หลังนักแสดงสาว  มารี เบรินเนอร์ ปฏิเสธการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ขณะขับรถยนต์ ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว เข้ามาที่ด่านตรวจของ สน.วังทองหลาง โดยมี บอส อัศม์กรณ์ ไฮโซชายคนสนิท แสดงพฤติกรรมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ล่าสุดพนักงานสอบสวนมีการแจ้งให้นักแสดงสาวและเพื่อนชายคนสนิทเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อนจะส่งตัวฟ้องศาล หลังจากถูกตำรวจแจ้งข้อหา เมาแล้วขับ ซึ่งตามกฎหมายแล้วการปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์ ตำรวจสามารถสันนิษฐานได้ว่าเมาแล้วขับ โดย มารี เบรินเนอร์ ใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัวเป็นเงินสด 20,000 บาท

โดยหลังจากเกิดเหตุ มารี เบรินเนอร์ ได้ยอมรับกับทางตำรวจว่า มีการดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนจริง ขณะที่ บอส อัศม์กรณ์ ฝ่ายชาย ถูกแจ้งข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งฝ่ายชายก็ให้การรับสารภาพสำหรับกรณีการปฏิเสธการเป่าแอลกอฮอล์ ตามกฎหมาย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 ระบุไว้ว่า หากไม่เป่าแอลกอฮอล์ เท่ากับ เมาแล้วขับ ซึ่งหลังจากนี้ก็ไม่ต้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด และไม่ต้องแจ้งปริมาณแอลกอฮอล์โดยข้อหา เมาแล้วขับที่มาจากการปฏิเสธการเป่าแอลกอฮอล์ จะมีอัตราโทษสูงกว่าข้อหาเมาแล้วขับปกติ ส่วนหลังจากนี้จะมีการบำเพ็ญประโยชน์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล มีอัตราโทษปรับ 10,000-20,000 บาท จำคุก 1 ปี ต่อมามีรายงานว่า มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว ได้แอบเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วันนี้ 25 สิงหาคม โดยเข้าประตูด้านข้างของ สน. ก่อนเดินทางออกไปรายงานตัวต่อศาลแขวงพระนครเหนือ โดยล่าสุด ศาลเเขวงพระนครเหนือพิพากษาจำคุก มารี เบรินเนอร์ เป็นเวลา 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และคุมประพฤติ 1 ปี ให้รายงานตัว 3 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง และสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือนขณะที่ไฮโซหนุ่มศาลพิพากษา จำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท และโทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี