กลับมาอีกครั้งกับแฟรนไชส์สงครามอวกาศสุดยิ่งใหญ่อย่างสตาร์ วอร์ส (Star Wars) ที่อยู่คู่กับผู้ชมมาถึงตอนนี้ก็ 47 ปีแล้ว แต่การผจญภัยของเหล่าเจได (Jedi) และฝ่ายกบฏ (Rebels) ยังคงไม่หยุดที่จะสร้างความตื่นเต้นและน่าติดตามให้กับผู้ชมไม่ว่าจะเป็นรูปแบบภาพยนตร์ ซีรี่ส์ หรือแอนิเมชั่นก็ตาม

เช่นเดียวกันใน Star Wars : The Acolyte ที่ถือเป็นครั้งแรกที่เรื่องราวช่วงยุครุ่งเรืองของเหล่าอัศวินเจไดอย่างยุคสาธารณรัฐอันสูงส่ง (The High Republic)
ถูกนำมาเล่าบนจอเงินพร้อมรูปแบบการนำเสนอเรื่องราวสุดแปลกใหม่ที่เป็นแนวระทึกขวัญในการตามหาความจริงและฆาตกรลึกลับผู้สังหารเจได ทว่าสิ่งที่เหล่าเจไดต้องพบเจอนั้นยิ่งใหญ่และน่ากลัวกว่าที่พวกเขาคิด แต่เพราะอะไรถึงทำให้ Star Wars : The Acolyte โดดเด่นและน่าจับตามอง Star Wars : The Acolyte เรื่องแรกที่เล่าเรื่องราวในยุคสาธารณรัฐอันสูงส่งที่ไม่เคยถูกเล่ามาก่อน

ซีรี่ส์ที่ทุกคนไม่ควรพลาด กับการย้อนรอยไปจุดเริ่มต้นของไตรภาคแรกๆ

นับเป็นเวลากว่า 47 ปี ตั้งแต่การเข้าฉายของภาพยนตร์ Star Wars : Episode IV - A New Hope (1977) จนถึงปัจจุบันแต่ทว่าไม่เคยมีหนังหรือซีรี่ส์เรื่องไหนของแฟรนไชส์สงครามอวกาศที่เคยบอกเล่าเรื่องราวในยุครุ่งเรืองของนิกายเจไดอย่างยุคสาธารณรัฐอันสูงส่งอย่างจริงจังเลยสักครั้ง จนกระทั่ง Star Wars :The Acolyte ที่จะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปกว่าศตวรรษก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Star Wars : Episode I - The Phantom Menace (1999) ในช่วงยุคทองของนิกายเจได และจุดเริ่มต้นของความมืดที่คลืบคลานเข้ามาปกคลุมจักรวาล ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นเหมือนการย้อนรอยไปจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ที่ไม่ว่าจะเป็นสาวกแฟนพันธุ์แท้หรือคนที่ไม่เคยรู้จัก สตาร์ วอร์ส เลยก็สามารถดูได้ แถมยังคงเข้าใจในสิ่งเดียวกัน

การันตีฉากแอ๊กชั่นสุดอลังการ พร้อมยกทัพอัศวินเจไดและกระบี่แสงมาอย่างจัดเต็ม 

หากพูดถึง สตาร์ วอร์ส สิ่งแรกที่คนมักนึกถึงคงไม่พ้นจากการต่อสู้กันด้วยกระบี่แสงและการใช้พลังฟอร์ซ (Force) ที่ต้องดวลกันด้วยความเชี่ยวชาญจากการฝึกฝนอันยาวนาน ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชมสามารถคาดหวังที่จะได้พบเจอการต่อสู้อันดุเดือดขั้นที่ต้องยกอัศวินเจไดมาทั้งสำนัก แต่ไม่เพียงแค่นั้น Star Wars : The
Acolyte ยังนำเสนอศิลปะการต่อสู้ที่เข้มข้นยิ่งขึ้นกว่าเคย ทั้งการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและการต่อสู้ด้วยอาวุธ ซึ่งเรายังจะได้พบกับแส้แสง (Lightwhip) ที่เป็นอาวุธรูปแบบใหม่ของอัศวินเจไดที่ไม่เคยปรากฏในหนังหรือซีรี่ส์รูปแบบคนแสดง (Live-Action) เรื่องไหนมาก่อนเช่นกัน

