เสาร์นี้เราจะพามาทำความรู้จักกับหนุ่มใหม่ไฟแรง ซึ่งไม่ใช่ ดารา หรือศิลปินนักร้องแต่อย่างใด แต่เขาเป็นผู้ประกาศข่าว ทางสำนักข่าวไทย รู้อย่างนี้แล้วคงไม่ใช่ว่าใครก็เป็นได้ ต้องประกอบไปด้วยหลายๆ อย่าง รอบรู้ เรื่องราว รอบด้าน การเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง ซึ่งหนุ่มน้องใหม่แห่ง สำนักข่าวไทย คนนี้ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าฝีมือคนนั้นมันพัฒนากันได้ โดยไม่ต้องมานั่งรอโชคชะตา

ชื่อ กาย ครับ พงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ ตอนนี้ก็ทำงานเต็มตัวแล้ว เป็นผู้ประกาศข่าว จากสำนักข่าวไทยครับ

เส้นทางการเป็นผู้ประกาศข่าว

เริ่มแรกเลยคือ ผมเป็นคนที่สนใจในเรื่องของข่าวติดตามข่าวตลอดว่า เรื่องอะไร เกิดอะไรขึ้นในแต่ละวันชอบตั้งแต่เด็กๆ ละครับ แต่พอมีการเปิดรับสมัครก็เลยลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย แต่ผมไม่มีทักษะในการอ่านและการพูดเลย แต่ด้วยความที่เรามีใจรักในด้านนี้ผู้ใหญ่เลยมองเห็นความสำคัญ

จบด้าน เศรษฐศาสตร์ แต่ก็ได้มาเป็นผู้ประกาศข่าว

ครับ ผมมองว่าไม่จำเป็นหรอกว่าเราจะเรียนจบอะไรมา เพียงแต่ขอให้เรามีความตั้งใจที่จะเรียนรู้งานที่อยากทำมันก็โอเคแล้วครับ อย่างผมเรียน มาทางด้านเศรษฐศาสตร์ แต่ในขณะเดียวกันผมก็มีความสนใจในเรื่องของข่าว ไม่ว่าจะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือแม้แต่ข่าว บันเทิง ซึ่งเราก็เรียนรู้จากตรงนั้นครับ

การเรียนรู้งาน

จากเดิมที่ชอบติดตามข่าวอยู่แล้ว เมื่อได้ฝึกฝนด้านข่าวเพิ่มเติม ทำให้มีความรู้ ทักษะในการนำเสนอข่าว รวมทั้งได้ทดลองไปทำข่าวภาคสนามด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีทำให้รู้ว่ากว่าจะเป็นข่าว 1 ชิ้น ทางหน้าจอโทรทัศน์ ผู้สื่อข่าวต้องทำงานหนัก แค่ไหน จากนั้นจึงมารับหน้าที่ ผู้ประกาศข่าวต้นชั่วโมง, ข่าว 9 เศรษฐกิจ จนเป็นผู้ประกาศข่าวภาคค่ำ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี คู่กับ พี่โบ-เกวลิน กังวานธนวัต

เชื่อมั่นขนาดไหนว่าจะทำได้ สำหรับการเป็นผู้ประกาศข่าว

ช่วงแรกก็มีประหม่าบ้างนิดหน่อย เพราะด้วยเรายังใหม่ทุกอย่างใหม่หมด ก็มาเรียนรู้ว่าอะไรคืออะไร ก่อนที่จะเข้ามาอ่าน เดือนมกราคม ปี 2555 ก็คัดเลือกเสร็จ ตอนเดือนกันยายน ปี 2554 ก็จะมีเวลา ตุลาคม-ธันวาคม สามเดือนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราจะต้องเรียนรู้งาน ก็ได้พี่โบ-เกวลิน กังวานธนวัต เป็นคนคอยสอนเรียกได้ว่าเป็นครูสอนเราเลยจะดีกว่า

เริ่มต้นจากข่าวต้นชั่วโมง

ผมต้องบอกว่า ตั้งแต่เริ่มอ่านข่าวต้นชั่วโมง มันก็ต้องมีการขยับ มาอ่าน ตอนกลางวัน มาอ่านข่าวพยากรณ์อากาศ ข่าวภาคเที่ยง ก็ขยับมาเรื่อยๆ ก็ใช้เวลานานพอสมควรครับกว่าที่เราจะได้มาอ่านข่าวภาคค่ำ ก็ประมาณปีครึ่ง สำหรับการเรียนรู้งาน

เคยคิดไหมว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว

เป็นเรื่องบังเอิญมากครับ คิดหนักนะเพราะช่วงนั้นเราก็อยู่ปี 4 แล้วจะเรียนจบแล้ว ก็ปรึกษากับแม่ว่าจบมาจะไปทำอะไรดี ก็เคยคิดเล่นๆ ว่าอยากจะเป็นผู้ประกาศข่าว แต่เราก็คิดว่ามันยากนะ หลายๆ คนก็อยากจะเป็นกันไม่รู้จะมีโอกาสรึเปล่าและไม่รู้ว่าจะมีการเปิดรับสมัครรึเปล่าแต่หลังจากที่ปรึกษากับคุณแม่ผมก็ลองมาสมัครดู “คิดไว้ว่า อะ ไหนก็อยากลอง ก็ลองดู”

1 ปีผ่านมาได้อะไรจากตรงนี้บ้าง

ผมว่างานทำให้คนโตขึ้นนะ ผมว่าผมโตขึ้น มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา เรื่องสำคัญมากนะครับ เพราะเป็นรายการสด และการติดตามข่าวสารอื่นๆ ก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบเหมือนกัน อย่างที่บอกเราต้องรู้ให้มากที่สุด สมองมันไม่มีทางเต็มหรอก นอกจากเราจะไม่พัฒนา ต้องรู้เท่าที่จะเรียนรู้ได้ เราต้องรู้เรื่องชาวบ้าน (หัวเราะ...) ติดตาม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเมือง อาชญากรรม เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง

วางอนาคตกับการเป็นผู้ประกาศข่าวอย่างไรบ้าง

จากตรงนี้เลยผมไม่ได้มอง ว่าเราจะไปได้ไกลสักแค่ไหน อยากให้เป็นไปตาม วุฒิภาวะ ความรู้ความสามารถที่เรามี และก็อยากทำตรงนี้ออกมาให้ดีที่สุด

คติในการทำงาน

ให้เวลากับงานครับ ต้องเอาใจใส่ งานทุกงานมันอาจจะมีผิดบ้าง กดดันบ้าง ยากง่ายแตกต่างกันไป คนเราจะเก่งกาจมาจากไหนผมว่า ประสบการณ์หาซื้อไม่ได้นะ แต่สิ่งที่เราสามารถเสริมให้ตัวเองได้นั้น คือความรู้ คนอื่นจะอายุมากน้อยไม่สำคัญแต่สำคัญที่เราแสวงหาความรู้ใส่ตัวได้แค่ไหน

ฝากถึงผู้ที่อยากเป็น ผู้ประกาศข่าว

มีคนเยอะมากนะครับที่อยากเป็นผู้ประกาศข่าว แต่ก็อยากให้ถามตัวเองนิดนึงว่า เราชอบจริงหรือเปล่า ไม่ใช่เพราะอยากเป็น เพราะได้เงินเยอะหรืออะไรก็แล้วแต่ อยากบอกว่าเราต้องรู้ให้เยอะที่สุด ข่าวสารบ้านเมือง รักในการที่จะติดตามข่าว อย่างที่ผมพูดอยู่บ่อยๆ ข่าวต่างประเทศ ในประเทศ การเมือง อาชญากรรม เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง ต้องติดตามครับ ส่วนใครที่อยากติดตามความเคลื่อนไหว กาย ก็สามารถ Follow Instragram กาย ได้ที่ @PONGKASEM_S และ @MCOT_ANCHORS ขอบคุณครับ

เจฟฟ์ มารา

@jeffmarajeff