นับเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์สุดหลอนสำหรับ “คายอ้อ ลบหลู่ ศรัทธา อาถรรพ์” ซึ่งลงโรงให้ได้สยองกันแล้ว แบบเต็มตา กับผลงานสร้างของ “โจ ยมนิล นามวงษา” บอสใหญ่วงสาวน้อยเพชรบ้านแพง กำกับภาพยนตร์โดย ใหม่ ภวัต พนังคศิริ เขียนบทโดย เอี้ยง สวนีย์ อุทุมมา นำแสดงโดย เน็ค นฤพล, ตูมตาม ยุทธนา พร้อมด้วยกานต์ ทศน, เบลล์ นิภาดา, อุ๋งอิ๋ง รัตนาภรณ์, อ๋อมแอ๋ม ละมัย, บอสโจ ยมนิล และ น้ำแข็ง ทิพวรรณ พร้อมสมาชิกวงหมอลำ ผู้ที่กำลังจะก้าวขึ้นสู่เวทีที่ไม่ใช่แค่การแสดง แต่คือบททดสอบแห่งความเชื่อ ความศรัทธา นำมาซึ่งเงามืดและหายนะที่ไม่มีใครหลีกพ้น งานนี้พระเอก700ล้านอย่าง เน็ค นฤพล และนักแสดงน้องใหม่ อ๋อมแอ๋ม เพชรบ้านแพง ได้เปิดใจกับ ‘ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า’ ถึงจุดเริ่มต้นและบทบาทการแสดงในเรื่องนี้ว่า
ตอนแรกที่บอสโจทาบทามให้เล่นหนังเรื่องนี้เราเป็นยังไงบ้าง
เน็ค : “ติดต่อไปครั้งแรก พอผมรู้ชื่อเรื่องผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครทํา เขาบอกว่ามีหนังเรื่องนึง อยากได้เน็ค เน็คอยากเล่นไหม ผมลองถามว่าชื่อเรื่องอะไรครับ คายอ้อ ตอนนั้นหน่ะ ผมอยู่สนามฟุตบอล ผมจําได้เลย ผมก็ตอบว่า โห อยากเล่นครับ ทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยนะว่าเราได้รับบทเป็นอะไร แต่คําว่าคายอ้อมันอยู่กับผมมาตั้งแต่สมัยร้องเพลงแล้วจําความได้มา พ่อยกพ่อยอผู้ให้มันเห็นวัฒนธรรมการไหว้การอะไรแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เราก็เลยรู้สึกว่าอยากจะเล่น อยากจะแบบเอามาถ่ายทอดให้คนได้รู้จัก ซึ่งเรายังไม่ได้รู้เลยว่าเนื้อเรื่องมันเป็นอะไรยังไง แต่ผมเชื่อว่าถ้าขึ้นต้นเรื่องด้วย คําว่าคายอ้อ มันก็ต้องเกี่ยวกับอะไรแบบนี้ที่เราเชื่ออยู่แล้ว ก็เลยรับปากเปล่าไปก่อน แล้วคราวนี้ประสานงานนู้นนี่นั่นก็เลยได้รู้ว่า อ๋อ หนังเรื่องนี้ เป็นของ บอสโจ ยมนิล คณะสาวน้อยเพชรบ้านแพงที่จะเป็นผู้อํานวยการสร้าง ก็เลยรู้สึกว่า เออเนี่ย มันต้องคนที่แบบรู้จริงจริงแล้วมาทําจริงๆ มันก็จะออกมาดี มันก็ออกมาคนดูก็จะเชื่อครับ เพราะว่าเค้าอยู่วงการนี้จริงๆ”
ในตัวอย่างไม่ใช่0มีแค่วงสาวน้อยเพชรบ้านแพง มีหมดเลย ทั้งพ่อครูแม่ครูหลายวงเลย อ๋อมแอ๋ม เองเหมือนกัน เรื่องแรกใช่ไหมจากนางเอกหมอลําเป็นนักแสดง
อ๋อมแอ๋ม : “ก่อนหน้านี้ก็จะเล่นเป็นเอ็มวี ซีรีส์ แต่ว่าภาพยนตร์คือเรื่องแรกครั้งแรกค่ะ แล้ววันนั้นที่บอสถามว่า อ๋อมแอ๋ม กล้าเล่นบทนี้บ่ หนูก็จะถามว่าบทอะไรค่ะ บทโน้นนี้นั่นตึดๆๆ หนูก็เลยบอกว่า โอ้ว กล้าค่ะ ตอบไปแบบกล้าก่อน เพราะเรามองว่ามันคือโอกาสแค่เราได้รับโอกาสว่าได้มีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้เราก็ดีใจแล้วค่ะ แต่พอมาหน้างานจริงๆ ซีนแรกก็เอาเรื่องเลย”
เล่นเป็นใคร คาแรคเตอร์ อีแหววเป็นยังไงบ้าง
เน็ค : “สนุก ตัวละครตัวนี้ผมมองว่า เป็นตัวละครที่แบบเป็นสีสันของเรื่อง มันเป็นจุดเชื่อมต่อของหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่จะนําพาให้หนังเรื่องนี้สนุกขึ้น แล้วก็มีหลายๆ บทหลายๆ ช่วงที่แบบว่าคนบุคลิกเหมือนเขาอะครับ ไม่คิดว่าจะทําได้ แต่เขาทําได้นะครับ ทําถึงด้วย
สาวสายเดี่ยวคนนั้นใช่ไหม ผมด้วยผมสั้น
อ๋อมแอ๋ม : “แซ่บ”
เน็ค : “ใช่ครับ พอผมสั้นจะกลายเป็นอีกคนหนึ่งแล้วคราวนี้ พอผมเปิดทีเซอร์ให้ไป ผมสั้นๆนั้นใครวะ ผมก็เลยเปิดรูปให้ดูเค้าแบบจริงปะเนี่ยแม่งทําไมมันพลิกได้ขนาดนั้นจริงๆ ใช่ ตัวจริงจริงเค้าก็เรียบร้อย เว่าน้อยๆ หวานหวาน ในเรื่องคืออีกแบบนึง ใช่ครับ ซึ่งผมมองว่า บทเนี้ยถ้าในความเป็นนักแสดงที่ผมได้มีโอกาสได้เล่นหรืออะไรเพราะบทเนี่ยยากที่สุด เพราะความเป็นตัวเค้ามันเป็นอีกแบบนึงแล้วเค้าต้องเล่นให้มันเป็นอีกแบบนึง ซึ่งมันต้องใช้จินตนาการในการที่จะแบบกระแดะ”
อ๋อมแอ๋ม : “ท้าทาย ใช่อีหลีจากบ่เคย กระแดะก็ต้องไปดู หนูทําการบ้านหนักมากนะคะ เพราะว่าหนูกดดันมากรู้ว่าตายแล้ว ขาสั้นก็ใส่อยู่ดอก ใส่อยู่กับเพื่อน แต่ว่าไม่เคยใส่ออกให้คนเห็นข้างนอกเนาะ พอมารับบทอีแหวว สั้นแบบสั้น ผู้กำกับบอกให้ใส่สั้นๆ ก็ต้องให้มีบุคลิกที่ตรงอะเนอะ มันจะเป็นอะไรที่แบบหนูต้องทิ้งตัวตนหนูทุกอย่างเลย ทลายกําแพงความกลัวที่เราเคยคิดว่าเราจะไม่กล้าทําสิ่งแบบนี้ แต่พอได้มารับบทอีแหววคือทุกอย่างคือโละหมดเลย แล้วก็สวมจิตวิญญาณ เป็นอีแหววเลย”
เน็คเป็นไงเรื่องนี้
เน็ค : “เรื่องนี้ผมเล่นเป็น เคน ครับ น่าจะเป็นอีกตัวหนึ่งที่เป็นเหมือนตัวดําเนินเรื่องเหมือนกันครับ ก็จะมีความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ ว่าแบบถ้าเราเชื่อแล้วมันจะมีผลดียังไงกับเราแล้วถ้าเราไม่เชื่อมันจะมีผลเสียยังไงกับเรา มันก็จะมีความเป็นตัวละครที่มี ความคิดอยู่ในหัว ตั้งคําถามอะไรยังไง แต่ก็ไม่ลบหลู่นะครับ ไม่เชื่อแต่ไม่ได้ลบหลู่ เพราะว่าตัวเคนเองเนี่ยมีปมในพาร์ทของครอบครัว เรื่องความเชื่อพ่อก็จะมีอยู่อย่างนึง แม่ก็จะเป็นอยู่อย่างนึง มันเลยกลายเป็นทําให้เรารู้สึกว่าตกลงมันคือยังไง เราต้องอะไรยังไง เค้าจะมีความคิดแบบนี้อยู่ตลอดนะครับ”
ยากง่าย จาก บทเดิมที่เราเคยเล่นมั้ย หรือว่า
เน็ค : “เรื่องนี้ผู้กํากับค่อนข้างที่จะให้ผมเป็นผม ก็เลยค่อนข้างที่จะไม่ยาก ผมก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพียงแค่ลดความขี้เล่นของตัวเองลง แล้วก็ต้องนิ่งขึ้น ด้วยเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นในเรื่อง มันต้องนิ่งอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้อาจจะเป็นคนร่าเริง แต่ในเรื่องเค้าไม่ได้เล่าครับ แต่ว่าพอกลับมาในพาร์ทของที่เราจะเอาเรื่องคายอ้อมาเล่ามันมีเหตุการณ์ที่ทําให้เราต้องนิ่งขึ้น ต้องสุขุมขึ้นแล้วมันต้องมีความคิด”
แล้วในโปสเตอร์ที่เห็น นั่นก็คือเรามั้ยหรือเปล่าไม่รู้
เน็ค : “โปสเตอร์ที่เห็นตูดนั้นเหรอ ผมแชร์ไปในเพจของผมในโซเชียล นี่ดากผมเองครับ ทุกคนก็เชื่อ เออ แน่จริงก็หันหน้ามาสิ คือว่าเขาก็แซวเล่นเล่นสนุกสนานกันไป ซึ่งในหนังอะ เอางี้เราอุบไว้ดีกว่า ไปดูดีกว่าว่าดากใครกันแน่”
คายอ้อมันคือการผิดครู แต่ในเรื่องนี้มันเป็นเรื่องราวยังไง
เน็ค : “ถ้าในมุมมองของความเชื่อจริงๆ ผมมองว่าใครทําอะไรมันก็จะมีผลที่ตามมา โดยที่แบบถ้าในความเชื่อก็จะคิดว่าแบบเป็นครูบาอาจารย์ เขาทํามาแกล้ง แต่จริงๆ แล้วผมมองคําว่าคายอ้อ มันไม่ได้ผีสาง ไม่ได้มาทําอะไรเราหรอก มันก็จะมีอธิบายอยู่ในเรื่องครับว่าแบบไม่ใช่ผีสาง ผีครูบาอาจารย์เนาะ ครูบาอาจารย์เขาไม่มาทําอะไรเราหรอก อย่างที่เรานับถือจริงๆ คายอ้อมันมีไว้ให้เราปฏิบัติแล้วก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะให้ทุกคนรักใคร่สามัคคี กลมเกลียวกันในวงแค่นั้นเอง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ”
อ๋อมแอ๋ม : “ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทําตามครรลองครองธรรม”
มันเป็นเรื่องของการผิดครู เลยทําให้ต้องเจอกับหายนะจุดจบอะไรที่มันแบบเราคาดไม่ถึงอะไรแบบนี้ถูกมั้ย สําหรับเนื้อเรื่อง
เน็ค : “ใช่ครับ ถ้าทางวิทยาศาสตร์ก็คือใครทําอะไรก็ได้รับแบบนั้นประมาณเนี้ยครับ ตัวอีแหววเองมันก็มีเหตุและผลของมันเองที่เป็นแบบนี้”
อ๋อมแอ๋ม : “ก็เพราะมึงทํามึงเอง”
เน็ค : “อะไรประมาณเนี้ยครับ แต่ในพาร์ทความเชื่อมันก็จะมีนะครับที่แบบว่า มีมุมที่แบบโดนเหมือนผีเข้าบ้าง ซึ่งในโลกของความเป็นจริง คายอ้อ จริงๆ ก็น่าจะมีเนาะ”
เคยเจอไหมใครที่มีประสบการณ์ไหม หรือว่าคนรอบตัวข้างๆ ที่ทํางานด้วยกัน เคยมีที่เค้าเป็นไหม