จะชวนให้ลุ้นไปด้วยกันในทุกๆ ตอน กับปมปริศนา การตามล่าหาฆาตกร

เรียกได้ว่านี่คือครั้งแรกของสตาร์วอร์ส ที่ไม่เพียงแค่จะพาผู้ชมไปพบกับยุครุ่งเรืองของนิกายเจไดที่ไม่เคยถูกเล่าขานบนจอเงินมาก่อน  แต่ยังนำเสนอเรื่องราวของ สตาร์ วอร์ส ที่เป็นแนวสืบสวน ไขความลับและตามหาฆาตกรผู้สังหารเจได ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกแล้ว ยังคงบอกเล่าเนื้อหาเพื่อเติมเต็มเรื่องราวแสนสำคัญที่ขาดหายไปในสตาร์ วอร์สอย่างเช่น จุดเริ่มต้นของพลังด้านมืดที่หลบซ่อนอยู่ในแสงสว่างมานานนั้นกลายเป็นชนวนของสงครามที่กระทบไปทั้งจักรวาลได้อย่างไร ซึ่งสำหรับทั้งแฟนสตาร์ วอร์ส และมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มสำรวจจักรวาลสตาร์ วอร์ส เชื่อได้เลยว่า Star Wars : The Acolyte จะช่วยทำให้ทุกสิ่งกระจ่างขึ้นได้อย่างแน่นอน

ยกทัพนักแสดงทุกคนต้องคุ้นหน้า พร้อมการันตีคุณภาพการแสดงจากผลงานระดับตำนาน

ทัพอัศวินเจไดไม่ใช่ใครก็ได้ การกลับมาในครั้งนี้ของ Star Wars : The Acolyte ได้นำตัวนักแสดงที่หลายคนต้องเคยผ่านหูผ่านตามาก่อนแล้วอย่าง Amandla Stenberg นักแสดงดาวรุ่งมากพรสวรรค์ ผู้ถูกคัดเลือกให้เล่นบทนำจากการแสดงยอดเยี่ยมในเรื่อง “The Hate U Give” และ “The Hunger Games” และอีจองแจ นักแสดงนำจากซีรี่ส์ยอดฮิต “Squid Game” ชาวเกาหลีคนแรกที่ได้ร่วมแสดงในแฟรนไชส์สตาร์ วอร์ส นอกจากนี้ ยังมี Carrie-Anne Mos (The Matrix), Dafne Keen (Logan) มาร่วมสวมบทบาทพาดาวันและอาจารย์เจไดที่พร้อมวาดลวดลายกับอาวุธกระบี่แสง และการใช้พลังฟอร์ซ ทำให้สามารถการันตีได้ว่าซีรี่ส์เรื่องนี้จะดำเนินไปด้วยนักแสดงคุณภาพตลอดทั้งเรื่องอย่างแน่นอน

เตรียมออกเดินทางสำรวจยุครุ่งเรืองของนิกายเจไดที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน การสืบสวนคดีอาชญากรรมอันน่าตกตะลึงเมื่อปรมาจารย์เจไดต้องเผชิญหน้ากับนักรบสุดอันตรายจากอดีตของเขา โดยระหว่างการตามหาเบาะแสที่มากขึ้นพวกเขาได้เดินทางไปยังเส้นทางอันมืดมนที่พลังอันชั่วร้ายได้เผยให้เห็นถึงทุกสิ่งที่ไม่ใช่อย่างที่มันควรเป็น การค้นหาความจริงรวมถึงฆาตกรผู้สังหารเจไดจะไปจบลงที่ไหน? จุดเริ่มต้นของความมืดและสงครามที่ตีแผ่ไปทั่วจักรวาลคืออะไร? มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมๆ กันใน Star Wars : The Acolyte เริ่มสตรีมสองตอนแรกได้แล้ววันนี้ เฉพาะบน Disney+ Hotstar เท่านั้น!