สร้างความเซอร์ไพรส์ไม่หยุดจริงๆ กับละครฟอร์มยักษ์อิงประวัติศาสตร์ “พรหมลิขิต” ทางช่อง 3 ของผู้จัดฯ “หน่อง อรุโณชา” แห่งค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น หลังเปิด 4 ตัวละครลับ แม่ทัพอนิลบถ (ภณ-ณวัสน์)เจ้าหญิงอทิตยา (น้ำหวาน-ภูริตา) ฑิฆัมพรราชา(เพื่อน-คณิน) และ พระนางจันทราวดี(หลิงหลิง ศิริลักษณ์) จุดเริ่มต้นบ่วงกรรมข้ามภพจนทำให้เกิดมนต์กฤษณะกาลี เท่านั้นยังไม่พอยังมีตัวละครลับที่ทำคนดูเซอร์ไพรส์ไปอีกคือ พี่ผิน-พี่แย้ม รับบทโดย หยา-จรรยา และ นุ่น-รมิดา นอกจากจะอยู่ในเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ที่ไม่คิดว่าจะโผล่มาเซอร์ไพรส์ในพาร์ท 1,000 ปี จนเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์จนแฮชแท็ก #พรหมลิขิตEP23 ติดเทรนด์ Xไทยแลนด์และเทรนด์โลกอันดับ 1 กันเลยทีเดียว
งานนี้ ไม่ปล่อยให้รอช้าคว้าตัว หยา- จรรยา มาเผยถึงประเด็นตัวละครลับว่า “ความรู้สึกแรกตื่นเต้นเพราะว่ามันต้องเล่าเรื่องราวในอีกพาร์ทหนึ่งจริงๆ ต้องบอกว่าในบทประพันธ์เล่าไว้ในประมาณหนึ่งแต่โดยบทละครที่อาจารย์แดงเขียนก็นำมาขยาย นายผู้กำกับก็ขยายเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะมันมีคนตั้งคำถามว่าทำไม 2 คนนี้มันถึงรักแม่นายทั้งๆ ที่มันโดนตบ โดนตี โดนทำร้ายแต่ก็รักสุดหัวใจ ทำไมเพราะอะไรอีพีเมื่อคืนเป็นตัวที่ตอบทุกคนได้ดีเลยว่าเพราะเราร่วมกรรมเดียวกันมากับเขา เราไปสร้างกรรมร่วมกันเพราะฉะนั้นมันเลยจำเป็นต้องมาประสบพบเจอกันทุกชาติ”
ฝั่ง นุ่น-รมิดา ก็ได้พูดถึงการแสดงในพาร์ทนี้ให้ฟังว่า “เซอร์ไพรส์เหมือนกันนะ ที่รู้ว่าพี่ผินและพี่แย้มเป็นตัวต้นเหตุในยุคพันปีซึ่งในพาร์ทพันปีนี้เราไปถ่ายทำกันที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง” และ “ปราสาทเมืองต่ำ” ด้วยสถานที่ที่เราไป ในยุคอารยธรรมหนึ่งในพันปีที่แล้วสิ่งนี้มันอ้างอิงถึงได้ก็มันทำให้รู้สึกถึงการแสดงได้ลึก มันเป็นพาร์ทแค่สั้นๆ ก็จริงแต่ว่าน้องทุกคนก็ทำเต็มที่นุ่นว่ามันดีตรงที่ว่ามันไม่มีไดอะล็อกเยอะมันเป็นภาพเล่าเรื่องทำให้ดูขลัง ถ้าเป็นไดอะล็อกมันจะเหมือนละครเลยถูกไหมแต่พอมันเป็นแค่ภาพเล่าเรื่องมันเลยดูเหมือนมีความเชื่อว่ามันไม่ต้องพูดไรกันเยอะเราเพียงเล่าว่าเรื่องมันเป็นยังไง”
ด้าน หยา-จรรยา ยังเปรยถึงบรรยากาศในการถ่ายทำให้ฟังอีกว่า “ตอนแรกคิดว่าจะร้อนมากนี่เอาตู้แอร์ไปด้วยเอาขึ้นรถตู้ไป ปรากฏฝนตกแล้วเราถ่ายเอาท์ดอร์หมด วันแรกพอไปถึงก็ไปไหว้ขึ้นไปที่ปราสาทหินพนมรุ้งเลยเราก็ตั้งแท่นไหว้พระศิวะไหว้ฟ้าดิน ก็หยุดตอนที่เรากินข้าวเสร็จแล้วเริ่มทำงานพอดีทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีถ่ายเร็วด้วย สองวันที่ถ่ายก็คือแบบแฮปปี้หนึ่งก็ไม่ได้เจออาการที่ร้อนขนาดนั้นแต่สถานที่จริงสวยมากจริงๆ แม้ว่าฝนจะตกนิดหน่อย เสื้อผ้าหน้าผมพาร์ทนี้พี่หน่องก็จัดเต็มงานอลังการจริงๆ”
และ นุ่น-รมิดา ฝากถึงความพิเศษของละครให้ฟังว่า “แม้ว่าจะเป็นเรื่องในยุคสมัยช่วงท้ายของอยุธยาที่อาจจะหาการบันทึกหรือการจดบันทึกเพื่อที่จะเล่าถึงยากมากมันเป็นยุคสมัยที่ถูกพูดถึงน้อย แต่เรื่องนี้ได้พูดถึงในเรื่องของจังหวะนั้นได้อย่างสวยงาม สิ่งที่อาจารย์แดงทำให้เราเห็นในบุพเพสันนิวาสว่าทุกตัวละครมันมีความต้องการ ทุกคนไม่ขาว ทุกคนไม่ดำ ทุกคนคือเทาๆในความเทาทุกคนมีความต้องการของตัวเองอยู่แล้ว มันก็มีสิ่งนี้ในพรหมลิขิตแล้วนอกจากเรื่องของประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นแล้วน่าติดตาม เรื่องวัฒนธรรมเรื่องอาหารเพียบ ก็อยากให้ละครเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ตลอดไป เราอยากช่วยสนับสนุนมันไม่ใช่แค่บุพเพสันนิวาสหรือพรหมลิขิตที่นักแสดงจะดังขึ้นแต่มันทำให้ประเทศของเราไปไกลมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี