“แคทรียา อิงลิช” เปิดใจครั้งแรกและครั้งเดียว ถูกแฟนฝรั่งล่มงานหมั้น - บอกเลิก ลั่นอนาคตแต่งงานก็จะไม่เปิดตัวสามี
“แคทรียา อิงลิช” วันนี้ขอเปิดใจเรื่องสุดแซด โดนแฟนเก่าบอกเลิกครั้งแรก ทั้งที่ซื้อแหวนหมั้นเตรียมหมั้นกันแล้ว พร้อมย้อนเล่ามรสุมข่าวฉาว โดนกล่าวหาเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งตอนนี้ก้าวสู่วัยทองแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่อง One31 ที่มี “ดีเจพุฒ พุฒิชัย” และ “เป็กกี้ ศรีธัญญา” เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
มีเหตุการณ์กำลังจะหมั้น แต่โดนเทเฉย มันเป็นยังไง?
แคท : “จริงๆ ไม่ค่อยชอบพูดเรื่องส่วนตัว มันมีความรู้สึกว่าเรื่องส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัวจริงๆ เป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่เรื่องของคนทั้งประเทศ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตคนสองคนก็อยู่ที่เราสองคน แต่ด้วยสมัยนี้ด้วยโซเชียลต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นดาราหรือเซเลบ หรือคนปกติทั่วไปก็เหมือนกัน มันเหมือนกับชีวิตเรามันขึ้นอยู่กับสังคม เลยรู้สึกว่าเราจะไม่เป็นทาสสังคม การตัดสินใจก็อยู่ที่ตัวตนของเรา หรืออีกคนนึง การตัดสินใจในชีวิตเราก็คือตัวเรา คนข้างนอกไม่ได้อยู่กับเราตลอด 24 ชม. บางคนก็ไม่ได้รู้จักเรา”
ตอนนี้พร้อมเปิดใจกับเรื่องนี้?
แคท : “เป็นครั้งเดียวค่ะที่จะเปิดใจ (หัวเราะ) เขาเป็นคนนอกวงการ ชอบสายฝออยู่แล้ว ชอบฝรั่ง เจอในงานแล้วก็คลิกกัน ติ๊กถูกๆๆ ใช่ๆๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่เท่าไหร่ก็ตัดสินใจว่าเขาขอหมั้น ไม่ถึงปี ซึ่งก็ไม่นานนะ เร็วไป จริงๆ ต้องคบกันเป็นปีๆ ค่ะ (หัวเราะ) มันก็ลงล็อกในช่วงระยะสั้น แต่อย่าลืมว่าการคบใครกับเราสักคน สำหรับเราถ้าคบใครต้องคบนาน ถ้าใช่ก็ตลอดชีวิตไปเลย เราก็ตกใจตื่นเต้นมีคนขอหมั้นแล้ว ดีไซน์แหวนไปแล้วด้วย แต่ยังไม่ได้รับ”
โมเมนต์เจอเขาครั้งแรก ความรู้สึกเป็นยังไง?
แคท : “ไม่ได้รู้สึกมาก แต่เออ คนนี้ดูดีนะ ดูผู้ดี เป็นฝรั่ง”
ติ๊กถูกมีอะไรบ้าง?
แคท : “จากแรกเห็น รู้สึกว่าคนนี้ดูดีนะ รูปร่างดี ดูสมาร์ทหน้าตาดี อายุมากกว่าเรา แต่ก็ดูดีสำหรับอายุ อายุมากกว่าเรา 5-6 ปี ไม่เยอะ ก็รู้สึกว่าเขาใช้ได้ เขาอยู่เมืองไทย”
น่ากินมั้ย?
แคท : “(หัวเราะถูกใจ) ก็นิดนึง คนนี้เขาเป็นคนที่ดูแลตัวเอง พอได้คบกัน ก็มีความรู้สึกว่ามีอะไรหลายอย่างที่ใช่ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ด้วยความรวดเร็ว เขาก็ขอหมั้น เขาบอกอยากได้แหวนแบบไหน ดีไซน์มาเลย”
ระหว่างทางเกือบปี สวีตกี่เปอร์เซ็นต์?
แคท : “เขาเป็นคนเปิดประตูให้ ให้เราเดินเข้าประตูก่อน เป็นเจนเทิลแมนมาก เป็นผู้ดีเก่า (หัวเราะ) มีความรู้สึกว่าอุ้ย คนนี้มีมารยาท เป็นคนสุภาพมาก”
เขาเคยแต่งงาน มีลูกมาก่อน?
