กู้ภัยคาดบิน‘แอร์เอเชีย’

ดิ่งทะเลลึก

อินโดไม่มีเครื่องมือค้นหา

ประสานนานาชาติช่วยเหลือ

พบวัตถุลอยอยู่ใกล้เกาะนันกา

10ชีวิตเฉียดตายเหตุตกเครื่อง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ภารกิจค้นหาเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ของสายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย เที่ยวบิน QZ8501 ที่หายสาบสูญเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อเวลา 06.00 น.วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น หลังเครื่องบินลำดังกล่าวขาดการติดต่อหอบังคับการบินหายไปจากจอเรดาร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 ชีวิตบนเครื่องที่ยังไม่รูชะตากรรมถือเป็นอุบัติภัยทางอากาศร้ายแรงที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่3ในปีนี้ ถัดจากโศกนาฏกรรมเครื่องบิน MH370 และ MH17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์

นานาชาติส่งทีมค้นหาแอร์เอเชีย

นายบัมบัง โซลิสตโย หัวหน้าทีมค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดแถลงข่าวถึงแผนการติดตามช่วยเหลือผู้โดยสารแอร์เอเชียอินโดนีเซียว่า ทางการอินโดนีเซียส่งเรือ 12 ลำ เฮลิคอปเตอร์อีก 3 ลำ และเครื่องบินทหารอีก 5 ลำสำหรับภารกิจค้นหาครั้งนี้ ขณะที่ทางการมาเลเซียส่งเครื่องบินC-130 และเรืออีก 3 ลำร่วมภารกิจค้นหา เช่นเดียวกับสิงคโปร์ และออสเตรเลียส่งเรือและเครื่องบินเข้าร่วมด้วย รวมถึงสหรัฐ อังกฤษและเกาหลีใต้ พร้อมส่งทีมช่วยเหลือเช่นกัน

ปูพรมขยายพื้นที่ค้น7จุดทะเลชวา

นายบัมบังกล่าวต่อว่า ปฎิบัติการค้นหาวันนี้จะขยายพื้นที่ออกเป็น 7 จุดโดยเป็น 4 จุดเดิมที่ค้นหาไปแล้ว ส่วนอีก 3 จุดใหม่อยู่ค่อนไปทางเหนือ บริเวณน่านน้ำหมู่เกาะบังกา เบลิตุงและเกาะลัง เตงะห์ในทะเลชวา เป็นระยะ 34 ไมล์ทะเล จากรอบเกาะเบลิตุง จุดที่ติดต่อกับเครื่องบินได้ครั้งสุดท้าย ทั้งนี้เกาะบังกา เบลิตุง เป็นจุดที่มีชาวประมงได้ยินเสียงวัตถุตกกระแทกพื้น

คาดQZ8501ตกจมดิ่งใต้ทะเล

อย่างไรก็ตาม จากการประมวลผลข้อมูลการติดตามเครื่องบินลำดังกล่าวที่หายไปกว่า 10 ชั่วโมง รวมถึงปัจจัยแวดล้อม ทำให้ทีมค้นหามีข้อสรุปเบื้องต้นที่เป็นไปได้ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวอาจประสบเหตุตกจมลงใต้ทะเลในจุดลึกที่สุด แต่อินโดนีเซียไม่มีเทคโนโลยีและเครื่องมือค้นหาใต้น้ำ เช่น ยานดำน้ำค้นหาใต้ทะเล จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

ด้านนายทาลัง กุรเนียดี เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียกล่าวเสริมว่า ภารกิจแรกคือ ค้นหาเครื่องบินให้พบก่อน โดยประสานงานกับทุกหน่วยงานและทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเครื่องบิน บริษัทผู้ผลิตเครื่องจากฝรั่งเศส ทีมปฏิบัติการของแอร์เอเชีย และมาเลเซีย

เผยอากาศเลวร้ายก่อนหายไป

สำหรับสาเหตุการหายไปของเครื่องแอร์บัส เอ320-200 คาดว่าเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ เนื่องจากนักบินแจ้งถึงปัญหาสภาพอากาศ และขอบินขึ้นไปที่ระดับ 38,000 ฟุต หรือประมาณ 11,000 เมตร เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มเมฆหนา แต่ช่วงเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยังไม่อนุมัติเนื่องจากมีเครื่องอีกลำอยู่ในเส้นทาง จากนั้นเครื่อง QZ8501 ก็ขาดการติดต่อไป

แอร์เอเชียพร้อมรับผิดชอบ

วันเดียวกัน สายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย ออกแถลงการณ์ ฉบับ 5 กรณีการสูญหายของเที่ยวบิน QZ8501 ว่า นานาชาติจากอินโดนีเซีย สิงคโปร์และมาเลเซีย ร่วมระดมกำลังเพื่อค้นหาเที่ยวบินดังกล่าวอย่างสุดความสามารถ พร้อมยืนยันว่าจะดูแลครอบครัวและญาติของผู้โดยสารและลูกเรืออย่างใกล้ชิด และยังจัดเตรียมเจ้าหน้าที่สายการบินดูแลครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์เช่นกัน

นอกจากนี้ยังจัดเตรียมหมายเลขฉุกเฉินสำหรับครอบครัว และญาติของผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อมูล ที่หมายเลข +6221-29270811 สำหรับในสุราบายาติดต่อได้ที่ 031-8690855 หรือ 031-2986790

เผยเครื่องบินใช้งานมาแล้ว6 ปี

ด้านนายโทนี เฟอร์นันเดส ผู้บริหารแอร์เอเชียกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุด และไม่อยากเชื่อว่าเกิดเหตุนี้ขึ้น เป็นห่วงที่สุดคือ ความรู้สึกของญาติพี่น้องผู้โดยสาร และลูกเรือ อีกทั้ง ยังขอให้พนักงานมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ทำงานอย่างดีที่สุดต่อไป

สำหรับสายการบินแอร์เอเชีย ไม่เคยมีปัญหาเครื่องบินประสบอุบัติเหตุนับตั้งแต่เปิดทำการบินมากว่า 13 ปี อีกทั้ง เครื่องบินลำที่หายไป ใช้งานมา 6 ปี ซึ่งถือว่ายังใหม่ และเพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงครั้งล่าสุดเมื่อ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เตรียมปลดรหัสเที่ยวบินQZ5801

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายซูนุ วิยาโมโก้ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท แอร์เอเชีย อินโดนีเซีย พร้อมคณะผู้บริหารของบริษัท ผู้ว่าราชการจังหวัดชวาตะวันออก เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานอินโดนีเซียเดินทางมาพบครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือที่รอฟังข่าวญาติของตนที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว บริเวณศูนย์ประสานงาน ซึ่งจัดตั้งขึ้นบริเวณสนามบินจูกันดา เมืองสุราบายา โดยยืนยันจะให้ความช่วยเหลือและดูแลครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

นายซานูแถลงด้วยว่า บริษัทเตรียมปลดระวางรหัสเที่ยวบิน QZ8501 ที่ใช้สำหรับเส้นทางจากเมืองสุราบายาบนเกาะชวาของอินโดนีเซียสู่สิงคโปร์ หลังเที่ยวบินดังกล่าวขาดการติดต่อ แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต้องรอให้สำนักงานใหญ่ในมาเลเซียพิจารณาอนุมัติ

ทีมค้นหาพบวัตถุต้องสงสัย

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล เอพี-3 โอไรออน ของออสเตรเลียที่ร่วมปฎิบัติการค้นหา พบวัตถุต้องสงสัยลอยอยู่ใกล้เกาะนันกา ห่างจากเมืองปังกาลัน บัน บริเวณตอนกลางของเกาะกาลิมันตันไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร หรือห่างจากจุดที่เรดาร์ตรวจพบสัญญาณจากเครื่องบินเป็นครั้งสุดท้ายประมาณ 1,120 กิโลเมตร ซึ่งต้องรอการตรวจสอบก่อนจะยืนยันว่าใช้ชิ้นส่วนเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ที่ขาดการติดต่อไปหรือไม่

ด้านรองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา เดินทางถึงสนามบินจูอันดา เมืองสุราบายา เพื่อพบญาติผู้สูญหาย พร้อมติดตามการค้นหา และแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยยืนยันว่า ทีมค้นหาพบวัตถุสีขาวในทะเลทางตอนเหนือของเกาะบังกา เบอลิตุง แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าใช่ QZ8501หรือไม่

10ชีวิตรอดหวุดหวิดเพราะตกเครื่อง

อย่างไรก็ตามจากโศกนาฎกรรมดังกล่าว มีครอบครัวชาวอินโดนีเซียรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ เนื่องจากพลาดเที่ยวบินดังกล่าว เนื่องจากสายการบินเลื่อนกำหนดเดินทางเร็วขึ้น จึงตกเที่ยวบินโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยนางคริสเตียนาวาตี วัย 36 ปีเผยว่า เธอสมาชิกในครอบครัวอีก 9 คน

ตั้งใจไปฉลองปีใหม่ที่สิงคโปร์ จึงจองตั๋วแอร์เอเชียออกจากเมืองสุราบายาเวลา 07.30 น.วันอาทิตย์ แต่สายการบินเลื่อนเที่ยวบินเร็วขึ้น 2 ชั่วโมง โดยได้แจ้งทั้งทางอีเมล์และโทรศัพท์ตั้งแต่วันที่ 15 และ 16 ธันวาคม แต่คนในครอบครัวไม่มีใครทราบ เมื่อเดินทางถึงสนามบิน ปรากฎว่าเครื่องบินออกไปแล้ว แต่เมื่อทราบว่าเที่ยวบินที่ออกไปนั้นหาย ก็รีบยกเลิกตั๋วทันที

หุ้นแอร์เอเชียร่วงกว่า10จุด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียว่า หุ้นของสายการบินแอร์เอเชียเปิดตลาดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กัวลาลัมเปอร์ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลงร้อยละ 11.5 ก่อนปรับลดลงอีกอย่างรวดเร็วเป็นร้อยละ 12.9 มาอยู่ที่ 2.56 ริงกิต หรือประมาณ 24.52 บาท ถือว่าอยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ทั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อเป็นผลจากเที่ยวบิน QZ8501 ของแอร์เอเชีย อินโดนีเซียหายสาบสูญระหว่างเดินทางจากอินโดนีเซียมุ่งหน้าสิงคโปร์งคโปร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา