ส่องหน้าใหม่ "ปอนด์ รุ่งรัตน์“ ดาราสาววัย 50 กว่ากะรัต ล่าสุดดูเด็กลง แถมราศีจับ ผิดกับหลายปีที่ผ่านมา ที่พบบททดสอบชีวิตอย่างหนักทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว จนแทบไม่มีที่ยืน แต่ล่าสุดในวิกฤตย่อมมีโอกาส ในความโชคร้ายมักจะมีความโชคดีอยู่เช่นกัน และ ปอนด์ รุ่งรัตน์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเจ้าตัวกล่าวเปิดเผยถึงชีวิตวันนี้ว่าดีขึ้นมาก แม้ที่ดินที่ประกาศขายยังไม่ได้ แต่ก็เริ่มมีงานในวงการบันเทิงติดต่อเข้ามามากมาย จนสามารถประคองชีวิตในช่วงนี้ได้สบายขึ้นแล้ว

“จะว่าปอนด์หาย ก็หายไปนานค่ะ ช่วงไม่มีละคร ชีวิตก็วิกฤตมาตั้งแต่โควิด จากการที่มีแต่ลูกหนี้ กลายเป็นว่าเราเปลี่ยนจากเจ้าหนี้มาเป็นลูกหนี้จากการไปช่วยเหลือคนอื่น ช่วงหนึ่งเหมือนเร่ร่อนเลยค่ะ จากภูเก็ตย้ายไปสงขลา กะว่าอยู่ต่างจังหวัดจะประหยัดค่าใช้จ่าย แต่หนักกว่าเดิม สุดท้ายก็พาครอบครัวกลับมาอยู่กรุงเทพ มาหาบ้านเช่าอยู่ แล้วได้โอกาสจากพี่เดช พี่ชายที่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตกางเกงยีนส์ เขาก็ให้กางเกงไปขายที่ตลาดนัดรถไฟ ทีนี้พอขายเสร็จกลับมาต้องมาตีหนึ่งตีสองต้องกลับมาดูแลแม่ต่อ การพักผ่อนไม่พอสะสมจนเราก็มีอาการบ้านหมุน ช่วงนั้นพี่ท็อป(บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) ต้องขอบคุณพี่ท็อปพี่ไทด์ บ้านสุขสุดท้าย ช่วยเอาแม่ไปดูแล พอรักษาหายก็รับแม่กลับมา พอเรามีอาการบ้านหมุนอีก พี่ท็อปก็มารับแม่ไปดูแลอีก แล้วช่วงที่พี่ชายที่เป็นจิตเวชหายไป 9 วัน ตอนนั้นเหมือนชีวิตทรุดหนักเลย ไหนจะแม่ด้วย พี่ชายด้วย แต่โชคดีที่พี่น้องสื่อฯ หน่วยงานต่างๆและกระจกเงาช่วยกันตามจนเจอ พอมีเรื่องของที่ดินอีก พี่ๆสื่อฯก็ช่วยกันลงขายให้ แต่ว่าตอนนี้ยังขายไม่ได้ ก็เข้าใจเศรษฐกิจไม่ดี แต่ปอนด์ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ ทางผู้ใหญ่ที่รับจำนองไป ก็บอกเขาว่าเราไม่ได้หายไปไหนนะ เราสู้อยู่ พยายามหาโอกาสอยู่”

ปอนด์ รุ่งรัตน์ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นโชคดี ที่ถูกชวนให้ไปทำศัลยกรรมดึงหน้าเคสรีวิวที่ วายเคเจ (คลีนิก YKJ Medical Center) จึงได้ทำศัลยกรรมหน้าใหม่ ทำให้ชีวิตมีจุดเปลี่ยน ที่เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเปลี่ยนโหงวเฮ้งหรือไม่ แต่พูดไปก็ขนลุกไปด้วย

“ตอนนั้นปอนด์อยู่ในช่วงหมองหม่นไปหมด หน้าเราก็ดูอายุเยอะ แต่พอทำศัลยกรรมมาแค่ 2 สัปดาห์ งานเข้าเลยค่ะ มีละครติดต่อเข้ามา แต่ละครเรื่องนั้นเป็นละครย้อนยุค หน้าเรายังไม่เข้าที่ เลยไม่ได้รับเล่น แต่หลังจากนั้นก็มี ไทยพีบีเอส ให้เล่นละครเรื่อง แซนดี้ ครูแสนดี เป็นละครปัจจุบัน เลยได้เล่น และไม่นานก็มีงานพิธีกร เอ็มวีทีวี ซึ่งเขาก็เมตตาเรา เลยให้ทำรายการจากหนึ่งรายการ ตอนนี้เพิ่มเป็น 5 รายการ แล้วยังมีงานต่างๆที่เราถือลิขสิทธิ์ จากที่มืดมนมาก ตอนนี้อยู่ๆ ก็มีติดต่อมาหาเราจากต่างประเทศ อยากได้งานของเราเองไปต่อยอด แล้วมีรายได้เข้ามา ซึ่งมันมหัศรรย์มากค่ะ จนรู้สึกว่า เฮ้ย ตั้งแต่เราเปลี่ยนโหงวเฮ้ง เปลี่ยนความสดใส และเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นความสุข ลืมเรื่องเก่าไปให้หมดก่อน ดูแลแม่กับพี่ให้ดีก่อน แล้วมาทำให้หัวใจตัวเองมีความสุขเข้าไว้ กับหน้าที่สดใสขึ้น เหมือนเปิดรับสิ่งดีๆ เข้ามาเลยค่ะ”

“พอเริ่มมีเงินเราก็นึกถึงคนที่เคยเมตตาเรา ตอนที่เราลำบาก เขาโอนเงินมาให้โดยที่เราไม่ได้ขอนะ บางคนลำบากยังให้เรา เราก็คืนเขาไปบางคนที่เขาร่ำรวยอยู่แล้ว ให้เราแบบไม่เอาคืน แต่เราไม่ได้ค่ะ เพราะเงินของเขา ที่เขาหามาก็ไม่ได้ง่าย จากที่เรารู้ว่าเงินมันหายาก ก็จะทยอยคืนทุกคนไป และบอกหลายๆ คนว่า ตอนนี้ปอนด์ดีขึ้นแล้วนะ ชีวิตดีขึ้นมากเลย แต่ดีขึ้นในลักษณะที่ว่าไม่ต้องดิ้นรนไปหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านแล้วเพราะมีเงินเดือนประจำแล้ว แต่ว่าค่าอยู่ค่ากินค่าแพมเพิร์ธแม่ จิปาถะต่างๆมากมาย ก็ยังต้องหาอีก ก็พยายามหาทุกทางค่ะ เพื่อให้เราไปต่อได้ ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนตอนที่เราแบบ เฮ้อ ร้อยนึง เมื่อไหร่จะขายกางเกงได้สักตัว มันยากมาก แต่ตอนนี้เหมือนเราตั้งหลักได้ด้วยเงินหมื่นแล้ว จ่ายค่าเช่าบ้านได้แล้ว ค่อยหางานเพิ่มเติมให้เราดูแลตัวเองได้พอดีในเดือนนึง แล้วส่วนที่เหลือก็จะกระจายคืนให้ทุกคนที่เขาช่วยเรามา”

“ปอนด์รู้สึกเลยว่า หลังจากที่ทำใจให้มีความสุข และมีใบหน้าที่ปอนด์ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่านะ แต่จากที่มีใบหน้าสดใสขึ้น ทุกอย่างก็เปิดขึ้น(อยู่ๆ ฟ้าเปิด?) ใช่ค่ะ เห็นชัดเลยว่ามีสิ่งที่ดีๆ เข้ามาเยอะ (เพราะเปลี่ยนโหงวเฮ้ง?) ปอนด์ไม่รู้ว่าเพราะโหงวเฮ้งหรือเปล่า แต่ตอนนั้นตาเราก็ตก หน้าตก ตกไปหมด (ทำอะไรมาบ้าง?) ปอนด์ทำทั้งหน้าเลย(ยิ้ม) คือคุณหมอเขาก็เมตตาทำให้หมดเลย ก็มีฉีดไขมันหน้าผาก ดึงหน้าทั้งหน้าเลย แล้วฉีดไขมันที่ตา เก็บถุงใต้ตา ดึงคอ แล้วแก้ปลายจมูกให้มันเชิดนิดนึง (ก่อนทำมีการคุยเรื่องโหงวเฮ้งมั้ย?) ไม่ได้คุยค่ะ แต่หลังจากทำเสร็จ แล้วมีการไปดูแลแผล หมอถามว่ามีงานเข้าหรือยัง ปอนด์ก็ถามว่ามันเกี่ยวอะไรกับงานเข้าคะ คุณหมอรู้ได้ยังไงคะว่ามีงานเข้า คือปอนด์ไม่เคยโทรบอกใครเลย พอบอกหมอว่ามีละครเข้า 2 เรื่อง คุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวมีเข้ามาอีกเรื่อยๆ เราก็แบบว่า คุณหมอเป็นหมอดูหรือหมอศัลยกรรมคะ(หัวเราะ)”

ถามต่อว่าเชื่อเรื่องนี้เหมือนกันหรือ? เธอบอกว่าพูดไปก็ขนลุก เพราะหมอทักแล้วมีงานเข้าจริง คิดว่าคุณหมออาจจะรู้โหงวเฮ้งแล้วทำเปิดให้ ..  “นี่ยังไม่เสร็จนะคะ คุณหมอกันบอกอาจจะต้องเปิดตาให้สว่างขึ้นอีกนิดนึง (ทำมานานหรือยัง?) ประมาณ 6 เดือนกว่า แต่งานเข้ามาก ปอนด์อยากเปิดตารางงานให้ดูเลย ว่ามีทุกวันเลย แต่ยังไม่พอนะคะ จริงๆ ยังอยากมีงานอีก เพราะเคยได้ยินผู้มีเมตตาหลายคนรับคนไลฟ์ขายของ อยากจะช่วยลูกหนี้อะไรยังงี้ค่ะ ถ้าจะช่วยลูกกตัญญูด้วยได้มั้ยคะ(หัวเราะ) เพราะตอนนี้คุณแม่ร่างกายไม่แข็งแรง ปอนด์ก็อยากหาเงินบำบัดฟื้นฟูให้ร่างกายและจิตใจให้แม่กลับมาแข็งแรง จะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ อย่างตอนนี้ปอนด์ทำงานติดๆ กัน เริ่มบ้านหมุนอีก แล้วพี่ชายที่เป็นจิตเวชต้องดูแลแม่แทนเวลาที่ไปทำงาน พี่ชายก็สะสมเครียดไปด้วย ควบคุมตัวเองได้ไม่ดี กลัวว่าจะหนีออกจากบ้านอีก คือโทรหาปรึกษาพี่ท็อป พี่ท็อปบอกว่าเอางี้ ปอนด์เคลียร์เรื่องพี่ปุ๊ก่อน แล้วรับแม่ไปอยู่กับพี่ท็อป พอเราว่างเราก็ไปสลับพาแม่กลับมาอยู่ด้วย พอติดงานต่อเนื่องก็จะไปฝากที่บ้านสุขฯค่ะ ส่วนพี่ปุ๊ตอนนี้พี่ป้อมพี่ชายคนโตรับไปอยู่ด้วยปอนด์ก็ดูแลค่าใช้จ่ายบางส่วนค่ะ”

 อย่างไรก็ตาม ปอนด์ รุ่งรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ฝากขอบคุณ Thai PBS ผู้จัดละคร ช่องเกษตรนิวส์ MVTV คุณหมอกัน YKJ ผู้ใหญ่ พี่ๆ เพื่อนๆกัลยาณมิตร และสื่อ ทุกคนที่มีส่วนช่วยกันจำได้ทุกๆเรื่อง จำได้ทุกคน มีโอกาสจะตอบแทนคุณนะคะ“