เน็ค : “ของผมถ้ารู้สึกด้วยตัวของผมเองนะ คือผมจะไปประกวดร้องเพลงรายการ ซึ่งเป็นรายการเริ่มต้นเลยของผมก็คือรายการไมค์ทองคํา ในวันนั้นผมซ้อมยังไงก็ไม่มีเสียงร้องมันหลุดระเนระนาดแล้ว แบบป่วยด้วย ก็มีความรู้สึกว่า แหมกูตกรอบนี้แน่ นั่นแหละนอยตัวเองชิบหาย แต่ก่อนจะขึ้นเวทีไปร้องจริง ผมก็ยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรานับถือครูบาอาจารย์ก็เหมือนว่าไหว้คายอ้อ ขึ้นไปปุ๊บ ปรากฏว่าตัวเองตอนพูดยังแหบเลยนะครับ แต่เปล่งเสียงมาคําแรก เสียงมาจากไหนวะ แล้วแบบมันมีความสุขมากกับการร้องเพลงวันนั้นแล้ว มันก็ทําให้เราชนะนี่คือสิ่งที่ผมพบเจอได้กับตัวเอง แล้วก็เป็นแบบนี้ในหลายครั้งครับในการร้องเพลงที่มันเป็นอะไรที่สําคัญน่ะ”
อ๋อมแอ๋ม : “ในส่วนของอ๋อมแอ๋มนะคะ ก็จะเป็นวันไหนที่ลืม ลืมระลึกถึงก่อนขึ้นเวทีปกติ เฮาต้องขอก่อน แต่มันมีวันนึงที่หนูรีบมากแล้วแบบมันกะทันหันที่จะต้องรีบขึ้นเวทีด่วน เพราะว่าคิวมันสลับอะไรอย่างเงี้ยค่ะ ขึ้นไปปุ๊บเราก็ลืมไหว้เวทีด้วย ลืมไหว้คายอ้อวง ลืมไหว้คายอ้อตัวเอง เหงือกแห้งหลุดออกจากหัวสมองเลย จําอะไรก็ไม่ได้ แล้วก็คิดว่าเห้ย! มันสติเป็นจั๋งใดหว่ะ ทั้งๆ ที่ก็ร้องเพลงเดิมมา นี่จะปิดฤดูกาลแล้วแต่ว่าแบบ สาวรอผ้าไหมน่ะ ที่เราร้องเหมือนแบบท่อนที่ 2 มันร้องว่าอะไรคิดเนี่ยก็ไม่ออก ที่ไหนได้ระลึกได้ว่าลืมไหว้ แล้วทีนี้หนูก็แบบครูบาอาจารย์ช่วยหนูด้วยค่ะ หนูก็ดึงสติกลับมา ก็ค่อยแบบไปต่อได้ มันเหมือนแบบมันแว๊บออกไปเลย อันนี้ใช่มันก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ แต่ว่าในความรู้สึกเนี่ยหนูเชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะว่าเวลาเราไหว้ปุ๊บทุกอย่างมันจะไหลลื่น บางทีเนื้อเพลงนี่แทบมาบ่ต้องคิดเลยปากมันไปหมดเลย”
เน็ค : “มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะตัวเน็คเองถ้าร้องงานปกติอะ ไม่เท่าไหร่ แต่ว่าเน็คผ่านการประกวดมาใช่ไหมครับ แล้วการประกวดคือมันรอบเดียว มันลืมไม่ได้ เป็นบ่อยมาก บางทีเพลงนั้น เราคิดว่าก็มึงซ้อมบ่อยไง ถึงตอนนั้นมึงตื่นเต้น สุดท้ายร่างกายเรามันจํา มันก็จะฟึดมาเอง แต่ผมไม่มีเวลาซ้อม เวลาซ้อมมันน้อยแต่บทมันจะอยู่ดีๆ ปากมันไปเองเลยนะครับ มันจะเป็นอย่างนั้น มันแบบเป็นเสี้ยววินาทีที่มันจะพึ่บออกมาเองเนี่ยครับ นี่แหละครับที่เค้าว่าถ้าเราเชื่อเรื่องครูบาอาจารย์ บ้านเฮา ภาษาอีสานเพิ่ลว่า มันสิมีแนวของมัน”
บอสโจเป็นยังไงบ้างในฐานะผู้อํานวยการสร้าง และก็เล่นด้วย
อ๋อมแอ๋ม : “คือเราเห็นตั้งแต่จุดเริ่มต้นของแกอยู่แล้ว แกมีความตั้งใจสูงมาก แล้วช่วงที่ถ่ายทํา คือแกยอมทิ้งวงไปเลย ก็คือไม่ได้ไปขึ้นเวทีกับลูกน้องเลย เพราะว่าต้องมาทุ่มเททําหนัง ก็คือตั้งใจมากๆอะค่ะ เราเห็นตั้งแต่ความตั้งใจของแกแล้ว ทีนี้พอยิ่งช่วงนี้คือก็ให้กําลังใจบอสตลอดค่ะว่าเดี๋ยวหนังฉายบอสสิหายเหนื่อยแล้วจ้ะ ตอนนี้ก็ให้กําลังใจเติมกําลังใจให้แก เพราะว่าคือระดับผู้อํานวยการสร้าง แต่ว่าทําไมต้องลงมาทําอะไรทุกอย่างเนาะ คือหนูก็เพิ่งเคยเห็น คือบอสเป็นคนที่สุดยอดมากคือทําอะไรทําจริงแล้วมีความตั้งใจสูงมาก รวมถึงทีมผู้กํากับเราด้วย มืออาชีพทุกอย่างก็เลยราบรื่นทุกอย่างเลยค่ะ”
พี่ใหม่ ผู้กำกับ ใจดีไหม
อ๋อมแอ๋ม : “ใจดีน้า ไม่ใช่การทํางานทุกคนก็ต้องมีบ้างที่แบบต้องกดดันกันบ้าง แต่ว่าคือในความน่ารักของพี่ๆ คือน่ารักทุกคนเลยค่ะ”
เน็ค : “พี่ใหม่ใจดีมากครับ มืออาชีพมากๆ”
ฝากภาพยนตร์หน่อย
เน็ค : “อยากฝากทุกๆ คน บางคนอาจจะมองว่าบอสโจทําคอนเทนต์ตลกเฮฮาไปวันๆ หนังออกมามันก็จะเล่นๆ หรือเปล่า มันก็ดีเหมือนกันครับ ที่คนไม่คาดหวังเพราะผมเชื่อว่าทุกคนจะไม่ผิดหวังแน่นอน ถ้าเลือกที่จะซื้อบัตรไปดู คายอ้อ อย่างพี่ใหม่เป็นผู้กํากับ แกเคยกํากับบุพเพสันนิวาสมาก่อน แกไม่มีทางที่จะเอาชื่อของเขามาทิ้งแค่นี้แน่นอน เพราะฉะนั้นผมกําลังจะบอกว่าเราตั้งใจในทุกๆ พาร์ต ในทุกๆ มุมของหนังเรื่องนี้ พี่โจจริงจังมากๆ อย่างที่อ๋อมแอ๋มพูด เขาตั้งใจทําแบบตั้งใจจริงๆ ลงมาโปรโมตด้วยตัวเอง ทําทุกอย่างเพื่อที่จะเชิญชวนให้ทุกๆ คน ลองเปิดใจไปดูหนังเรื่องนี้ ผมว่ามันไม่มากเกินไปครับ ถ้าผมจะพูดคําว่ามันเป็นวาระของคนอีสานที่แบบจะลองเปิดใจให้กับหนังอีสานเรื่องหนึ่งที่มีคนสร้างเป็นคนหมอลําจริงๆ มาเล่าเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเราลองเปิดโอกาสให้หนังเรื่องนี้นะครับ”
อ๋อมแอ๋ม : “เข้าโรงแล้วค่ะ ฝากพี่น้องทุกท่านนะคะ ไปให้กําลังใจแล้วก็พิเศษอีกอย่างนึงคือในภาพยนตร์เรื่องนี้คือบอสสามารถรวมตัวคนหมอลําและคนบันเทิง อินฟลูเอนเซอร์ ที่มีแต่คนมีชื่อเสียง มีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน คือมารวมตัวกันในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นก็คือมีเซอร์ไพรส์อะไรให้แฟนๆ ในหนังแน่นอนนะคะ และอยากเชิญชวนให้พี่น้องสนับสนุนหนังอีสานบ้านเฮาค่ะ เป็นหนังของวงหมองลำวงแรกที่เป็นคนสร้างหนังนะคะ ฝากสนับสนุนด้วยจ้า”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี