอมรับคุณพ่อคุณแม่ที่เขาไม่เคยทำให้เรารู้สึกเหนื่อยเลยตั้งแต่เด็ก
คุณพ่อจากไปเมื่อไหร่ครับ?
อิงฟ้า : ตอนหนูอายุ18คุณพ่ออายุ43คิดถึงพ่อค่ะตอนนี้เป็นความคิดถึงที่สวยงามมากคือเมื่อก่อนเป็นความคิดถึงที่ทรมานใจมากอยู่ด้วยกันพอวันหนึ่งที่เขาหายไปหายไปไหนก็ไม่รู้เราก็เคว้งแบบไม่รู้จะไปยังไงต่อมันจะเป็นยังไงต่อมันใจจะขาดจริงๆเด็กคนหนึ่งเหมือนของขวัญชิ้นใหญ่มันหายไปเป็นฟิลแบบอยู่ไม่ได้ประมาณ5ปีแรกก็ยังMove On ไม่ได้อยู่ดีพอโตขึ้นเริ่มทำงานเลยรู้สึกว่าเราท้อใจแล้วมองไปบนฟ้าเขาคงอยู่บนโน้นเขาสบายแล้วเหลือแต่เราที่ยังต้องเหนื่อยแล้วคิดว่าเขาภูมิใจในณตอนนี้ก่อนที่จะเสียเขาพูดกับหนูว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นคนเก่งดูแลแม่ได้
มีอะไรที่เราเสียดายอยากทำให้พ่อไหม?
อิงฟ้า : เยอะค่ะอยากพาเขาไปเที่ยวตั้งแต่เด็กคือเราเห็นว่าเขาลำบากเราทำงานกันหนักจริงๆชีวิตระหกระเหินสุดๆคือไม่เคยอยู่จังหวัดไหนเกิน3ปีย้ายตลอดชีวิตยิ่งกว่าคลื่นทะเลอยากให้เขาได้เที่ยวได้พักผ่อนแต่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้เพราะตอนนั้นเราไม่มีเงินตอนที่ได้มงกุฎนึกถึงพ่อมากๆคิดว่าถ้าเขายังอยู่คงกระโดดน่าดูปกติเวลาหนูร้องเพลงพ่อจะอยู่ข้างๆเวทีตลอดแต่ประกวดตอนเด็กไม่เคยชนะเลยในช่วงเวลาที่ไม่ชนะเขาจะบอกกับหนูตลอดว่าเก่งมากเขาจะคอยหาข้อดีแต่ละครั้งของหนูให้เรามีกำลังใจในงานหน้าจะทำให้ดีกว่านี้แล้วพอเรามาประกวดนางงามหันไปข้างเวทีมันไม่มี (ร้องไห้)
ความสัมพันธ์ระหว่างอิงฟ้ากับบอสณวัฒน์เป็นอย่างไร?
อิงฟ้า : เขาน่ารักมากช่วงแรกๆหนูกลัวเขามากเลยนะลุคเขาดูดุๆแต่พอมาสัมผัสจริงๆเขาจะมีมุมที่น่ารักมากเลยถ้าใครหลายๆคนเห็นแบบที่หนูเห็นจะรู้เลยว่าเขาเป็นคนที่อ่อนโยนมากช่วงที่เรามีดราม่าต่างๆเขาจะคอยบอกเสมอว่าหนูต้องผ่านมันไปให้ได้นะเขาจะเป็นคนที่ไม่ได้ปากหวานแต่คำพูดจะจริงใจเราสัมผัสได้เขาเป็นคนที่อบอุ่น
จาก อิงฟ้า ฝากถึงทุกคน ?
อิงฟ้า : ในเรื่องของคุณค่าของตัวเองไม่มีใครสามารถที่จะบอกได้เลยว่าเธอต้องทำแบบนี้นอกจากตัวคุณเองชีวิตต้องมีเป้าหมายว่าคุณจะทำอะไรในวันพรุ่งนี้ไม่ต้องตั้งถึงอนาคตข้างหน้าสิ่งที่ทำต้องไม่เดือดร้อนคนอื่นและสังคมไม่ทำให้ครอบครัวเสียใจอยากทำอะไรทำเลยมีความฝันก็ทำผลักดันตัวเองออกไปให้ถึงกว่าจะประสบความสำเร็จแบบหนูล้มลุกคลุกคลานมาเยอะไม่คิดว่าตัวเองจะสำเร็จตอนอายุ27 เพราะจะคิดเสมอเลยว่าความสำเร็จเหมือนขั้นบันไดคุณต้องผ่านการล้มลุกคลุกคลานต้องมีอุปสรรคมีปัญหาเป็นขั้นๆอยู่แล้วเพื่อเป็นบททดสอบให้คุณแกร่งไม่มีใครที่ชีวิตเรียบง่ายแล้วไปถึงได้เลยเป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่รู้สึกท้อแท้ไม่มีกำลังใจไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ไม่มีใครเห็นได้ถ้าเกิดคุณไม่เห็นคุณค่าของตัวเองใครไม่เห็นไม่เป็นไรแต่เราเห็นให้กำลังใจตัวเองเยอะๆรักตัวเองเยอะๆค่ะ
สามารถติดตาม Woody FMได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันจันทร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน เวลา 19.00 น.
คลิกชมย้อนหลัง :https://www.youtube.com/watch?v=Zf6nwhDqm80
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี