หากพูดถึงบทเพลงที่ยังครองใจผู้ฟังทุกยุคทุกสมัยแล้วละก็คงหนีไม่พ้น....เพลงลูกกรุงที่ยังคงขับกล่อมทุกคน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน ด้วยบทเพลงอันทรงคุณค่าทั้งความงามทางด้านภาษาที่แฝงไว้ด้วยเนื้อหาที่สื่อถึงวัฒนธรรม และข้อคิดต่างๆ ทำให้เพลงที่ร้องออกมามีความไพเราะ สื่ออารมณ์ผู้ร้องได้เป็นอย่างดี....บวกกับน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินทุกๆท่านในวงการเพลงลูกกรุง เลยยิ่งทำให้เพลงที่โด่งดังในอดีตยังคงเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้....จะสังเกตุได้ว่านักร้องรุ่นใหม่ได้นำเอาเพลงเหล่านี้มาขับร้องใหม่ และปรับให้เข้ากับยุคสมัย แล้วก็โด่งดัง เป็นที่รู้จักจนแฟนๆร้องตามกันได้หมด....แต่หลายๆคนคงหลงลืมไปว่าแท้ที่จริงแล้วต้นฉบับเดิมเป็นอย่างไร วันนี้ทีมข่าว “บันเทิงแนวหน้า” จะทุกคนไปทำความรู้จักกับศิลปินอันทรงคุณค่าในวงการเพลงลูกกรุง โดยที่ทุกท่านกำลังจะมีผลงานชิ้นใหญ่ซึ่งเป็นการรวมตัวของ 11 ศิลปินระดับตำนานมาไว้บนเวทีเดียวกัน กับงานคอนเสิร์ต “กล่อมกรุง” ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 และ วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคมนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน และในวันนี้เราได้รับเกียรติจาก 3 ตัวแทนศิลปิน คือ คุณจิตติมา เจือใจ , คุณรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส และคุณศรีไศล สุชาตวุฒิ ที่จะมานั่งย้อนวันวาน และร่วมพูดถึงเรื่องราวของคอนเสิร์ตครั้งนี้
เริ่มเข้ามาในวงการเพลง
คุณจิตติมา : พี่บังเอิญพบนักแต่งเพลงท่านนึงแล้วท่านให้ร้องเพลงให้ฟัง ตอนนั้นพี่ยังไม่ได้เป็นนักร้องเลย พอเรียนจบก็ทำสมุหบัญชีเลย แล้วนักแต่งเพลงท่านนั้นก็บอกว่ามีเพลงอยากให้ลองไปอัดดู สมัยนั้นจะเป็นการอัดลงแผ่นเสียงยังไม่มีเทป หรือซีดี ชุดแรกคือชุด “ถ้าหัวใจฉันมีปีก” พอออกมาชุดแรกเพลงก็ดังเลย หมุนไปทุกหน้าปัดก็จะเจอแต่เพลงนี้ ซึ่งจริงๆแล้วเราต้องไปตามแจกตามคลื่นวิทยุเพื่อให้เขาช่วยโปรดมทแต่อันนี้ไม่ต้องไปตามแจกเลย เพราะเขาตามหาแผ่นกันเองเลย เนื่องจากผู้ชมทางบ้านขอเยอะมาก คือเรียกว่าดังแบบไม่ทันคาดคิด
ดังชั่วข้ามคืน
คุณจิตติมา : ต้องขอเล่าย้อนกลับไปถึง คุณทวีพงศ์ มณีนิล นักแต่งเพลงในช่วงนั้น ซึ่งท่านแต่งเพลงให้นักร้องชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น พี่สวลี ผกาพันธุ์ , พี่รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส และคุณธานินทร์ อินทรเทพ ซึ่งรุ่นพี่ทั้งสามสี่ท่านเนี้ยเป็นนักร้องดังอยู่แล้ว แต่ตัวพี่เนี้ยเป้นนักร้องดนเนมไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ที่ออกอัลบั้มถือเป็นการทดลอง พอชุดหัวใจมีปีกดังท่านก็แต่งอีกชุดนึงคือ “หลักไม้เลื้อย” ซึ่งชุดนี้ผลก็ออกมาแบบเดิมคือดังระดับเดียวกัน มันเลยทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปจากสมมุติว่าเราตื่นเช้าเพื่อไปทำงานออฟฟิส ตอนเย็นก็กลับบ้าน แต่มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วคือเวลาเราไปไหนก็จะมีสื่อรุมล้อม ซึ่งความพร้อมของพี่ตอนนั้นไม่มีเลย เพราะเหมือนเราเพิ่งก้าวเข้ามาในวงการนี้แบบสดๆร้อนๆ ความตื่นเต้นมันยังคงมีอยู่
เสียดายไหมกับอาชีพ สมุหบัญชี
คุณจิตติมา : พี่ทำควบกับนักร้องมา 2-3 ปี แต่ทีนี้มันไม่ได้เพราะงานบัญชีมันเป็นงานที่ละเอียด แล้วถ้าไปโชว์ตัวต่างจังหวัดมันก็เสียงานใช่ไหมคะ มันเป็นช่วงของการตัดสินใจ แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกทางนี้ แล้วตอนนั้นพี่ได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตตามต่างจังหวัดซึ่งถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว แต่ถ้าพี่ยังทำงานบัญชีอยู่พี่ก็จะไม่ได้เที่ยวพักผ่อนแบบนี้ ซึ่งพอเวลาผ่านไปพี่ก็ย้อนกลับมาทำบัญชีอีกนะคะ เป็นบริษัทของเพื่อน แต่พี่ก็ยังไม่ทิ้งอาชีพนักร้องร้องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
คิดยังไงที่สมัยนี้เพลงลูกกรุงหายไป
คุณจิตติมา : อาจเป็นเพราะขาดคนที่จะสืบสานทั้งๆที่ตอนนั้นเพลงลูกกรุงเป็นที่นิยมมาก แต่เหมือนนักแต่งเพลงหายไปๆ ก็จะมีแต่เพลงเดิมๆที่ร้องกัน แล้วด้วยรูปแบบของธุรกิจที่เข้ามาพร้อมๆกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา เช่น ตู้คาราโอเกะ ทำให้ผู้ฟังมีอิสระที่จะร้องเพลงได้ตามใจชอบ ไม่ต้องไปโลลิต้า (ผับสมัยก่อน) ที่เขาจะโปรโมทไว้เลยว่าวันนี้ถ้าไปแล้วจะพบกับนักร้องท่านไหน เรียกว่ามันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยมากกว่า
คุณรุ่งฤดี : ก็น่าเสียดาย แต่เดี๋ยวนี้ก็มีการเอาเพลงของพวกเราไปให้นักร้องรุ่นใหม่ร้อง ซึ่งจริงๆแล้วสืบสานแบบนี้ก็นับว่าดี อย่างน้อยก็ยังมีรุ่นหลังๆมารับช่วงต่อ
ความพิเศษของคอนเสิร์ตครั้งนี้
คุณรุ่งฤดี : เรามีเพลงต้นฉบับมาร้องให้ทุกคนฟังค่ะ แล้วมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมาร่วมงานนี้อย่างเต็มที่
คุณศรีไศล : คำว่าพิเศษมันไม่มีหรอกค่ะ เพราะเวลาขึ้นคอนเสิร์ตทุกครั้งพี่เต็มที่ 100 % ตลอด มีความพร้อมทุกครั้ง แต่ก็ต้องอยู่ที่ผู้จัดที่จะประกอบทุกอย่างออกมาให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งพี่คิดว่าทุกอย่างต้องออกมาดีอย่างแน่นอน
อยากฝากอะไรถึงนักร้องรุ่นใหม่ๆ
คุณจิตติมา : อยากฝากเรื่อง ให้อนุรักษ์เพลงไทย ค่ะ เพราะว่าเพลงไทยสละสลวยทั้งเนื้อร้อง และทำนองมีการเล่นคำ และสัมผัสต่างๆ ทำให้บทเพลงเป็นมากกว่าเพลง แต่เป็นเรื่องราว 1 เรื่องที่สื่อถึงผู้ฟังก็เลยอยากให้น้องๆช่วยสืบสานกันต่อไป อย่าให้เพลงไทยต้องหายไปกับกาลเวลาเลยค่ะ
ตอนเอไทม์ติดต่อมาให้ร่วมงาน “กล่อมกรุง” รู้สึกยังไง
คุณจิตติมา : พอทางคุณฉอด ติดต่อมารู้สึกดีใจมากที่ท่านเห็นคุณค่าของพวกเรา
คุณรุ่งฤดี : รู้สึกดีใจมาก เพราะคุณฉอดมีประสิทธิภาพเวลาจัดงานอะไรก็ออกมาดีตลอด แล้วทีมงานโทรเข้ามาติดต่อทุกระยะ งานแบบนี้ไม่มีใครเขาทำกันที่จะรวมนักร้องลูกกรุงถึง 11 คน อย่างมากก็แต่ 6 คนเท่านั้น เรียกว่าดีใจมากๆ อยากให้จัดบ่อยๆคนจะได้ไม่ลืมพวกเราซึ่งเป็นนักร้องต้นฉบับค่ะ
คุณศรีไศล : ตอนติดต่อมาพี่อยู่ต่างประเทศ พอรู้ว่าใครจัดพี่ก็รับปากทันที เพราะต้องยอมรับว่าพี่ไม่ใช่นักร้องรุ่นใหม่ เวลาจะรับงานอะไรสำหรับตัวเองพี่ก็จะเลือกหน่อย
คาดหวังอะไรกับงานครั้งนี้
คุณรุ่งฤดี : คาดหวังว่าจะมีคนมาร่วมงานจนเต็มค่ะ แล้วผู้ชมทุกๆคนจะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน นักร้องทุกท่านเตรียมความพร้อมมาอย่างดี ลูกๆที่พาคุณพ่อคุณแม่มาดูจะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ฝากถึงคอนเสิร์ต “กล่อมกรุง”
คุณรุ่งฤดี : อยากให้แฟนเพลงรีบจับจองบัตรกันเยอะๆ หาไม่ได้อีกแล้วกับคอนเสิร์ตที่ร่วมนักร้องทั้ง 11 คนไว้บนเวทีเดียวกัน
คุณศรีไศล : คอนเสิร์ตครั้งนี้น่าจะไปดูกัน เพราะนักร้องรุ่นป้าๆน้าๆ เป็นเจ้าของต้นฉบับเพลงที่ดังกันทุกวันนี้ ทำให้รุ่นเด็กๆรู้จักเพลงนี้ แล้วอีกอย่างนึงทั้ง 11 คนปกติจะไม่ว่างพร้อมกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกๆคนว่างพร้อมกันหมด ซึ่งเป็นเรื่องแปลก และยิ่งใหญ่มากๆ
คุณจิตติมา : คอนเสิร์ตครั้งนี้ถ้าใครไม่ได้ไปดูจะต้องเสียดาย แล้วเวลาเอไทม์ จัดงานเนี้ยก็จะจัดเต็มทั้งแสงเสียง คุณภาพ เรียกว่าหาดูที่ไหนไม่ได้ ถึงแม้ว่างานอื่นพวกเราจะไปร้องแจมบ้าง แต่องค์ประกอบไม่เหมือนกัน แล้วไม่มีเวลาไหนที่จะได้พบกับนักร้องลูกกรุงทั้ง 11 ท่าน มีที่นี่ที่เดียวค่ะ ในงานคอนเสิร์ต “กล่อมกรุง”
พรหมประภา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี