เดินทางมาถึงช่วงท้ายของอัลบั้ม “เพื่อชีวิตกู” งานเพลงอัลบั้มที่ 2 ของ “ไททศมิตร” ศิลปินเพื่อชีวิตยุคใหม่แห่งค่าย GeneLab ในเครือ GMMGrammy ที่เรียกได้ว่าเข้มข้นและอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวชีวิตและการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ ในสังคมไทยซึ่งพวกเขาถ่ายทอดออกมาได้อย่างเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของคนฟังหลากหลายกลุ่มจนคว้า 2 รางวัลจากเวที adman AWARDS & SYMPOSIUM 2022 ในสาขา Best of show และ Best in Entertainment : Music
“สักวันหนึ่ง” คือเพลงส่งท้ายอัลบั้มที่พวกเขาเลือกมาส่งต่อกำลังใจให้ทุกคนก้าวผ่านคืนวันอันเลวร้ายไปด้วยกันซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้ถูกถ่ายทอดโดยโฟโมสหนึ่งในสองนักร้องหลักของวงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาที่ต้องตกอยู่ในจุดต่ำสุดด้านสภาวะจิตใจจนรู้สึกมืดแปดด้านและได้พบว่ามีภาวะของโรคซึมเศร้าคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยเจอมาในชีวิตนี้พาร์ทดนตรีถูกเล่าอย่างโดดเดี่ยวโดยกีตาร์โปร่งที่นำขึ้นมาและค่อยๆ เข้าถึงและโอบอุ้มด้วยเสียงของออร์เคสตร้าขนาดใหญ่ไล่ระดับไปตามเนื้อหาของท่อนเพลงที่ได้แม็ก The Darkest Romance มาช่วยเขียนออร์เคสตร้าและคอมโพสทั้งหมดก่อนจะส่งต่อให้พิซซ่าทฤษฎี ณ พัทลุง เล่าอารมณ์สื่อสารผ่านวงออร์เคสตร้าในห้องอัดโดยมี เจ เจษ ตุ๊ก สมาชิกของวงเล่าถึงการทำงานในพาร์ทดนตรีว่า…“เพลงนี้ค่อนข้างยากเพราะไททศมิตรแทบจะไม่เคยแตะออร์เคสตร้ามาก่อนการดูงานหรือเช็คส่วนต่างๆเป็นไปได้ยากมากโชคดีที่ได้ความช่วยเหลือจากพี่โอมทั้งหมดทั้งการประสานงานหรือดูภาพรวมที่ควรจะเป็นได้อย่างสมบูรณ์จนจบขั้นตอนการ final mix และอีกส่วนที่ยากคือการอัดร้องของพี่โมสที่จะต้องขุดทุกอย่างคือต้องให้รู้สึกจริงๆ ถึงจะทำออกมาได้เราใช้เวลาอัดร้องไปหลายครั้งแต่จบด้วยการอัดร้องในวันที่มาอัดออร์เคสตร้าครับ”
ด้านโฟโมส (นักร้องนำ) กล่าวเสริมถึงเนื้อหาของเพลงนี้ว่า… “ผมอยากฝากถึงแฟนเพลงและผู้ตกในสภาวะเดียวกันกับผมว่า “กูเข้าใจมึงจริงๆนะเพื่อน” อยากให้รู้ว่าครั้งหนึ่งพวกคุณนั่นแหละที่เป็นคนดึงผมไว้ผมรู้สึกโชคดีมากที่มีทุกคนคอยให้กำลังใจคอยกระโดดตะโกนร้องไปกับเพลงของผมจนผมผ่านวันร้ายๆ นั้นไปได้วันต่อวันแต่บางคนคงไม่ได้โชคดีแบบผมผมจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ส่งต่อบทเพลงที่ผมเขียนขึ้นมาตอบแทนเป็นคำขอบคุณทุกคนอย่างใจจริงและหวังว่าทุกคนจะปลอดภัยสักวันหนึ่งมันจะเกิดขึ้นอีกครั้งสักวันหนึ่งมันจะกลืนกินเราอีกครั้งแต่สักวันหนึ่งนั้นมันจะผ่านไปและขอให้ทุกคนจงหยัดยืนด้วยพลังแล้วพบกันในสักวันหนึ่ง ณ ที่ใดที่หนึ่ง”
สุดท้ายจ๋าย (นักร้องนำ) กล่าวทิ้งท้ายถึงอัลบั้ม “เพื่อชีวิตกู”ว่า… “อัลบั้มนี้เรียกได้ว่าเป็นบททดสอบอันยิ่งใหญ่ของพวกเราไททศมิตรมากๆ กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อนตั้งแต่ต้นการทำงานไปจนถึงท้ายอัลบั้มแต่ละบททดสอบล้วนหนักหน่วงไม่มีความปรานีเลยหลายๆ ครั้งมันสั่นคลอนให้เราตั้งคำถามว่า “เรามาได้แค่นี้ใช่ไหม” แต่ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังกลับมีแสงสว่างในเวลาเราที่เราตาบอดมองไม่เห็นทางโสตประสาทไร้การควบคุมจนบางทีเราลืมว่ามีเพื่อนๆ อีก 5 คน มีทีมงานอีกเกือบ 10 ชีวิตคอยจับมือเราอยู่ที่มากกว่านั้นมันทำให้เรารู้ว่าทำไมเรามักจะมองเห็นแสงสว่างจากที่ไกลๆ เสมอเพราะตลอดเวลาเราถูกรายล้อมด้วยผู้คนมากมายมากจนเราจินตนาการไม่ออกมองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้และแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์นั้นถูกพบเห็บโดยผู้คนเหล่านั้นและมันส่งมาถึงเราเรารอดมาได้เพราะคุณจริงๆ แค่อยากบอกคุณว่า “ครั้งหนึ่งเธอเป็นคนดึงฉันไว้” และในวันข้างหน้า “สักวันหนึ่ง” บททดสอบเหล่านั้นจะหวนกลับมาใหม่ “สักวันหนึ่ง” มันจะผ่านไปและทำให้คุณรู้ว่าในโลกอันกว้างใหญ่นี้คุณไม่ได้ยืนอยู่เพียงลำพัง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี