กลับมาสร้างผลงานใหม่ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอีกครั้ง กับซิงเกิ้ลล่าสุดของสาวเสียงดี “แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น”ในเพลง “ไม่เหมือนตอนมีเธอ” เพลงแห่งความคิดถึงที่ไม่มีวันเลือนหาย มาในสไตล์ Modern Pop โดยได้ 2 คนดนตรี “ดอดจ์-มุขพล จันทรวงศ์”นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ และ “ปู๋-ปิยวัฒน์มีเครือ” แต่งเนื้อร้องและทำนองให้นอกจากนี้ในเรื่องราวของ Music Video ยังเป็นการพบกันครั้งแรกของ 2 นักแสดงวัยรุ่นที่น่าจับตามอง อย่าง“ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล” นักแสดงสาวดาวรุ่งพุ่งแรงและ “เอม-สรรเพชญ์ คุณากร” ลูกไม้ใต้ต้นของ “ดู๋-สัญญา คุณากร” กับการประเดิมผลงานการแสดงชิ้นแรก ที่ถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้สึกได้อย่างลงตัว

ซึ่ง “แก้ม-วิชญาณี” ได้เผยความรู้สึกว่า “สำหรับการทำงานของเพลงนี้จุดเริ่มต้นมาจากการที่เรารู้สึกถึงความคิดถึงของคนที่จากไป มันเป็นความคิดถึงที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ ตอนร้องแก้มนึกถึงคุณตาของแก้ม เพราะมันชัดเจนมากๆ สำหรับความรู้สึกนี้ค่ะ แล้วก็ทำความเข้าใจว่าเราจะร้องไปในความรู้สึกไหน ให้มันทัชมากที่สุด และเพลงนี้มีดีเทลละเอียดมากๆ รู้สึกว่าเป็นการทำงานที่เราเข้าใจความหมายของมันจริงๆตอนเข้าห้องอัดต้องถ่ายทอดความรู้สึกออกมา พอเราจับจุดถูกว่าเราคิดถึงใคร และพี่บอยเค้าค่อนข้างที่จะบรีฟมาชัดเจนมาก มันเลยเห็นภาพชัด ตอนที่เราร้องให้พี่บอยฟังแล้วเราน้ำตาแตกเลย ความรู้สึกนั้นมันก็ยังอยู่กับเราเสมอ เวลาเราคิดถึงใคร เรานึกถึงภาพดีๆ ภาพที่เค้ายังมีชีวิตอยู่ ความอบอุ่นต่างๆ แล้วมันเกิดความสุขค่ะ ความสุขที่มันอยู่ในใจเราเสมอ เวลาเรานึกถึงเค้า มันเลยถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มที่มากๆ ค่ะถ้าใครได้ดู MV ก็จะเข้าใจเวลาที่คนรักจากไป เราจะคิดถึงเค้าแน่นอน แล้วก็อยากจะให้คิดถึงเรื่องราวดีๆ ที่ได้ผ่านมาในชีวิต แก้มรู้สึกว่า MV นี้ดีมาก มันถ่ายทอดออกมาทุกอย่าง ที่มันทัชใจแก้มมากแล้วที่สำคัญเคมีของพระเอกนางเอก น้องตูและน้องเอมทำให้เราอินไปด้วยมากๆ ด้วยชื่อเพลงคำว่า“ไม่เหมือนตอนมีเธอ” ของแก้มมันตรงตัวเลยนะคะ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องใช้ชีวิตกันต่อไป เรื่องราวเหล่านั้นมันไม่เหมือนตอนที่มีเค้าอยู่ ภาพดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นมันชัดเจนกับความรู้สึกมากๆไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของให้เรานึกถึงวันดีๆ ที่เคยอยู่กับเค้า อยากให้ทุกคนลองไปฟังเพลงนี้กันนะคะ”

ด้าน “ดอดจ์-มุขพล จันทรวงศ์”โปรดิวเซอร์ ได้เสริมว่า “แก้มยังเป็นนักร้องที่สุดยอดเสมอ ทั้งในด้านอารมณ์ เทคนิค และฟิลลิ่ง เพลงนี้ในวันที่เข้า Studio เราอัดกันแบบ Long Take และเลือก Take ที่ทุกคนชอบกันที่สุดมาทำงานต่อ เป็นเพลงที่ทุกคนที่อยู่ใน Studio เสียน้ำตากันไปหลายรอบแต่กลับรู้สึกอุ่นในหัวใจในเวลาเดียวกัน”