เริ่มต้นจากการทำงานในสายอาชีพผู้สื่อข่าวสายการเมือง ได้รายงานสดสถานการณ์ต่างๆ อยู่เป็นประจำ และเป็นพิธีกรรายการสารคดีโทรทัศน์ของช่อง 9 ต่อมาในยุคทีวีดิจิทัล ผู้ประกาศข่าวหลายคนย้ายสังกัดทำให้สำนักข่าวไทยต้องเร่งหาผู้ประกาศมาทำหน้าที่ จึงได้รับโอกาสจากผู้บริหารของสำนักข่าวไทยให้ทำเดโม่ จนต่อมาได้รับเลือกให้อ่านข่าวต้นชั่วโมงวันเสาร์-อาทิตย์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าว และยังทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวสายการเมืองที่ต้องทำข่าวภาคสนามไปพร้อมๆ กัน รวมถึงยังได้รับโอกาสในการเป็นนักจัดรายการวิทยุด้วย สำหรับการสอบเป็นผู้ประกาศข่าว หลังผ่านการอบรมจาก กสทช.ก็ทิ้งเวลาหลายปีกว่าจะได้สอบใบผู้ประกาศข่าว ซึ่งก่อนสอบก็ได้เตรียมตัวอย่างหนักเพราะกลัวไม่ผ่าน จึงไปร่วมฝึกอบรมเพื่อเรียนรู้วิธีการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง จนกระทั่งสอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก

ความยากในจุดเริ่มต้นของเราคืออะไร

ความกังวล เรื่องการอ่านออกเสียง การเจอข่าวที่เราอาจไม่คุ้นชินเนื่องจากเราทำข่าวการเมืองมาตลอด ซึ่งจะไม่คุ้นเคยหรืออ่านข่าวอื่นน้อยกว่าข่าวการเมือง และยิ่งกังวลก็จะทำให้มีจุดผิดพลาดขึ้น ดังนั้นที่ผ่านมาจึงพยายามอย่างหนักในการทำการบ้านกับข่าวที่หลากหลาย ดูไปอ่านออกเสียงไปด้วย ฝึกบ่อยๆ และดูตัวเองย้อนหลัง เพื่อจดบันทึกข้อผิดพลาด ยอมรับใช้เวลานานกว่าจะก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้มาได้ และพยายามฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ เพราะทุกวันนี้ก็ยังมีจุดบกพร่องอยู่

อยากให้เล่าถึงการเตรียมตัวสำหรับการทำรายการ ‘9 ข่าวเช้า’ ในแต่ละวัน

เริ่มจากช่วงเย็นจนไปถึงก่อนนอน จะอัปเดตข่าวสาร ประเด็นความเคลื่อนไหวของข่าวที่จะเกิดขึ้น หรือ บางวันจะโทรไปเช็คข่าวกับแหล่งข่าวในเรื่องนั้นๆ ด้วยตัวเอง เพื่อให้เข้าใจบริบทข่าว ได้ความคืบหน้า เพื่อใช้ในการอ่านข่าวเล่าเคียงข่าวเพิ่มอรรถรสให้กับผู้ชมได้รับทราบ พอตื่นเช้าก่อนไปถึงสถานีก็จะเปิดดูความเคลื่อนไหวข่าวอีกครั้ง แม้แต่ตอนขับรถก็จะเปิดฟังข่าวเพื่อติดตามประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน เมื่อถึงสถานีก็จะไปยัง กองบรรณาธิการข่าวเพื่ออ่านสคริปข่าว เป็นหาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ข้อกฎหมาย หรือ ย้อนหลังเหตุการณ์ และหากเป็นช่วงที่มีสถานการณ์ด่วน เหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่ต้องต่อสายโทรศัพท์สัมภาษณ์แหล่งข่าวสดในรายการ ก็จะจดประเด็นคำถามเอาไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 5-6 คำถามเสมอ เพื่อทำความเข้าใจก่อนการสัมภาษณ์ จากนั้นหลังจบรายการทุกวัน จะเดินกลับไปยังห้องกองบรรณาธิการ เพื่อพูดคุยกับ บก.รายการ9 ข่าวเช้า และโปรดิวเซอร์รายการ ถึงจุดผิดพลาด วิธีการแก้ไข หรือ ข้อดี สิ่งที่ทำได้ดีในแต่ละวันที่อ่านข่าว เอามาปรับปรุงตัวเอง

โดยส่วนตัวแบ่งเวลาการทำงาน กับการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง

Work Hard Play Harder คำนี้น่าจะตรงที่สุด เราทำงานหนักและใช้เวลาทำงานมากกว่า 12 ชั่วโมง เกือบทุกวัน เพราะต้องตื่นตี 3 กว่าๆ เพื่อไปอ่านข่าว และออกไปทำข่าวภาคสนามทุกวัน ดังนั้น จะจัดสรรวันสำหรับตัวเองอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน เพื่อพักผ่อนส่วนตัว และใช้เวลากับครอบครัว คิดมาเสมอ ทำงานหนักได้ แต่เวลาที่ต้องให้กับตัวเราเองต้องมี หากวันไหนเสร็จงานเร็วก็จะแวะไปเสริมสวย ทำผม ทำเล็บ นวด หรือ ไปทานข้าวกับครอบครัว เมื่อถึงต้องเข้านอนก็นอนให้ตรงเวลา ไม่ให้เสียงานที่ทำ และสิ่งที่ทำเสนอคือ พยายามวางแผนจัดตารางสิ่งที่อยากทำไว้ล่วงหน้า

เวลาที่เหนื่อย หรือ ล้า จากการทำงาน ต้องทำอะไร เพื่อให้หลุดจากความรู้สึกแบบนั้น

กินของอร่อย การกินทำให้เราอิ่มท้องและพักจากเรื่องราวต่างๆ เพราะเราจะจดจ่อกับของอร่อยที่อยู่ตรงหน้าเมื่ออิ่มก็พักผ่อน นอนหลับ และก่อนนอนจะบอกกับตัวเองเสมอว่าฝันดี วันพรุ่งนี้มีสิ่งดีๆ รออยู่ พอตื่นก็บอกกับตัวเองว่า ไปทำงานที่เรารักกันเถอะ เติมสิ่งดีๆ ให้ตัวเองเสมอๆ

สำหรับครอบครัวมีส่วนผลักดันในการทำงานให้กับเราแบบไหนบ้าง

ครอบครัวมีส่วนช่วยผลักดันอย่างมาก เริ่มตั้งแต่คุณพ่อ อยากให้เรียนนิเทศศาสตร์ อยากให้ทำข่าว เพราะคุณพ่อชอบดูข่าวมากๆ พอได้ทำงานข่าวและได้เป็นผู้ประกาศข่าวด้วย ก็ได้รับแรงส่งเสริมเป็นกำลังใจให้เสมอมา คุณพ่อจะเป็นนักคอมเมนเตเตอร์ที่ดี จะรอดูทุกๆ รายการข่าวที่ลูกสาวได้อ่าน จะคอยบอกว่าต้องปรับปรุงอะไร จุดไหนทำได้ดีและคอยอัปเดตข่าวสารให้ด้วย ซึ่งทุกคนในครอบครัวคือกำลังใจที่ดีมากๆ

ความเป็นผู้หญิงมีอุปสรรคในการทำงานตรงจุดนี้บ้างมั้ย

ไม่ว่าเพศใด ส่วนตัวก็คิดว่าไม่เป็นอุปสรรค เพราะการทำงานหากเราเอาอุปสรรคมาเป็นตัวตั้งการทำงานไม่ว่าจะประเภทไหนคงไม่สามารถสำเร็จได้การเป็นผู้ประกาศข่าวหญิง มีจุดเด่นที่ความอ่อนโยน สุภาพ นุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยบุคลิกที่คล่องแคล่ว ดุดันแบบไม่โหดร้ายได้ไปในเวลาเดียวกัน เราสามารถใช้ความเป็นผู้หญิง สะท้อนมุมมองทางสังคม เป็นตัวแทนในการผลักดันเรื่องสิทธิและหน้าที่ ความเป็นธรรมได้