หนังก็อตซิลล่า ออริจินัลดั้งเดิมจาก ญี่ปุ่น ผลงานของโตโฮ ที่สร้างขึ้นเพื่อฉลอง 70 ปี ของเจ้าก็อตจิ ด้วยทุนสร้างสูงถึง 15 ล้านเหรียญ นับตั้งแต่ภาคต้นฉบับอย่าง Gojira (1954) ซึ่งญี่ปุ่นมีการสร้างหนังก็อตซิลล่าไปแล้วมากถึง 38 เรื่องโดยเป็นผลงานของญี่ปุ่นสร้าง 33 เรื่องและฮอลลีวู้ดอีก 5 เรื่อง

Godzilla Minus One สร้างต่อจาก Shin Godzilla (2016) ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมอย่างล้นหลาม ด้วยการกวาดรายได้รวมในญี่ปุ่นไปกว่า 7.4 พันล้านเยน กวาดรายได้ทั้งโลกกว่า 100 ล้านเหรียญ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Japan Academy Film Prize มากถึง 12 สาขา และคว้าได้ 8 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่ของงานอย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แถมยังไปคว้า รางวัลออสการ์ สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยมปีล่าสุดอีกด้วย น่าเสียดายที่ในบ้านเรา Godzilla Minus One ไม่เข้าโรงฉาย จนหลายคนต้องหาช่องทางธรรมชาติในการดู ก่อนที่อยู่ดีๆ ก็มาโผล่ใน Netflix แบบด่วนๆ ให้ได้ดูกันแบบไม่ทันตั้งตัว

โคอิจิ ชิกิชิมะ นักบินรบกามิกาเซ่ นำเครื่องลงฉุกเฉินบนเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับสัตว์ร่างยักษ์ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ก็อตซิลล่า ที่ขึ้นมาถล่มเกาะหลังสงคราม โคอิจิ จมอยู่กับฝันร้ายปมในใจ ความรู้สึกผิดที่หนีทหารเพื่อเอาชีวิตรอด ใช้ชีวิตท่ามกลาง เมืองที่พังเพราะสงคราม อยู่ร่วมเป็นครอบครัวกับ โนริโกะ สาวไร้บ้านที่เก็บเด็กน้อยมาเลี้ยง

Godzilla Minus One พาย้อนกลับไปสู่  Back To Basic ไปสู่ยุคดั้งเดิม ความสนุกสนานที่เราคุ้นเคยกันดีกับ Godzilla ต้นแบบ เล่าเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อน พอจะเดาทาง เดาเรื่องออกว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร

ก็อตซิลล่า ตัวแทนของภัยพิบัติและการทำลายล้าง ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือจากพิษของสงครามกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง

Godzilla ในชุดหุ่นยางในแบบดั้งเดิมกลับมาบนจออีกครั้ง ดูดีดูเท่ให้ความรู้สึกมีชีวิตจริงไปเป็นสัตว์ร้ายยักษ์ใหญ่ที่เดินดุ่มๆ ถล่มทุกอย่าง
ที่ขวางหน้า มากกว่าจะดูแข็งๆ ที่สร้างภาพจากซีจีในยุคใหม่

เมื่อผสมผสานกับภาพเมืองที่มีทั้งโมเดลในแบบเก่าๆ กับบางส่วน ที่ใช้ซีจี ช่วยสร้างภาพในสมจริง ทำให้หนังดูสมบูรณ์มากๆ

รางวัลออสการ์ สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่างานที่สร้างภาพความสมจริง แม้ Godzilla มาให้เห็นเป็นระยะ ตั้งแต่เปิดเรื่องไปจนจบ แม้ว่าอาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่ทุกครั้งที่โผล่มา ดูอลังการงานสร้างจริงๆ ลุ้นระทึกตื่นเต้นในทุกฉาก

ริวโนะสุเกะ คามิกิ เด่นมากๆ ในบทของ โคอิจิ มีความเป็นพระเอกชัดเจน สีหน้าท่าทางชัดเจน ชวนให้ตามลุ้นรอลุ้นกับการเผชิญหน้ากับ Godzilla 

มิยามิ ฮานาเบะ เป็น โนริโกะ ที่สวย น่ารักมากๆ จนอดหลงรักเธอและทำให้น้ำตาซึม หรือเรื่องรักที่มีต่อเด็กสาวตัวน้อย หรือความรักลึกๆ ที่มีอยู่ข้างในของพระเอก-นางเอก ช่วยขยี้อารมณ์ให้กับตัวหนังได้มากทีเดียว รวมไปถึงบรรดานักแสดงสมทบ เล่นดีกันทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นทีมเพื่อนๆ พระเอก ทหารที่มาร่วมรับมือสัตว์ร้าย หรือแม้แต่คุณป้าข้างบ้าน

งานด้านภาพ การจัดแสง ออกไปในโทนหนังญี่ปุ่นยุคเก่า แต่ดูไม่เชยไม่ล้าสมัย ออกมาสวยภาพ ดูคลาสสิก พอมา อยู่กับเจ้า Godzilla ยิ่งเพิ่มความสง่า น่าดู ดนตรีประกอบในบรรยากาศของ Godzilla แบบเดิมกลับมา 

ต้องชม ทาเคชิ ยามาซากิ ผู้กำกับ Godzilla Minus One คือ หนัง Godzilla ที่ดูสนุก ดูง่าย ย่อยง่าย ดีงามมากๆ หนังในตระกูลชิน ก็อตซิลล่าในยุคหลังที่ดูน่าเบื่อ หรือก็อตจิ ที่ฮอลลีวู้ดนำไปทำ แต่โดน CG เทคนิคพิเศษยุคใหม่กลบ ทำให้เสน่ห์เดิมๆ แทบไม่มี 

ดีใจที่ได้ดูแบบบรรยายไทย/พากย์ไทย ที่น่าจะได้อรรถรสเข้าใจเรื่องได้มากกว่าบรรยายอังกฤษทาง Netflix แม้ว่าดูแล้วยังเสียดาย
ถ้าได้ดูบนจอใหญ่ๆ เสียงดีๆ กระหึ่มๆ จะทำให้หนังสนุกกว่านี้

Godzilla Minus One คือ หนังก็อตซิลล่า ที่ดีและโดนใจมากที่สุด โดนใจไปเต็มๆ 

Godzilla ยังคงเป็นสัตว์ร้ายที่น่ารัก คลาสสิก อมตะตลอดกาล ในระดับ 10/10 คะแนน