แคท : “เขาเคยมีครอบครัวมาก่อนค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้ติด ถือว่าเขาจบกับครอบครัวนานแล้ว ทุกอย่างรวดเร็วค่ะ”
เขาขอหมั้น ดูบุก?
แคท : “เร็วมากนะ เขาไม่ได้คุกเข่าขอ แต่พูดว่าแต่งงานกันมั้ยเราก็บอกว่าได้ ก็คุยกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้คุกเข่า ให้แหวน มันเหมือนมาคุยกันว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง จะมีครอบครัว จะอยู่ที่ไหน ตอนนั้นเราก็โอเค มันไม่ได้อยู่ดีๆ คุกเข่า แต่งงานกับผมมั้ย เหมือนคุยกันแล้วก็โอเคได้ ยูดีไซน์แหวนที่อยากได้ เราก็โอเค ตามนั้น ตอนนั้นก็ตกใจ แต่ก็โอเค คุยเรื่องอนาคต กลายเป็นไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่”
ตั้งแต่เจอเขา จนเขาขอหมั้น อะไรทำให้เราตอบไปว่าเยส?
แคท : “เขาเหมือนทำให้เราเห็นถึงอนาคต ว่าจะอยู่กันยังไง คล้ายๆ ขายฝันหรือเปล่า (หัวเราะ) ประมาณนั้นแหละ เหมือนฝันเป็นจริง เวลามันสั้นมากๆ แต่คุยกันยาวนานมากๆ เขาก็อยากให้เราเบาเรื่องการทำงานลง เพื่อที่จะเป็นภรรยาที่ดูแลเขา”
ไม่บอกใครเลย ไม่บอกเพื่อนสนิท เก็บเงียบคนเดียว ทำไมไม่บอกใคร?
แคท : “กะว่าแต่งแล้วค่อยบอกค่ะ มันรู้สึกว่าถึงจะหมั้นก็มีโอกาสเลิกกันได้ มันเรียลลิสติก มันบอกไม่ถูก มันรวดเร็ว จริงเหรอเนี่ย จะบอกว่าไม่มั่นใจก็ไม่เชิง แต่รู้สึกว่าจริงเหรอเนี่ยพร้อมบอกทุกคนแล้วเหรอ เราก็มีความรู้สึกไม่มั่นใจเพราะมันรวดเร็วมาก เป็นคนที่ชอบศึกษา คบแฟนแต่ละคนที่เคยผ่านมา ที่ไม่เคยบอกใคร (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ไม่เคยต่ำกว่า 5 ปี บางทีคนก็ไม่รู้ซะด้วยซ้ำ”
เป็นคนดัง เก็บยังไง?
แคท : “เป็นคนไม่ชอบพูดเรื่องนี้ เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว จะแบ่งแยกเลย เราเป็นคนอยู่ในวงการ แต่งานก็คืองาน ส่วนตัวก็คือส่วนตัว เรื่องของคนสองคนไม่ใช่เรื่องของคนอื่น รู้สึกว่าคนอื่นที่อยู่นอกเหนือจากเราสองคน ไม่รู้จักเราสองคนมากเท่าเราสองคน ไม่งั้นเราจะรู้สึกว่าเราต้องฟังคนนั้น ฟังคนนี้หรือใครพูดอะไรก็มีผลกระทบกับคนสองคน มันเหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย คนข้างนอกเขาไม่ได้รู้จักเราจริงๆ”
เจอกันแล้วระยะสั้นๆ แต่รู้สึกว่าใช่ คิดว่าอาจเป็นแบบนั้นก็ได้ เขาเลยขอเราแต่งงาน?
แคท : “ก็เป็นไปได้ เวลานั้นก็คิดว่าเป็นไปได้ แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ นานา มันไม่ใช่ (หัวเราะ)”
จากที่ชัวร์แล้วจะหมั้น ทำไมมันถึงล่มได้?
แคท : “พอคบไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เขาเป็นคนไม่ดีนะ เขาก็เป็นคนดี แต่อาจจะไม่ใช่คนของเรา ด้วยไลฟ์สไตล์หรือนิสัย พอคบจริงๆ รู้สึกว่ามันเหมือนเราเป็นคนที่ชอบถาม ชอบเคลียร์ ถ้ามีอะไรอยู่ในใจ อยากคุยและเคลียร์ เป็นคนคิดมากอยู่แล้ว ยิ่งเราไม่ได้คุยกับเขา เราก็ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ มันก็จะยิ่งพังไปใหญ่ เราก็จะเป็นคนที่ชอบสื่อสาร ฉันรู้สึกอย่างนี้ เป็นแบบนี้หรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าพอเราพยายามคุยกับเขา เขาจะชัตดาวน์ทันที โอ้โน ไอฟังไม่ได้ กลายเป็นแพนิค ถ้าฉันมีปัญหาฉันคุยกับเธอไม่ได้แล้ว มีช่วงนึงเขาเดินทางไปต่างประเทศ พอไปแล้วเขาก็หายไปเลย (หัวเราะ) เขามีธุระต้องบินกลับไปต่างประเทศ แล้วติดต่อมาอาทิตย์ละครั้ง เราเปิดใจคุยกับเขาไม่ได้ เราบอกเขาว่าถ้ามีปัญหาอะไร หรือเครียดเรื่องอะไร ไอคือเซฟโซนของยูนะ ยูคุยกับไอได้ทุกเรื่อง พี่เป็นคนไม่จัสคน เพราะโดนมาเยอะแล้ว อยู่ในวงการมันถูกจัสโดยคนไม่รู้จักเราเยอะ มันก็เหมือนสอนเราเหมือนกันว่าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าคนนี้เป็นยังไง ถ้าเราไม่รู้จักหรือสัมผัสกับเขาจริงๆ ก็เลยรู้สึกว่าเราคือเซฟโซนของเขา คุยได้ทุกเรื่อง แต่กลายเป็นว่าเขาไม่เปิด เขาปิดกั้นทุกอย่าง เขาเครียดอะไรเขาก็ไม่เล่า”
ตอนเขาบินกลับไปประเทศของเขา เป็นจุดเปลี่ยนทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง?
แคท : “แย่เลย เขาไม่สื่อสารอะไรเลย พอเขาหายไปหลายๆ วันก็จะถาม โทรแล้วเขาไม่รับ ต้องรอให้เขาโทรกลับมาเอง แมสเซสไปก็ไม่อ่านเป็นวันๆ เราเป็นโรคแพนิคเหมือนกัน ยิ่งเขาทำแบบนี้ก็จะรู้สึกว่าฉันทำอะไรผิด จะโทษตัวเองแล้ว ไม่ได้โทษเขา เป็นอะไร ทำไม แค่หายไปไม่กี่ชม. เราก็เริ่มแพนิคแล้ว แต่นี่หายไปเป็นวันๆ เราก็เอาแล้ว เป็นอะไร ก็พยายามคุยกับเขา เขาก็ไม่พูด บอกว่าไอเครียดอยู่ แค่นี้ก่อนนะ แล้วก็หายไป แล้วก็หายไปเลย กลับมาเมืองไทยก็ไม่บอก”
เขาหายไปกี่วัน กี่เดือน?
แคท : “ตอนแรกก็อาทิตย์นึงได้ข่าวเขาสองครั้ง อาทิตย์ถัดไปก็ครั้งเดียว จากนั้นก็สองอาทิตย์ได้ข่าว แล้วก็จางไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ข่าวอะไรเลย ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้”
ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับเขา?
แคท : “ไม่ได้คุย เขาก็ถามว่านึกว่าเรามูฟออนไปแล้ว อ้าว ก็เรายังไม่ได้เลิก”
เขากลับไปประเทศเขากี่เดือน?
แคท : “6 เดือนค่ะ ติดต่อกันได้เพียง 4-5 ครั้ง แล้วเราก็รอ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
มารู้อีกทีว่าเขากลับมา?
แคท : “เขาส่งรูปมา เราก็เอ๊ะ รูปอะไร อยู่เมืองไทย กลับมาได้ 2 เดือนแล้ว ก็ขอบคุณค่ะ (หัวเราะ) เขาก็ขอนัดเจออีก พอนัดเจอ เขาก็บอกว่า 6 เดือนที่ผ่านมาห่างกันนานมากแล้ว ความรู้สึกเปลี่ยนไป ก็เลยจบ เลิกไปอย่างนั้นเลย”
ช่วง 6 เดือน แคทยังสับสน?
แคท : “สับสน แพนิค ทุกสิ่งอย่างเลย เขาคงมีอะไรแหละ เขาถึงมีสเปซของตัวเอง พยายามคิดแง่บวก บางครั้งคิดแง่ลบก็พยายามคิดบวก และรอคำตอบว่าคืออะไร ได้คำตอบแล้วก็คือจบ”
โทษตัวเองมั้ย?
แคท : “ช่วงที่เขาหายไป โทษตัวเอง แต่ก็คิดไปคิดมาจะโทษตัวเองทำไม เราไม่ได้ทำอะไรให้เขารู้สึกกังวลใจ หรือรู้สึกว่าคุยกับเราไม่ได้แต่ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดี ถ้าคนนี้ไม่ใช่ เขาก็อาจเจอคนที่ใช่สำหรับเขา ส่วนตัวเราเองก็จะเจอคนที่ใช่สำหรับเราเหมือนกัน เหมือนเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ว่าดีแล้วแหละที่ไม่ได้ไปต่อ”
ได้ปรึกษาเพื่อนมั้ย?
แคท : “มีนิดๆ หน่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้คุยกับใครเรื่องนี้”
ตอนโดนบอกเลิก แคทมีน้ำตาด้วย?
แคท : “ใช่ อาจด้วยเวลาที่ห่างกันไป มันเหมือนทำใจไว้บ้างแล้ว พอรู้ว่าเลิกแล้ว ก็ร้องไห้วันนั้น แล้วก็โอเค ฉันมูฟออนแล้วล่ะ ฉันจะใช้ชีวิตของฉันแล้ว”
ร้องไห้ฟูมฟายเบอร์ไหน?
แคท : “จะปล่อยออกมาให้เต็มที่ แทบขาดใจ แต่ขอครั้งเดียว ร้องให้สุดเต็มที่เลย แล้วร้องไห้แค่นั้นจบ ไม่เอาแล้ว”
ความรักครั้งนี้กับผู้ชายที่เทเราไป ได้บทเรียนอะไร?
แคท : “อย่ารีบด่วนตัดสินใจ (หัวเราะ) รู้สึกว่าระยะเวลาที่สั้นมาก แล้วหมั้นแล้ว มันก็เร็วไปจริงๆ เราไม่ทันได้ศึกษาจริงจัง ด้วยนิสัยเราเริ่มจะเห็นหลังๆ ก็เริ่มเอ๊ะแล้ว แต่สำหรับตัวแคทเอง แคทต้องศึกษานานๆ ถึงอายุขนาดนี้ก็ไม่รีบ ครั้งนี้มันรีบไปนิดนึง”
ณ จุดนี้เจอใครพร้อมเปิดใจ หรืออยู่ของเราได้?
แคท : “เปิดใจได้ แต่ก็อยู่ของเราได้เหมือนกัน ไม่ได้คิดว่าชีวิตฉันต้องพึ่งผู้ชายคนนึงถึงอยู่ได้ เราอยู่ด้วยตัวเราเองได้เหมือนกัน แต่ถ้ามีเพื่อน มีคนอยู่ข้างเรา มันก็ไม่เหงาเนอะ”
อะไรทำให้ความรักของเราหลายๆ ครั้ง ออกมาในรูปแบบไม่ประสบความสำเร็จ?
แคท : “ทุกๆ ครั้งเป็นบทเรียนแหละ ทำให้เราเป็นตัวเราในปัจจุบัน ตอนนั้นจะมีความรู้สึกว่าโอ้โห เสียใจ ร้องไห้ แต่พอมันผ่านไปแล้ว มันก็รู้สึกว่าเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับตัวเรา ที่เข้ามาในชีวิตของเรา และผ่านไป เขาไม่ใช่คนของเรา จะไปยึดติดกับเขา ถ้าเขาไม่ใช่ อนาคตเขาก็จะไม่ใช่ของเราอยู่ดี จะรั้งเอาไว้เพื่อเสียใจในวันข้างหน้าเพื่ออะไร”
โดนข่าวเป็นมือที่สามบ่อยมาก?
แคท : “เหมือนจังหวะ เราอาจเป็นที่ปรึกษาของเขาหรือเปล่าในช่วงตอนนั้น คืออยู่ในเหตุการณ์คนนี้หย่ากับภรรยา หรือเลิกกับแฟน”
โดนมากี่คู่?
แคท : “2-3 คู่ แล้วเป็นจังหวะถ่ายละครอยู่กับคนๆ นี้ ซึ่งขอโทษด้วยนะ ไม่ใช่แนวดิฉันเลย ไม่ใช่สเปกเราด้วย”
ทำไมข่าวออกว่าเราเป็นมือที่สาม?
แคท : “เพราะไม่ค่อยได้พูดเรื่องส่วนตัวของตัวเองว่ามีแฟนหรือคบใคร บางจังหวะก็มีคนคุย แต่เผอิญไม่มีใครรู้เรื่อง เราก็ไม่ได้พูดว่าเฮ้ย ฉันก็มีนะ”
หลังจากนี้ต้องเปลี่ยนแล้ว?
แคท : “ไม่ ฉันก็อยู่ในที่ของฉันเหมือนเดิม (หัวเราะ) ฉันไม่ใช่สไตล์นั้น เป็นจังหวะอยู่ตรงนั้นพอดี เราก็เอาอีกแล้วเหรอ ทั้งที่เราก็มีคนคุย แต่ก็ปล่อยไป ช่างมัน เป็นข่าวที่เราช่วยไม่ได้ แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจ คนที่อยู่ใกล้ตัวเขาก็รู้ โดนด่าบ่อยจนชินแล้ว”
พอโดนข่าวมือที่สาม แอ็กชั่นยังไง?
แคท : “ก็ปล่อย คิดว่าเดี๋ยวข่าวก็เงียบไปเอง เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราใช้ชีวิตของเราตามปกติ คนที่ไม่รู้จักเรา ไม่รู้เรื่องชีวิตของเรา อยากพูดอะไรก็ปล่อยเขา”
ภาษาชาวบ้าน ข่าวต้องมีมูล ใช้กับแคทไม่ได้ แล้วไม่แก้ด้วย?
แคท : “บางทีออกมามันก็เหมือนร้อนตัว ก็เลยอยู่เฉยๆ นิ่งๆ เดี๋ยวมันก็เงียบไป เดี๋ยวก็มีข่าวอื่นๆ มากลบ”
สองสามคู่ที่ผ่านมา มีใครโทรมาขอโทษมั้ย ทั้งที่เราไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย?
แคท : “มี ไม่รู้เรื่องด้วยนะว่ามีข่าว เฮ้ย ขอโทษว่ะ เราก็ถามเรื่องไร เนี่ย มีเรื่องนี้ๆ เราก็อ้าว อีกแล้วเหรอ ช่างมัน ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย ไม่เป็นไร ก็ปล่อยไป อย่างที่บอกเรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนแต่ถ้าคนๆ นั้น มาทำให้เราเดือดร้อน หรือทำให้เราเสียชื่อ เราก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ การที่เราอยู่นิ่งๆ คือไม่ล้ำเส้น แต่คุณล้ำเส้นเมื่อไหร่ฉันก็ไม่ยอมนะ”
มีล้ำเส้นมั้ย?
แคท : “ก็มี แต่เขาก็ไม่กล้ามากกว่านั้น อาจด้วยความที่เราไม่ยุ่ง เอาจริงๆ ถ้าเก็บมาคิดมากๆ หรือทำให้ซีเรียสมากเกินไป ชีวิตเราจะไม่มีความสุข เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราก็มีความสุข”
เรื่องคนที่ขอหมั้นจบไปนานหรือยัง?
แคท : “พักนึงแล้ว”
ตอนนี้สถานะหัวใจเป็นยังไง?
แคท : “ไม่รู้”
แสดงว่ามี?
แคท : “(หัวเราะ) แหม ก็มีคนคุยแหละ”
ถ้ามีแฟนแล้วอยากเปิดตัวแฟนตอนไหน?
แคท : “ถ้าแต่งงานแล้วอาจจะเปิด แต่คิดไปคิดมา แต่งแล้วก็อาจไม่เปิดด้วย อย่างที่บอก มันเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ถ้าเห็นเดินกับหนุ่มลูกครึ่งนี่คือน้องชายนะ (หัวเราะ)”
ถ้ามีแฟนแล้วแต่งงาน ก็จะไม่จัดงานแต่งด้วยเหรอ?
แคท : “ไม่จัด ข้อแรกคือเปลืองตังค์ (หัวเราะ) จัดงานเพื่อใคร รู้สึกว่าปาร์ตี้กันสองคนก็พอแล้วนะ หรือกับเพื่อนๆ อาจจัดปาร์ตี้ขึ้นมาแล้วเพื่อนๆ อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คืองานแต่ง อยากให้เหมือนอยู่บ้านจัดปาร์ตี้ หรือไปทะเลจัดปาร์ตี้”
ไม่แต่งงานแล้วคนที่คบด้วยจะโอเคเหรอ?
แคท : “ก็ต้องคุยกันก่อนสิ”
“นีโน่ เมทินี” มาเซอร์ไพรส์ในรายการ แคทเข้าไปจุ๊บ?
นีโน่ : “ธรรมดา เขาจุ๊บกันมาร่วม 40 ปีแล้ว ถ้าคบแต่งงาน แล้วไม่จัดงานแต่งงาน จัดทำไม เปลือง เคยจัดมาแล้ว โคตรเปลืองเลยครับ จัดครั้งเดียว ที่ไม่ได้จัดนับครั้งไม่ถ้วนครับ สนิทตั้งแต่แคท 17-18 เรา 20 กว่า เล่นละครด้วยกัน จริงๆ เป็นเรื่องแรกที่เล่นกับแคท เราเปลี่ยนจากพระเอกเป็นดาวตลก สกาวเดือน ก็เลยสนิทกัน เจอตามงานข้างนอก ทักทายเป็นยังไงบ้าง”
รู้สึกยังไงกับข่าวที่เขาโดนผู้ชายเท?
นีโน่ : “ไม่เป็นไร เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ปัจจุบัน น้องไม่ต้องแต่งหรอก ใช้ชีวิตแบบนี้เขามีความสุขแล้ว เวลาเขารักเขาทุ่มเท เหมือนให้ทุกอย่าง จริงจังกับสิ่งที่เขารัก ฉะนั้นเวลาเขาผิดหวัง รู้เลยว่าผิดหวัง แต่ก็แป๊บเดียว ร้องไห้วันเดียว หลังจากนั้นจะกลับมาเข้มแข็งทำงานต่อ แต่คนแบบนี้ลึกๆ ก็จะนึกถึงเรื่องพวกนี้ ไม่มีทางหายหรอก ก็ไม่อยากให้ซีเรียสกับมันมาก ถึงตอนนี้แต่งไม่แต่งไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ มีคู่ใจหรือไม่มีคู่ใจไม่เกี่ยว ถ้าแต่งเพราะเดี๋ยวญาติพี่น้องจะมาแย่งสมบัติ ก็โอเค แต่ง หาคนแต่งให้เป็นทางกฎหมาย เหมือนมีสินสมรสไป แต่เก็บไว้ใช้เองดีกว่า”
เรื่องราววัยทอง เป็นยังไง?
แคท : “กำลังจะเข้า ผ่านหลัก 4 แล้ว กำลังจะเข้าพระราม 5 แล้ว ตอนแรกไม่รู้ตัวด้วย รู้ว่าร้อนวูบวาบ ร้อนระอุจากข้างใน มีพัดพกด้วยนะ อยู่ดีๆ จะร้อนแล้วเหงื่อจะท่วม ผ่านไปจะหนาว เป็นอย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่พอศึกษาเรื่อยๆ อ้าว มันเริ่มเข้าแล้ว เขาเรียกว่าเข้าก่อนวัยทอง ก่อนประจำเดือนจะเริ่มหมด ประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง ไม่มาตามนัดแล้ว มาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น บางทีก็มาเดือนละสองสามครั้ง หรือสองสามเดือนมาที อย่างแรกเลยเหงื่อออกตอนกลางคืน เหงื่อท่วมตัว จากนั้นความวูบวาบจะมาทั้งวัน มาๆ หายๆ ทั้งวัน”
วัยทองจะอยู่กับเรากี่เดือน?
แคท : “แล้วแต่คน บางคน 30 กว่าๆ ก็เป็นได้ เป็นได้สิบปีเลย หรือบางคนก็ 40 กว่า 43 45 49 แต่จะเป็นหลายปีเลย”
รับมือยังไง?
แคท : “ก็อยู่ที่อาหารการกิน ซึ่งสำคัญมาก อาหารเสริมสำคัญมาก พวกโปรตีน เนื้อสัตว์ต้องกินมากขึ้น อาหารการกินเราต้องเปลี่ยนเลย”
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow วันและเวลาใหม่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-12.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี