สร้างความฮือฮากระหน่ำโซเชียล  สำหรับ The Voice Thailand ด้วยคอนเซ็ปต์รายการสุดสเปเชียล  “The Voice Pride 2025”  ครั้งแรกของโลก! ที่เปิดโอกาสให้ศิลปิน LGBTQIAN+ ได้ออกมาโชว์พลังเสียงกันแบบเต็มที่หลังจากรายการออนแอร์ EP 1 ไปไม่ทันข้ามคืน ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น ถือเป็นการประเดิมเวทีแรกในรอบ  Blind Audition อย่างยิ่งใหญ่ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนได้แสดงความสามารถทั้งการร้องการเต้นกับโชว์ที่จัดเต็มเกินร้อย ดุเดือดจนเวทีแทบลุกเป็นไฟ พร้อมออกมาบอกเล่าสตอรี่  เปิดเผยตัวตนการเป็น LGBTQIAN+ บนเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ  

เปิดเวทีด้วยไฮไลต์เด็ด   ดั้มมี่ วุฒิพงศ์ คำออน ศิลปินอิสระ ที่นำพาเอาความม่วนจอยและความสดใสมาเสิร์ฟถึงที่!! โดยนำโชว์แนวมิวสิคัลที่ผสมผสานความเป็นหมอลำในเพลง  Circle of Life  มาร้องด้วยลูกคอ 18 ชั้น    ทำเอาโค้ชหันเก้าอี้กันรัว ๆ  โดย ดั้มมี่ กล่าวว่า “ขอนิยามตัวเองว่าเป็นกะเทยบ้านนอกค่ะ จริง ๆ ผูกพันกับการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก  มาชัดเจนตรงที่เราได้ทำอาชีพนี้ รู้สึกภูมิใจกับอาชีพนักร้องมากค่ะ เพราะได้เอนเตอร์เทนผู้คน ที่มาเวทีนี้ ถือเป็นการโชว์กะเทยให้แม่ได้ดูเป็นครั้งแรก พอแม่เห็นลูกแต่งตัวเต็มขนาดนี้ แม่อึ้งไปเลยค่ะ” 

อีกหนึ่งความประทับใจ คือโชว์ของ โอปอล์ พัชรพล อติเปรมานนท์ วัย 50 ปี อดีตข้าราชการทหาร ที่ขอขึ้นมาร้องเพลงบนเวทีนี้ เพื่อให้พ่อกับแม่ได้ภาคภูมิใจอีกครั้ง ในเพลง “มีไหมใครสักคน” เพลงความหมายดีที่ร้องออกมาพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูด้วยอินเนอร์ลึกซึ้งกินใจ จนน้ำตาซึมไปตาม ๆ กัน หลังจากโชว์พลังเสียงไปได้ไม่นานโค้ชแอมตัดสินใจกดปุ่ม หมุนเก้าอี้มาเป็นคนแรก ก่อนที่จะจบเพลง โค้ชธามไท ก็ไม่รอช้า รีบหมุนเก้าอี้ตามมาติด ๆ  พร้อมเปิดศึกช่วงชิงลูกทีมอย่างเมามัน  

โอปอล์ พัชรพล เล่าให้ฟังว่า “ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับการร้องเพลง อดีตเป็นข้าราชการ แต่ตอนนี้ขายเสียงค่ะ ตั้งแต่เริ่มต้นคุณพ่อไม่เคยชอบที่ลูกเป็นแบบนี้   พ่อแม่เขารับไม่ได้ ขนาดที่ว่า เรามีเสื้อผ้าที่เป็นลูกไม้ลายฉลุ หรือใส่อะไรที่บาง ๆ เขาก็จะไปหยิบมาดูแล้วถามว่า ตัวนี้ เป็นตัวโปรดใช่ไหม ชอบใช่ไหม  เขาก็จะฉีกทิ้ง จนวันหนึ่งเราเริ่มในสิ่งที่มันมั่นคงได้  และตรงนี้เป็นจุดที่ดูแลเขาได้ เขาเริ่มมีความรู้สึกเปิดรับเรา จริง ๆ ต้องบอกว่าพลังภายในจากเพศแบบเรา  มันคือแรงผลักดัน  ต้องใช้คำว่า กะเทยไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ทำได้ทุกอย่าง   ถ้าเราจะฮึดสู้ขึ้นมา  มันต้องได้ และมันต้องสำเร็จ เราเคยเห็นสายตาของความสุขของคุณพ่อคุณแม่ ทุกครั้งที่ไปประกวดเวทีไหน แม้กระทั่งกลางคืนที่ไปร้องเพลงในผับ, ดิสโก้ หรือเธค   เขาจะไปเปิดโต๊ะเฝ้าลูก ดูลูกหน้าเวที  ไปเป็นแฟนคลับ ไปเชียร์  เวลาลูกประสบความสำเร็จ สายตาคู่นั้นมันจะส่องประกาย ทำให้เราชื่นใจ เราดีใจ ครั้งนี้เลยอยากมีโอกาส ได้กลับมาเห็นแววตาที่สดชื่นแบบนั้น เติมเต็มให้เขา   ซึ่งตอนนี้ทั้งคุณพ่อคุณแม่เขาอายุ 80 แล้ว  คุณแม่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เดินไม่ได้มา 20 ปี  มาเวทีนี้ขอทำให้ดีที่สุด  สื่อความหมายของเพลงออกมา  ให้ถึงคนดูมากที่สุด  จุดหมายปลายทางคือแววตาคู่นั้น จะได้ฉายแววแห่งความสุขอีกครั้ง  เพราะพ่อแม่คือ 2 คนที่เรารักที่สุดค่ะ ฝากแฟน ๆ ช่วยเชียร์ด้วยนะคะ”  

ตามติดภารกิจของ 3 โค้ช   โค้ชแอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, โค้ชเบน ชลาทิศ ตันติวุฒิ  และโค้ชธามไท แพลงศิลป์  ที่ยังคงเดินหน้าเฟ้นหาตัวจริงเสียงจริง    ที่จะคว้าเงินรางวัล 300,000 บาท และได้เป็น  The Voice Pride คนแรกของประเทศไทย ติดตามได้ในรายการ “The Voice Pride 2025”      ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 20:30 - 22:00 น.     ทางช่อง 7HD , Application Ch7HD , www.ch7.com ,Bugaboo (No Rerun)  และดูย้อนหลังแบบจัดเต็มได้ทาง  Netflix (*เฉพาะประเทศไทย)