ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการสำหรับงาน THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2025 (TILFF 2025) ท่ามกลางบรรยากาศเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม มิตรภาพ และความประทับใจที่ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมแบ่งปันตลอดหนึ่งสัปดาห์ ส่งท้ายความหลากหลายด้วยภาพยนตร์ “เทย..ไทบ้านเดอะซีรีส์” ถูกเลือกเป็นหนังปิดเทศกาล ที่มาพร้อมโทนเรื่องที่สนุกสนาน เข้าถึงง่าย และสะท้อนชีวิต LGBTQ+ ได้อย่างอบอุ่น สร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้กับผู้ชมได้ทั้งโรงภาพยนตร์

หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญคือการประกาศผล Short Film Awards Competition ที่มุ่งไปที่การสนับสนุนผู้กำกับรุ่นใหม่จากทั่วโลก ซึ่งมีภาพยนตร์ส่งเข้าประกวดมากกว่า 1,000 เรื่อง โดยรางวัลสูงสุด Grand Jury Prize ตกเป็นของภาพยนตร์ CURA SANA ผลงานของผู้กำกับ Lucía G. Romero จากประเทศสเปน ที่เล่าเรื่องราวการเดินทางของสองพี่น้องเพื่อเยียวยาบาดแผลจากความรุนแรงในครอบครัวได้อย่างลึกซึ้ง ด้านผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทย “ภาคิณ ดำศรี” ก็โดดเด่นป็นที่จับตามอง เพราะผลงานการกำกับของเขากลายเป็นภาพยนตร์สั้นหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ที่คว้ารางวัลสำคัญ Jury Prize จากภาพยนตร์สั้นเรื่อง THE BLUE SUNSHINE LOVE (รัก...ฉันเหงาในเมืองใหญ่) ที่เล่าเรื่องราวของ“เชอ” เกย์หนุ่มชาติพันธุ์วัย 23 ปี ทำงาน
ที่ร้านขายของฝากถนนข้าวสาร เขาได้รู้จักกับ “แดน” นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเชื้อสายจีนวัย 39 ปี ความสัมพันธ์ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาครอบครัว เมื่อแม่พยายามเหนี่ยวรั้งไม่ให้เชอไปไหน การมาของแดนจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดทางเลือกใหม่ ด้วยการชวนให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตในต่างประเทศการได้รับรางวัลของผลงานเหล่านี้คือเครื่องยืนยันถึงความสามารถของผู้กำกับในการถ่ายทอดประเด็นที่ละเอียดอ่อนได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งล้วนสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของ
คนทำหนังรุ่นใหม่ที่พร้อมจะขับเคลื่อนวงการต่อไปในอนาคต

คุณเต้ - ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก ผู้อำนวยการเทศกาล TILFF 2025 กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการจัดงาน TILFF 2025 มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 100,000 คน ซึ่งแบ่งเป็นการเข้าชมภาพยนตร์คุณภาพกว่า 40 เรื่องที่คัดสรรมาจากทั่วโลก, การเข้าเจรจาธุรกิจคอนเทนต์วาย และการเข้าร่วมกิจกรรม  Fan Meet จากศิลปิน นักแสดง และครีเอเตอร์ชื่อดัง เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเทศกาลแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเวทีฉายภาพยนตร์ แต่ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่มีผู้เข้าร่วมงานคึกคักตลอดเทศกาล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนแม้เทศกาลจะจบลง แต่พลังของเรื่องเล่าและมิตรภาพยังคงดำเนินต่อไป โดยเทศกาลจะกลับมาอีกครั้งใน THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ+ FILM & TV FESTIVAL 2026 เพื่อสานต่อการเดินทาง และขยายพื้นที่ที่ยิ่งใหญ่และอบอุ่นยิ่งขึ้นสำหรับชุมชน LGBTQ+