เวลา 14.00 น. วันที่ 6 พ.ย.67 ที่โรงแรม เดอะแกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เน็ตไอดอลสาวเกาหลี จี กามิน พร้อมคุณแม่ และทนายความ ทนายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ และทนายณพกฤต ทรัพย์แก้วยอด แถลงข่าว “กามินกลับมาเพื่อพิสูจน์ความจริง”

โดยเธอได้เผยว่า “ตอนที่เข้ามาเมื่องไทยครั้งแรกมีความสุขและดีใจมากๆ ทำงานอย่างมีความสุขและสนุกสนานมากๆ แต่ก็มีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารบ้าง แต่ทุกคนก็พยายามทำความเข้าใจ ตอนนั้นก็รู้สึกมีความสุขสนุกสานตลอด เพราะทุกคนใจดีมาก ครอบครัวก็อบอุ่นคอยดูแลอย่างดี เรื่องรายได้ไม่ได้มีปัญหาอะไร มีการได้รับการจัดสรรโอเคดีมาก

ส่วนเรื่องที่พักในช่วงแรกที่เข้ามาอาจจะมีบ้างที่พักที่โรงแรม แต่ส่วนมากก็จะอยู่ที่สตูดิโอและบ้านของอีกฝ่าย ระหว่างที่พักอยู่ที่บ้านอีกฝ่ายครอบครัวของฝั่งนั้นก็ดูแลอย่างดี ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอ จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกขอบคุณตลอด

เรื่องการติดเหล้า จริงๆ เป็นคนที่ดื่มเหล้าได้ แต่ตั้งแต่ที่มาเมืองไทยแทบไม่ได้ดื่มเหล้าเลย อาจจะมีบ้างเดือนละครั้งสองครั้ง แต่ไม่ได้ดื่มบ่อยขนาดนั้น

ส่วนเรื่องค่าจ้าง จริงๆ แทบจะไม่ทราบเลยว่าผู้ว่าจ้างจะมีการว่าจ้างเท่าไหร่ ส่วนของภาษีนั้นค่าจ้างที่ได้รับจากบริษัทจะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายเรียบร้อยแล้ว และค่าจ้างที่เข้าไปในบัญชีจะมีการจ่ายภาษีที่ประเทศเกาหลีอีกที สำหรับการไลฟ์แล้วได้ค่าจ้างหนึ่งล้านบาท ก็เพิ่งจะเคยได้ยินมาเหมือนกันก็บอกอีกครั้งว่าไม่ใช่ความจริง

ส่วนเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน จริงๆ วันนั้นมีการออกไปชอปปิ้งที่ห้างกับล่าม แล้วก็กลับที่ไปสตูดิโอ แล้วก็ไปที่บ้านที่เกิดไฟไหม้พร้อมกับผู้จัดการ วันนี้เหตุการร์ก็คือมีคนอื่นที่ทำงานอยู่ที่สตูดิโอ แต่ว่าดิฉันกลับมาที่บ้านก่อน พอกลับมาถึงที่บ้าน พอเข้าไปในบ้านก็จะได้กลิ่นไหม้ แต่ห้องที่มีการไฟไหม้จะอยู่ที่ชั้น 3 แต่ตอนนั้นเป็นตอนกลางคืน พอเปิดไปก็จะเห็นว่ามันมีการไหม้อยู่ในห้อง แต่ไฟได้ดับเรียบร้อยแล้ว บ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่ใช้ชีวิตร่วมอยู่ด้วยกันกับอีกฝ่าย เคยได้ยินมาว่าอาจจะมีของสำคัญ แต่ก็ไม่ค่อยทราบเหมือนกันว่ามีของมีค่าไหม เพราะไม่ใช่บ้านของดิฉัน ไม่ทราบจริงๆ ว่าเหตุการณ์วันนั้นมันเกิดขึ้นได้อย่างไร น่าจะเกิดเองตามธรรมชาติหรือเปล่า ?

ส่วนที่มีข่าวลือว่า กามิน ได้พูดว่าคนไทยหลอกง่ายนั้น จริงๆ ฉันได้รับความรักมากมายจากคนไทย เพราะฉนั้นดิชั้นจะกล้าพูดแบบนี้ต่อคนไทยได้อย่างไร ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวนี้มาจากที่ไหน และก็อยากทราบเหมือนกันว่ามันมาจากที่ไหน”

ส่วนเรื่องเข้ามาฟอกเงิน เธอกับครอบครัวไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น ไม่ใช่แก๊งต้มตุ๋น และไม่ได้เป็นอาชญกร และไม่มีประวัติอาชญกรรมที่เกาหลี

ที่ออกมาพูดวันนี้ เพราะอยากปกป้องตัวเองและคนที่ตัวเองรัก และไม่รู้ว่าจะกลับมาทำงานที่ไทยได้อีกไหม แต่เหมือนยังมีผู้ใหญ่ใจดีที่อยากสนับสนุนให้มาทำงานที่ไทยอีก แต่ขอให้สภาพจิตใจดีกว่านี้ก่อน อาจจะกลับมาทำต่อ

ส่วนสาเหตุที่เลิกกับอีกฝ่ายเพราะมีบางอย่างไม่เข้าใจกัน ตอนคบกันไม่ปัญหาที่ใหญ่ และไม่มีเรื่องของคนอื่นทำให้เลิกกัน ในวันที่เลิกกันก็เลยตัดสินใจกลับเกาหลี เพราะเป็นคนที่เลิกแล้วเลิกเด็ดขาด

ส่วนเรื่องการฟ้องร้องนั้นทางด้านทนายของ กามิน ได้เผยว่า “จะดำเนินคดี บุคคลและกลุ่มบุคคล ที่สร้างเรื่องใส่ร้ายจน กามิน เสื่อมเสียชื่อเสียง ตอนนี้มีจำนวน 5 ราย อีกทั้งยังเผยช่วงเดือน 9 มีข้อความไม่ดี-ข่มขู่ ส่งมาเยอะ มีการตั้งค่าหัวในโซเชียลอีกด้วย