'นาย ณภัทร'เล่าความเจ็บปวด! 2ปีจิตใจเแตกสลายไม่มีชิ้นดี ทำเพื่อคนอื่นจนลืมความสุขตัวเอง

'นาย ณภัทร'เล่าความเจ็บปวด! 2ปีจิตใจเแตกสลายไม่มีชิ้นดี ทำเพื่อคนอื่นจนลืมความสุขตัวเอง

วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 10.37 น.

6 พฤศจิกายน 2568 เรียกได้ว่าเป็นการเปิดใจครั้งแรกของพระเอกหนุ่ม 'นาย' ณภัทร เสียงสมบุญ ผ่านทางช่องยูทูบ KARNFOEIที่มีนักแสดงหนุ่ม ท็อป ทศพล เป็นผู้ดำเนินรายการ SOFT SPOT PODCAST EP.1 เล่าช่วงเวลาที่หายไป ล้างกระดานชีวิตใหม่หมด กลับมาเลือกตัวเองรักตัวเองเป็นอันดับหนึ่งกับ'นาย ณภัทร'เวอร์ชั่นนี้

'นาย ณภัทร' ได้เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่รู้สึกแหลกสลายที่สุดในชีวิต และลุกขึ้นมาประกอบร่างเป็น นาย ณภัทร เวอร์ชั่นใหม่ ในอายุ 29 ปีที่แข็งแรงทั้งกายและจิตใจ จากคนเก่าที่ทำเพื่อให้คนอื่นมีความสุขจนหลงลืมความรู้สึกตัวเอง ในช่วง 2 ปีที่เป็นช่วงล้างกระดานชีวิต


เพิ่งเข้าใจคำว่ารักตัวเองมันเป็นยังไง เพิ่งรู้ว่ามันรู้สึกยังไง มันทำงานยังไง ผลของมันคืออะไร ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่จากวันนี้จนวันตายผมจะเลือกตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง การที่ผมจะเป็นคนแบบนี้แล้ว มันไม่ใช่ว่าเป็นการเห็นแก่ตัวนะ  ผมเป็นคนโอบกอดคน และห่วงใยคนรอบข้าง ไม่ชอบเห็นคนมีความทุกข์ด้วยเหตุผลเป็นเพราะเรา ผมพยายามทำให้ทุกคนมีความสุขให้ได้มากที่สุด จนลืมตัวเองไปหมดเลย  ผมไม่เคยเอาตัวเองขึ้นมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตเลย บางคนอาจจะมองว่าเห็นแก่ตัวนะ แต่เราไม่รู้ เรารู้แต่ว่าเราพยายามทำให้คุณอยู่นะ จนวันหนึ่งเรามองข้ามตัวเองไป

ช่วงล้างกระดานชีวิต ผมหยุดงานแสดงรับบทบาทไป 1 ปี เพื่อที่จะเวิร์กกับร่างกายกับอารมณ์ กับสภาพจิตใจของผม ผมเหมือนคนร่างแตกแหลกไม่เหลือชิ้นดีอะไรเลย ผมคิดว่าทุกอย่างคือจุดจบของชีวิต จนวันหนึ่งมีอะไรมาเปลี่ยนชีวิต อาจจะเป็นเรื่องวิ่งก็ได้นะ มาวันหนึ่งความคิดของผม คือ เกิดขึ้นว่าไม่เป็นไรมันเกิดขึ้นได้ คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้อยู่คนเดียวนะ อบอุ่นมากเลย ทำไมมันอบอุ่นอย่างนี้ว่ะ

ผมค่อยๆ ต่อๆๆ เจ็บปวดมากเลยวิธีกระบวนการนั้นโคตรทรมาน มันเป็นเหมือนอารมณ์ที่อยู่ลึกมากๆ ฝังเมล็ดพันธุ์ที่ลงไปลึกมากๆ อยู่ในดินพันชั้น เราต้องค่อยขุดมันออกมา ผมจะทำให้ตัวเองมั่นใจเลยว่า ผมจะล้างสิ่งที่ไม่ดีไม่ได้ออกไปหมด อยู่กับมัน เข้าใจมัน ยอมรับมัน บอกไม่ได้ว่าใช้เวลาเท่าไหร่ เป็นเรื่องของอารมณ์ เรารู้สึก ผมจะให้เวลามัน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ มาโฟกัสสภาวะอารมณ์ตัวเอง 

บางคนรู้สึกหายหน้าหายตาไปเลย ทำอะไรอยู่ ผมใช้เวลาที่มีคุณค่าประโยชน์ที่สุดในชีวิตอยู่คือการทำงานกับร่างกายตัวเอง การยอมรับยากมาก กว่าอารมณ์จะรองรับตัวเองใช้เวลามาก วิธีคิดค่อยๆ กลับมา มาพร้อมกับการออกกำลังกาย ผมอินกับเรื่องวิ่ง คนไม่รู้ว่าการวิ่งคือการทำงานกับร่างกายที่ดีที่สุด ผมเป็นแพนิกที่หาวิธีควบคุมมันไม่ได้ อันนี้ไม่เคยเล่าเลยนะ เป็นได้ทุกเมื่อมันหนักมาก ผมอยากแชร์เพราะผมเจอวิธีดีลกับมันแล้วมันเวิร์ก นั่นคือการวิ่ง

มีวันหนึ่งที่ผมเป็นแพนิกตัวสั่นเลย แล้วควบคุมไม่ได้ หัวใจผมเต้นปับๆๆ นอนอยู่แล้วต้องสะดุ้งขึ้นมา จนวันหนึ่งไอ้xxxเมื่อไหร่มันจะหายว่ะ หงุดหงิดโกรธ ลองดูสิขึ้นลู่วิ่งกูจะวิ่งให้เร็วที่สุด แล้วดูสิหัวใจกูมันจะเต้นตายห่าไปเลยหรือเปล่า เพราะชีวิตผมสู้ไม่ถอย 

พอวิ่งสักพักสดชื่น ทำเรื่อยๆๆ ได้ออกไปเจอธรรมชาติสดชื่น ได้เห็นพลัง ทำมันไปก่อนวันที่เราเหนื่อยไม่มีกำลังใจ ช่างแม่งทำมันไปก่อน แล้วมันค่อยมีสเต็ปต่อไป อาการหัวใจเต้น ตัวสั่นที่เราควบคุมไม่ได้ ค่อยๆดีขึ้น บวกกับร่างกาย จิตใจที่เราเวิร์กกับมันตลอดเวลา 

ค่อยๆ ยอมรับมันทางอารมณ์ ใจดีกับตัวเอง มันดีขึ้นไปสเต็ปพร้อมกันเลย หลังๆเริ่มเพิ่มโกลให้ตัวเอง เริ่มลงมาราธอนแรก พอมีเป้าหมายในชีวิตแล้วดี มีเดตไลน์แล้วดี การวิ่งให้อะไรที่มากกว่านั้น ทำให้รู้สึกดีมีความสุข

ผมมีปัญหาเรื่องการไว้ใจคน ผมไม่เชื่อใจใครง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผมจะมีขอบเขตของตัวเองให้เปิดและปิด ซึ่งเมื่อก่อนพังทลายไปหมดเลย แต่วันนี้เราไม้กั้นอัตโนมัติผมเลือกที่จะปิดเปิดให้เท่านี้

ถามถึงถ้าเจอสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมีเหตุให้วิ่งไม่ได้ นาย ณภัทร ตอบว่า มันคือเรื่องจริงความเป็นจริงของโลกที่ไม่มีอะไรสมหวังได้ตามที่เราต้องการตลอด การที่เราเผื่อใจไว้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้น เป็นข้อดีในการประกอบการตัดสินใจ ทุกๆ อย่างมีข้อดีและข้อเสีย 

ผมมีบทหนึ่ง ที่ผมเหมือนคนที่แบกประชากรของประเทศไว้ คำพูดของผมนิดเดียวส่งผลต่ออีกคนที่ผมแบกไว้ทั้งประเทศ วันนี้ผมเริ่มทำความเข้าใจกับทฤษฎีนี้มากขึ้น ผมก็เริ่มเห็นลำดับมันทีละนิด และมองเป็นข้อดีของมัน ทุกสิ่งที่มันไม่ดี ทุกสิ่งที่มันแย่ มองให้เห็นแล้วมันจะเป็นข้อดีในการทำทุกอย่าง ผมเชื่ออย่างนี้

ให้ฝากถึงคนที่อยากกลับมารักตัวเอง นาย บอกว่า อย่างแรกอยากให้กำลังใจทุกคน ปัญหาชีวิตของแต่ละคนความหนักมันไม่เท่ากัน เราไม่สามารถไปสัมผัสในจุดที่เขายืนได้เลยว่าเขาทรมานกับมันมากแค่ไหน ผมมั่นใจว่า คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียวบนโลกนี้แน่นอน บางครั้งการยอมรับว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นแล้ว การได้พูดคุยกับคนอื่นก็ทำให้เราสบายใจได้เหมือนกัน การล้มเหลว ผิดพลาด มีความทุกข์ มีปัญหา ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต มันเกิดกระบวนการเรียนรู้ของมัน ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน จะมองว่าโลกจุดจบ ค่อยๆ ใจดีกับตัวเอง 

บางครั้งคนอาจจะลืมใจดีกับตัวเอง การใจดีกับตัวเองบางทีมันไม่ใช่แค่วิธีคิดนะ ถ้าคิดไม่ออกลองทำแบบนี้ (เอามือไขว้ที่อกตัวเอง) ในวันที่ไม่มีใครกอดตัวเอง ก็กอดตัวเองไปก่อน นี่เป็นเทคนิคหนึ่งที่ผมทำแล้วเวิร์ก (กอดสัมผัสตัวเอง) ไม่เป็นอะไร โอเคเจอเรื่องนี้อยู่ ลูบท้ายทอย ลูบคอ ลูบหู สัมผัสอุณหภูมิคิดมากหัวร้อน พวกนี้เป็นเซนส์ที่ดีมากๆต่อร่างกายเรา 

ผมชอบช่วยเหลือคน ถ้าผมเห็นใครผมจะช่วยเขาอย่างเต็มที่ เพราะเราเข้าใจการอยู่ในจุดนั้นเป็นยังไง รู้สึกยังไง มันมีความคิดอะไรอยู่ ผมว่าผมเจอส่วนที่ไม่ดีที่สุดในชีวิตมาแล้ว จุดที่ผมแตกย่อยยับไม่เหลืออะไรสักอย่าง มีอารมณ์เยอะมากที่เกิดขึ้นในร่างกาย ผมเข้าใจว่ารู้สึกยังไง ไม่ว่ายังไงให้เลือกตัวเอง มั่นใจทุกคนจะค่อยเจอวิธีของตัวเอง ถ้าไม่เดือดร้อนใครให้เลือกตัวเองก่อนเสมอ ภูมิใจในตัวเองให้เป็น ทุกอย่างคือการเรียนรู้ จะประกอบให้คุณเป็นคนในวันนี้ 

ท็อป ทศพล ยังได้ตั้งคำถามว่าถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของโลก ชีวิตฉุกเฉินสุดๆ ปากเหว ไม่ไหวแล้ว โทรหาใครทุกครั้งก็รู้สึกดี  ซึ่ง 'นาย ณภัทร' ได้โทรหาเพื่อนที่เป็นหมอ ชื่อ หมอเมย์ เป็นเพื่อนรักมากรู้จักกันตั้งแต่สมัยเด็ก ตอนนี้เขาเป็นคุณหมอปลูกผม โดย นาย โทรไปขอบคุณเพื่อนสนิทคนนี้ พร้อมบอกรักเพื่อนด้วยความลุ้นว่า

กูอัดรายการ เล่าเรื่องชีวิตอยู่ จะโทรมาบอกว่า กูรักมึง ขอบคุณที่อยู่ในชีวิตกู ขอบคุณในการช่วยเหลือทุกอย่าง มึงน่ารักกับกูเสมอ รักมึงฉิบหายเลย….ไอ้xxx เพื่อนก็ตอบว่า กูรักมึงเหมือนกัน ไอ้ดื้อ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top