วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
มูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี โดย นางอัญชุลี สิมะเสถียร ประธานมูลนิธิ ฯ ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกันจัดการแสดงละครเสภาเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน ตอนพลายชุมพล” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา โดยจะจัดแสดงในวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการจัดการแสดงเพื่อเทิดพระเกียรติต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปี 2566 เป็นการแสดงละครเรื่อง “มโนราห์” ปี 2567 เป็นละครนอกเรื่อง “สังข์ทอง ตอนนางมณฑาลงกระท่อม”
มาปีนี้ จัดแสดงละครเสภาเรื่อง “ขุนช้าง ขุนแผน ตอน พลายชุมพล” ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 องก์ คือ ” ขุนแผนได้แก้วกิริยา“ และองก์ที่ 2 ตอน ” ศึกโกลา สองพี่น้อง“ คือพระไวยกับพลายชุมพล โดยมี ดร.วันทนีย์ ม่วงบุญผู้ชำนาญการศิลปการแสดง กรมศิลปากร เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารำ และควบคุมและกำกับการแสดง ร่วมด้วย นางสาวตวงฤดี ถาพรพาสี และนางสาวธนันดา มณีฉาย นาฏศิลปินอาวุโส กรมศิลปากรเป็นผู้ช่วยกำกับการแสดง
ก่อนการแสดงละครเสภา ขุนข้าง ขุนแผน มีการแสดงหน้าม่าน ชุด ชุมนุมเผ่าไทย รำถวายอาลัย ชุด ”24 ตุลา มหาวิปโยค“ เพื่อถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และการแสดงรำถวายพระพร เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี แต่งเนื้อร้องและประดิษฐ์ท่ารำโดย ดร.วันทนีย์ ม่วงบุญ ต่อด้วยละครเสภาเรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน ซึ่งจะเริ่มด้วยการขับเสภาโดยนายสมชาย ทับพร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรี - ขับร้องปีพุทธศักราช 2565 ต่อด้วยละครภาคแรก ตอน ขุนแผนได้แก้วกิริยา อันเนื้อเริ่องโดยสังเขปมีว่า ขุนแผนโกรธแค้นที่ขุนข้างลักพานางวันทองไปอยู่กับตนจึงหาของวิเศษ 3 อย่างได้แก่ ดาบฟ้าฟื้น กุมารทอง และม้าสีหมอก แล้วเดินทางไปยังบ้านขุนช้าง หวังจะพานางวันทองหนี เมื่อมาถึงเรือนชุนช้าง ขุนแผนได้ชมพันธุ์ไม้นานาที่ขุนช้างปลูกไว้ และได้พบนางแก้วกิริยา ทั้งสองเกิดมีปฏิพัทธ์ต่อกัน จึงเป็นที่มาของการแสดงอีก 2 ชุดในองก์แรกนี้ คือระบำม้า และระบำดอกไม้ และเพื่อให้ได้บรรยากาศ จึงได้ นำเพลง ” รักไม่รู้ดับ“ จากคณะนักร้องประสานเสียงอาวุโสไทย และวงประสานเสียงหญิง “ทับทิมสยาม “ มาขับร้องในครั้งนี้ นำโดย นางโสภาวรรณ มงคลธรรมกุล นายกสมาคมนักร้องประสานเสียงอาวุโสไทย โดยมีนายธนาวุฒิ ศรีวัฒนะ เป็นผู้อำนวยเพลง
การแสดงละครเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนองก์ที่ 2 ตอน ศึกโกลา สองพี่น้อง เริ่มจากการขับเสภา เพื่อให้ดำเนินเรื่องสอดคล้องกับองก์ที่ 1 หลังจากขุนแผนและแก้วกิริยา ให้กำเนิดพลายชุมพลแล้ว ได้ส่งพลายชุมพลให้ไปอยู่กับย่า ร่วมกับพระไวย ซึ่งเป็นลูกชายของนางวันทองกับขุนแผน พระไวยได้แต่งงานกับนางศรีมาลา และนางสร้อยฟ้า และถูกนางสร้อยฟ้า ทำเสน่ห์ จนเกลียดขังและเฆี่ยนตีศรีมาลา เมื่อขุนแผนและพลายชุมพลว่ากล่าวตักเตือน ทำให้พระไวยไม่พอใจ ถึงกับลำเลิกบุญคุณว่าตนเป็นผู้ขอพระพันวษาอภัยโทษให้ขุนแผน ออกจากคุก และยังเข้าใจผิดว่าพลายชุมพลเป็นชู้กับศรีมาลา ทำให้ขุนแผนและพลายชุมพลโกรธเคือง จึงร่วมกันทำอุบายโดยพลายชุมพลปลอมตัวเป็นมอญใหม่ ยกทัพมาทำศึกกับพระไวยพี่ชาย อันเป็นที่มาของ ศึกโกลา สองพี่น้อง และเพื่อให้ได้บรรยากาศ จึงได้นำเพลง ”ใครหนอ“ จากคณะนักร้องประสานเสียงอาวุโสไทย และวงประสานเสียงหญิงทับทิมสยาม มาขับร้องในตอนสุดท้าย
ในการนี้ทาง มูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาฯ ได้จัดงานแถลงข่าว และให้สื่อมวลชนเก็บภาพการซ้อมรำในแต่ละชุด เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดการแสดงดังกล่าวด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี