การกลับมาอีกครั้งของหนังชุด ขุนพันธ์ ผลงานหนังแอ๊กชั่นสุดมันส์ในสไตล์คาวบอยแบบไทยๆ ผสมผสานคาถาอาคม ไสยเวทย์ของ โขม-ก้องเกียรติ์ โขมศิริ ที่ สหมงคลฟิล์ม ทุ่มทุนสร้างขุนพันธ์ ในปี 2559 ขุนพันธ์ 2 ตอน ปราบเสือสุพรรณในปี 2561 มาปีนี้ ขุนพันธ์ 3 ตอน วันพิพากษา
ขุนพันธ์ 3 ยังคงนำเสนอเล่าเรื่องของตัว ขุนพันธ์ กับการเจอะเจอคู่ปรับที่เป็นเสือร้ายร่วมยุคสมัยเดียวกัน อีกสิ่งหนึ่งที่ขุนพันธ์ ทุกภาคย้ำคือเรื่องของครอบครัว คนรัก การสูญเสียตัวละครทั้งตัวหลัก ตัวเสริม ตัวดี ตัวร้าย มีจุดพลิกผันที่ถูกโยงใยกับลูกเมีย เป็นการใส่ดราม่าเข้ามาช่วยขยี้อารมณ์สะเทือนใจ รวมทั้งการนำเด็กๆ แก๊งเด็กๆ ก็เพิ่มความสดใสให้กับตัวเรื่องได้ไม่เลวทีเดียว
โขม-ก้องเกียรติ์ โขมศิริ เล่นใหญ่มากๆ กับ ขุนพันธ์ 3 อัดทุกสิ่งเข้ามาแบบเต็มที่ ฉากแอ๊กชั่นแบบเต็ม มาแบบตลอดๆ สู้กันในทุกรูปแบบ มือเปล่า อาวุธครบมือ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ดิบโหดบู๊ระห่ำ คาถาอาคมไสยศาสตร์ ผีดิบซอมบี้ การบุกป่าในแบบที่ชวนให้นึกถึง ล่องไพร หรือ เพชรพระอุมา CG ในภาคนี้ดูสมจริง ฉากย้อนยุคเสื้อผ้าหน้าผม เครื่องแต่งกาย พร้อมของประกอบฉากยังคงเนี้ยบ รวมทั้งดนตรีประกอบ ธีม ขุนพันธ์ ที่ใช้มาทุกภาคที่ทำให้อินเหมือนโดดเข้าไปอยู่ในหนังคาวบอย รวมทั้งเพลงปิดท้ายที่นำเอาเพลง มือปืน ของ ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ มาทำใหม่โดยน้อย วงพรู กับ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์
อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ยังคงถ่ายทอดความเป็นตัว นายบุตร หรือ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ออกมาได้ดี ทำให้เชื่อได้ว่าเขาเป็นตัวขุนพันธ์ ที่มีพัฒนาการเติบโตขึ้นตามวัยจาก 2 ตอนก่อนมาดเท่ๆ ในชุดตำรวจสะพายดาบอยู่บนหลังม้า โดนใจ ได้ใจจริงๆ
มาริโอ้ เมาเร่อร์ ฉีกภาพของ เสือมเหศวร ที่เคยดูๆ กันมาจากภาคก่อนๆ อาจจะดูสำอางไปนิด ดูเด็กไปหน่อย แต่ก็ให้ความรู้สึกของพระเอกหล่อ เก่งกะล่อน ในแบบมังงะญี่ปุ่น
เสือดำ ที่ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ แสดงดูดุดันออกมาในแนวร้ายๆ แบบมีปม มาดดีหุ่นให้ คิวบู๊กระจาย ภาพของหมัดพิฆาตดาวเหนือหรือคอบร้าลอยมาเลย
แต่ที่มาน้อยแต่ดูดีคือการกลับมาอีกครั้งของ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ในบท เสือใบ และ พ.อ.วันชนะ สวัสดี ในบท เสือฝ้าย จากขุนพันธ์ 2 และ น้อย วงพรู-กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ในบทอัลฮาวียะลู จาก ขุนพันธ์ 1 ที่ทำให้ ขุนพันธ์ 3 ดูมีพลัง สนุกมากยิ่งขึ้น สามเสือกลับมาพร้อมกับความทรงจำที่เราๆ คุ้นเคยกันดี
เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ ในบท ผู้กองทัดเทพ ก็ดูร้ายได้ใจจริงๆฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา ในบท สาวิตรี คุณหมอสาวขาลุยพลอย-ชิดจันทร์ ห่ง ในบท นุ่น เมียสาวขุนพันธ์ หนึ่ง-ชลัฏ ณ สงขลาในบท ผู้การตำรวจ รวมทั้งบรรดานักการเมืองในเรื่องที่แคสติ้งออกมาถอดแบบคนในประวัติศาสตร์จริงๆ
แม้โดยรวม ขุนพันธ์ 3 จะออกมาดูสนุกแต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ดูแล้วสะดุด รู้สึกถึงความไม่สมบูรณ์ของหนัง ฉากแอ๊กชั่นที่เน้นในสไตล์สตันท์แมน โชว์ท่าต่อสู้สวยๆ มันดูไม่ลื่นไหล มันดูกระตุกๆสะดุดๆ ผิดกับสองภาคแรกที่ฉากต่างๆ เหล่านี้ดูลื่นไหลกว่านี้
ภาพรวมแล้ว ขุนพันธ์ 3 ตอบโจทย์ความบันเทิง ความเป็นหนังแอ๊กชั่นแฟนตาซี ที่มีครบรส ดูสนุกสนาน ทำให้หนังความยาว 156 นาที ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดูจบเดินออกมาจากโรงแบบมีรอยยิ้มและความสุข สำหรับ ขุนพันธ์ 3 ได้ใจไปเต็มๆ 9/10 คะแนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี