ในที่สุด Miss Grand International 2023 คนที่ 11 ของโลก ได้ถือกำเนิด แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ หลัง ลูเซียน่า ฟัสเตอร์  (Luciana Fuster) มิสแกรนด์เปรู ฝ่าด่านสุดหินช่วงชิงคะแนนในทุกรอบการแข่งขันบนเวทีการประกวด Miss Grand International 2023 แต่การเป็นที่หนึ่งได้นั้นไม่ได้วัดที่ความสวย หรือ รูปร่าง แต่เธอคนนี้มีครบทุกอย่างถือเป็นนางงามตามแบบฉบับ 4B ที่ บอสตามหา  Beauty Body Brain และ Business สามารถคว้ามงทองมาครองได้สมศักดิ์ศรี ส่งผลให้รองตกเป็นของ มิสแกรนด์เมียนมาร์ ม้ามืดตัวเต็งที่มีแรงสนับสนุนจากแฟนคลับเมียนมาร์ล้นหลาม ทะลุผ่านเข้ามาถึงรอบจับมือ มิสแกรนด์เวียดนาม เจ้าภาพ ได้รอง 4 ขณะที่ อุ้ม ทวีพร ไทยแลนด์ ทำดีที่สุดแค่รอง 5 ล่าสุด บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล แพลนงานรองรับ 10 มงทองไว้แน่น พร้อมเดินทางตอกย้ำความสำเร็จของเวทีอันดับหนึ่งของโลก We are GRAND, The One and ONLY  นางงามไม่กริบ ไม่หาย พร้อมใช้เสมอ และเป็นแรงขับเคลื่อน แคมเปญอย่าง Stop The War And Violence ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ อย่างจริงจัง

สำหรับบรรยากาศการประกวด Miss Grand International 2023  ณ  PhuTho  Indoors Stadium (ฝู เถาะ อินดอร์สเตเดี้ยม) นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เจ้าภาพจัดการประกวดโดย คุณ ฮว่าง เญิต นาม (Mr.HoangNhat Nam) และ  มาดาม ฟ่าม กิม ยุง (Ms. Pham Kim Dung) แห่ง SenVang Entertainment  (เซน แวง เอ็นเตอร์เทนเมนท์) ทุ่มงบดูแลและจัดงานเต็มรูปแบบทุกรอบ ผสานทีมที่ บอสณวัฒน์ ขนมาจากเมืองไทยเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ คาดเดาไม่ได้ นอกจากต้องรอชมด้วยตาทาง Youtube : Grand TV เท่านั้น โชว์อลังการงานพรมแดงตั้งแต่ช่วงเย็นกับเหล่าเซเลบริตี้ฝั่งเวียดนาม ทีม มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ทีม PD มิสแกรนด์ระดับจังหวัดที่มาพร้อม มิสแกรนด์ ประจำจังหวัดของตัวเอง แต่งองค์ทรงเครื่องเฉิดฉายเรียกยอดไลท์กระหึ่ม ส่วนในฮอลล์แค่โอเพนนิ่งซีน  Alive Vietnam สวยฉ่ำมงมากแม่ นำโดย “ควีนเบล” อิซเบลลา เมนิน Miss Grand International 2022 พร้อมผู้เข้าประกวดทั้ง 70 ประเทศ  เสียงเชียร์เสียงกรี๊ดสนั่น ตื่นตากับกราฟฟิคสุดอลังการบนเวที ยอดผู้ชมไลฟ์สดทะลุหลักล้านในชั่วพริบตา

แมทธิว ดีน ยังคงรับหน้าที่พิธีกรหลัก ประกาศรางวัลแรก Best National Costume  ได้แก่ มิสแกรนด์เจแปน , มิสแกรนด์ไนจีเรีย และ มิสแกรนด์เวียดนาม พิธีกรประกาศผลผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย เริ่มด้วยผู้ชนะรางวัล Country’s Power Of The Year ได้แก่ มิสแกรนด์เมียนมาร์ คว้าสิทธิ์เข้ารอบอัตโนมัติเป็นคนแรก ตามมาด้วย ยูเอสเอ,เปอร์โตริโก ,ไนจีเรีย , เช็ค รีพับบลิค , อินโดนีเชีย , ฮอนดูรัส , ลาว , โดมิดิกัน รีพับลิค , โคลอมเบีย ,อินเดีย ,ยูเครน , ไทยแลนด์ , เปรู , แองโกล่า ,เนเธอร์แลนด์ , อุซเบกิสถาน , ฝรั่งเศส ,สเปน และ เวียดนาม ต่อด้วยการแข่งขันรอบชุดว่ายน้ำ สดใสในชุดทูพีซแบรนด์ MGI Swimwear X BIKINI PASSPORT อวดรูปร่าง การเดิน การโพสต์เต็มที่ งานนี้ไม่มีใครยอมใคร แซ่บไปไม่ต้องกั๊กเพราะพวกเธอมันเลือดนักสู้! พิธีกรประกาศรางวัล Best in Swimsuit ได้แก่ มิสแกรนด์ โดมินิกัน รีพับบลิค

คราวนี้มาลุ้นประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่คว้าตำแหน่ง POPULAR VOTE ผ่านทาง www.missgrandinternational.com  สูงที่สุด ตกเป็นของ มิสแกรนด์ เมียนมาร์ เข้าสู่รอบ 10 คนอัตโนมัติ ตามมาด้วย มิสแกรนด์ เนเธอร์แลนด์ ,แองโกลา ,โคลอมเบีย ,ไทยแลนด์ ,ยูเอสเอ ,เวียดนาม ,อินโดนีเซีย ,เปรู ,โดมินิกัน รีพับลิค

ท่ามกลางเสียงเชียร์ลั่น โดยเฉพาะประเทศเจ้าภาพ คณะกรรมการหนักใจ สวยและดีคะแนนสูสีเบียดบี้เหลือเกิน ประกาศ  The Host Country of MGI 2024 หรือเจ้าภาพการประกวด Miss Grand International 2024 ที่ ประเทศ เมียนมาร์ รับมอบโทฟี่ และธงชาติเมียนมาร์ ก่อนร่วมแสดงความยินดีกับ Best National Directerโดยผู้ที่คว้ามงกุฏ Golden Grand Award ไปครองได้แก่ ND Miss Grandอินโดนีเซีย อิวาน กุนาวาน ตำแหน่งรองได้แก่ ND เวียดนาม และ เปรู

10 สาวงามกลับออกมาในชุดอ๋าวหญ่ายสีทองอร่ามกล่าวสุนทรพจน์ Stop The War And Violence ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ อันเป็นหัวใจหลักและภารกิจสำคัญของ Miss Grand International เพื่อร่วมขับเคลื่อนความสงบสุขให้เกิดขึ้น  สำหรับโมเมนท์แห่งความประทับใจ “ควีนเบล” อิซเบลลา เมนิน  Miss Grand International 2022 เจ้าของฉายา “สวยกินคน” กล่าวอำลาตำแหน่ง พร้อมส่งมอบมงกุฏคืนให้กับ คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล

จากนั้น 10 ผู้เข้าประกวด ออกมาอวดโฉมในชุดราตรี พิธีกรประกาศ TOP 5 ทำเอาแฟนนางงามต่างนั่งไม่ติดที่ แมทธิว ประกาศชื่อ มิสแกรนด์โคลอมเบีย , มิสแกรนด์เปรู , มิสแกรนด์ ยูเอสเอ ,มิสแกรนด์ เมียนมาร์, และ มิสแกรนด์เวียดนามนางงาม 5 คนเดิน Final Walk โดยมี อิงฟ้า วราหะ โชว์เพลง Born to be alive แฟนคลับกรี๊ดกันสุด บอสณวัฒน์ ขึ้นมอบรางวัล GRAND VOICE AWARD ให้กับอิงฟ้า ในฐานะที่เธอเป็นแบบอย่างของนางงามแกรนด์ที่ประสบความสำเร็จด้านการร้องเพลงและมีคอนเสิร์ตของตัวเองในไทย และ ต่างประเทศ

แมทธิว พาทุกคนเข้าสู่การประกวดรอบการตอบคำถามเพื่อแสดงทัศนคติ โดยคำถามถามว่า จากสถานการณ์ ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่กาซ่า ผ่านมาแล้ว 18 วันมีผู้เสียชีวิตกว่า 8000 คน และยังมีการเสียชีวิตต่อเนื่องทุกวันจากการคุกคาม ถ้าคุณมีสิทธิ์ได้พูดกับผู้นำเพียงท่านเดียวของทั้งสองฝ่ายคุณจะเลือกพูดกับใคร ผู้นำฝ่ายใดและพูดอย่างไรให้สถานการดีขึ้น โดยนางงามทุกคนต่างตอบคำถามและแสดงทัศนคติได้อย่างยอดเยี่ยม

หลังเสร็จสิ้นรอบตอบคำถาม ก่อนประกาศรางวัล Best in Evening Gown ได้แก่ ได้แก่ มิสแกรนด์รัสเซีย รางวัล Grand Voice Award 2023 ได้แก่ มิสแกรนด์ กาน่า Kitava- YvettlanaFosuwaa- Amankwaaพิธีกรประกาศรางวัลรองอันดับ 5 ได้แก่  มิสแกรนด์ไทยแลนด์  อุ้ม ทวีพร พริ้งจำรัส  ,โดมินิกัน รีพับลิค สคาร์ มารี (Skar Marie)  อินโดนีเซีย รีทาซยา เวลเกรท (RitassyaWellgreat)  เนเธอร์แลนด์ เมลิสซ่า บอทเทม่า (Melissa Bottema) และ แองโกลา  Eugénia Das Neves

แล้วนาทีแห่งความระทึกใจก็มาถึง พิธีกรประกาศประกาศตำแหน่งรองอันดับ 4 ได้แก่ มิสแกรนด์ เวียดนาม เล ฮว่าง เฟือง (Le Hoang Phuong) ตำแหน่งรองอันดับ 3 ได้แก่ มิสแกรนด์ยูเอสเอ สเตฟานี มารี ( Sthephanie Marie) ตำแหน่งรองอันดับ 2 ได้แก่ มิสแกรนด์โคลอมเบีย มาเรีย อเลฮานดรา โลเปซ  (Maria Alejandra López) เหลือนางงาม 2 คนบนเวที เมียนมาร์ จับมือ เปรู ท่ามกลางกองเชียร์ของสองประเทศ พิธีกรประกาศ Miss Grand International 2023 ได้แก่ มิสแกรนด์เปรู ลูเซียน่า ฟัสเตอร์  ตำแหน่งรองอันดับ 1 จึงตกเป็นของ มิสแกรนด์เมียนมาร์ นิ นิ ลิน เอน (Ni Ni Lin Eain) โดยมิสแกรนด์ทั้ง 10 คนจะได้ร่วมทำงานกับองค์กร Miss Grand International2023 พร้อมเดินทางปฏิบัติภารกิจทั่วโลก พร้อมอยู่ที่ประเทศไทยภายใต้การดูแลของบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดย ลูเซียน่า ฟัสเตอร์  มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2023 กล่าวว่า “รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่สุด ฉันใช้ความพยายามมาตลอด 1 เดือนที่เวียดนามอย่างตั้งใจ ทำทุกอย่างให้ดีและมีความสุข จนมาถึงรอบตัดสิน รู้สึกกดดันนิดหน่อย เพราะทุกคนสวยหมด เก่งหมด แต่ในที่สุดฉันก็ทำได้ มันยิ่งกว่าฝัน ฉันจะทำงานร่วมกับองค์กร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล อย่างดีที่สุดค่ะ อยากขอบคุณครอบครัวและแฟนๆนางงามที่คอยเชียร์และซัพพอร์ตมาตลอด”