เบลเยี่ยมปิดเมืองล่า
ไอเอสตัวเอ้
ใส่เสื้อซุกซ่อนระเบิด
พร้อมบึ้มถล่มซ้ำรอยปารีส
ชาวบ้านผวา-บรัสเซลส์ร้าง
เล็งเคาะประตูบ้านตรวจยิบ
ฝรั่งเศสทิ้งบอมบ์ต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงเบลเยียม หลังทางการยกระดับเตือนภัยการก่อการร้ายในกรุงบรัสเซลส์ เป็นระดับ 4 สูงสุด ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกระจายกำลังเดินตรวจตราความปลอดภัยบนท้องถนนในกรุงบรัสเซลส์อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะย่านที่มีผู้คนรวมตัวอยู่เป็นจำนวนมาก
ขณะที่บรรยากาศบริเวณใจกลางกรุงบรัสเซลส์ แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง บรรดาธุรกิจ ร้านค้า ภัตตาคาร ร้านอาหาร ผับ บาร์ปิดให้บริการเร็วกว่ากำหนด ซึ่งเป็นช่วงเวลา 3 สัปดาห์ ก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความสุขของช่วงปลายปี รวมถึงระบบการเดินรถไฟฟ้าใต้ดินทั่วเมืองหลวงหยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากประชาชนต่างรู้สึกหวาดกลัวภัยก่อการร้ายว่าเกิดเหตุโจมตีเหมือนกับที่ปารีส จึงไม่ออกมานอกบ้านในยามค่ำคืน หากไม่มีเหตุจำเป็น
ปิดเมืองล่า“อับเดซาลาม”
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารยังคงไล่ล่าค้นหานายซาลาห์ อับเดซาลาม ชายชาวเบลเยียม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่ร่วมลงมือก่อเหตุโจมตีปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ได้หลบหนีกลับมายังกรุงบรัสเซลส์ หลังก่อเหตุสะเทือนขวัญ เนื่องจากนายโมฮัมเหม็ด อับเดสลาม พี่ชายของเขาเพิ่งเปิดเผยว่า น้องชายอาจอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
ผวาผูกบึ้มติดตัวพร้อมพลีชีพ
ทั้งนี้ ความหวาดกลัวภัยก่อการร้ายของชาวเบลเยียมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหนึ่งในชายชาวเบลเยียมที่ถูกจับกุมหลังจากขับรถยนต์ไปรับนายอับเดซาลาม หลังก่อเหตุโจมตีปารีสกลับมากรุงบรัสเซลส์ ได้เปิดเผยผ่านทนายความว่า นายอับเดซาลามสวมเสื้อแจ็กเก็ตตัวใหญ่ ซึ่งเขาอาจผูกระเบิดติดไว้กับตัว และพร้อมจะลงมือก่อเหตุระเบิดพลีชีพได้ทุกเมื่อ
นอกจากนี้ มีรายงานจากสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ว่า เพื่อนของนายอับเดซาลามได้พูดคุยกับนายอับเดซาลามผ่านโปรแกรมสไกป์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันทางเสียงพูดและภาพจริงผ่านอินเทอร์เน็ตว่า นายอับเดซาลามกำลังหลบซ่อนอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ และพยายามหาทางหลบหนีไปยังซีเรีย จากการเปิดเผยของเพื่อนนายอับเดซาลามดังกล่าว เป็นเหตุให้ทางการเบลเยียมยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายในกรุงบรัสเซลส์ ขึ้นเป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
ลุยเคาะประตูตรวจบ้านทุกหลัง
ด้านนายยัน ยัมบอง รมว.มหาดไทยเบลเยียม มีข้อเสนอแนะว่าต้องการให้ตรวจสอบบ้านทุกหลัง ในเขตโมเลนเบค-แซงต์-ฌอง ในกรุงบรัสเซลส์ เนื่องจากเห็นว่า เป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับแก้ปัญหาการปลุกระดมมุสลิมหัวรุนแรงในเขตนี้ ของกรุงบรัสเซลส์
“เป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ที่เราไม่รู้ว่ามีใครอยู่บ้างในพื้นที่แห่งนี้ เพราะขณะนี้มีอพาร์ตเมนต์บางแห่งที่มีชื่อในทะเบียนบ้านเพียง 2 คน แต่ในความเป็นจริง กลับมีคนพำนักอยู่กันเป็นสิบคน และนั่นคือเหตุผลที่ต้องการตรวจสอบบ้านทีละหลัง โดยเจ้าหน้าที่อำเภอต้องไปเคาะประตูบ้านทีละหลังเพื่อตรวจสอบว่ามีใครอยู่บ้างในความเป็นจริง เป็นการตรวจสอบการพำนักอาศัยตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบเมื่อมีคนมาแจ้งชื่อเข้าทะเบียนบ้านว่า มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่”นายยัมบองกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลเบลเยียมแต่งตั้งให้นายยัน ยัมบอง รมว.มหาดไทย เป็นผู้ประสานงานแก้ไขปัญหาของเขตโมเลนเบค-แซงต์-ฌอง เพื่อให้สามารถขยายผลที่ชัดเจนของความสัมพันธ์ระหว่างเขตโมเลนเบค-แซงต์-ฌอง กับผู้ก่อการร้ายที่เดินทางไปก่อเหตุโจมตีปารีส เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 โดย รัฐมนตรีมหาดไทยเห็นว่า ปัญหาที่ทำให้เขตโมเลนเบค แซงต์-ฌองกลายเป็นถิ่นที่มีมุสลิมหัวรุนแรงว่า เป็นเพราะ มีคนหนุ่มสาวมุสลิมหัวรุนแรงจำนวนมากที่เดินทางไปซีเรียกลับมาอยู่ในพื้นที่ โดยมาอยู่ที่เขตโมเลนเบค-แซงต์-ฌอง ถึง 85 คนเลยทีเดียว
ค้นบ้านผู้ต้องสงสัยเจออาวุธอื้อ
ขณะที่สำนักงานอัยการของเบลเยียมเปิดเผยว่า ทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนพบอาวุธบางส่วน ซุกซ่อนอยู่ในบ้านของผู้ที่ถูกตั้งข้อหา ที่เกี่ยวพันกับการก่อการร้ายที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า อาวุธที่พบเป็นระเบิด หรือเข็มขัดที่ใช้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย โดยนายแยน แยมโบน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเบลเยียมกล่าวว่า ยังมีการสอบสวนอีกมาก ที่ต้องดำเนินการต่อไป และรัฐบาลไม่ต้องการให้กระบวนการเกิดความผิดพลาด จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
สหรัฐเตือนพลเมืองในเบลเยียม
สถานทูตสหรัฐฯประจำเบลเยียมแจ้งเตือนพลเมืองอเมริกัน ที่อยู่ในเบลเยียมให้อยู่แต่ภายในสถานที่พัก ขณะที่กองบัญชาการทหารสหรัฐประจำยุโรป เข้มงวดในการออกวีซ่าสำหรับเดินทางเข้ากรุงบรัสเซลส์ เป็นเวลา 72 ชั่วโมง สำหรับบุคลากรทางทหารและผู้รับจ้าง อย่างไรก็ตาม นายดิดิแยร์ เรนเดอร์ส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียม ยืนยันว่า กรุงบรัสเซลส์ยังคงปลอดภัย แต่ขอให้ผู้ที่เดินทางมายังกรุงบรัสเซลส์เคารพและปฏิบัติตามทุกมาตรการ ที่เกี่ยวกับความมั่นคง และความปลอดภัย
สถานทูตย้ำเตือนคนไทยระวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมออกประกาศถึงคนไทยในประเทศเบลเยียมเกี่ยวกับการยกระดับภาวะภัยคุกคามทั่วประเทศของรัฐบาลเบลเยียมว่า ทางการเบลเยียมประกาศยกระดับภาวะภัยคุกคามในกรุงบรัสเซลส์จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายถึงภาวะภัยคุกคามต่อบุคคล กลุ่มบุคคล และกิจกรรมต่างๆที่อาจเป็นเป้าหมาย ซึ่งมีระดับความเป็นไปได้สูงสุดและสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีทุกเมื่อ และประกาศให้คำแนะนำต่อประชาชน ให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่นในกรุงบรัสเซลส์ เช่น คอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬาสำคัญๆ สถานีรถไฟ สนามบิน ขนส่งมวลชน ศูนย์การค้า เป็นต้น ให้ความร่วมมือและเคารพมาตรการการตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย อย่าเผยแพร่ข่าวลือต่างๆโดยขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานของทางการและจากหน่วยงานตำรวจ สำหรับคนไทยในจังหวัดอื่นของเบลเยียม ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางสัญจรเข้าในพื้นที่สาธารณะ
ฝรั่งเศสระดมโจมตีไอเอสต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณในกรุงปารีสของฝรั่งเศส เริ่มกลับมาสู่สภาพปกติอย่างช้า หลังเหตุโจมตีหลายระลอกเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ส่งผลให้ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส เรียกร้องขอความร่วมมือจากนานาชาติในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย โดยมีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียในสัปดาห์นี้
นายปิแอร์ เดอ วิลลิเยส์ เสนาธิการทหารฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เลอ ชูคนัล ดู ดิมงช์ฉบับวันอาทิตย์นี้ว่า การเอาชนะกลุ่มไอเอสอาจต้องใช้เวลา ในขณะที่ฝรั่งเศสระดมโจมตีในซีเรียหนักหน่วงขึ้นภายหลังเหตุโจมตีกรุงปารีสที่ผ่านมา
เยอรมันขอบคุณช่วยตัวประกัน
สำหรับความคืบหน้าเหตุบุกโจมตีโรงแรมในประเทศมาลีนั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายแฟรงค์-วอลเตอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี กล่าวขอบคุณประเทศมาลี และกองกำลังด้านความมั่นคงของฝรั่งเศส ที่ช่วยเหลือตัวประกันชาวเยอรมัน 4 คน จากเหตุบุกโจมตีโรงแรมเรดิสัน บลู ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงบามาโกของมาลี เมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และไม่มีชาวเยอรมันเสียชีวิตจากเหตุร้ายครั้งนี้
พร้อมหนุนภารกิจน้ำหอมในมาลี
นายชไตน์ไมเออร์กล่าวว่า เหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นที่โรงแรมเรดิสัน บลู เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า การก่อการร้ายจากกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้ง สะท้อนว่า สถานการณ์ในมาลียังคงไม่มีเสถียรภาพ จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากประชาคมโลก ซึ่งเยอรมนีจะขยายการสนับสนุนฝรั่งเศสในการปฏิบัติภารกิจในมาลีมากขึ้น
ทั้งนี้ มาลียังคงอยู่ในภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 10 วัน และการไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต จากเหตุบุกโจมตีและจับตัวประกันที่โรงแรมเรดิสัน บลู เป็นเวลา 3 วัน ขณะที่ประธานาธิบดีอิบราฮิม บูบาการ์ ไคตา ของมาลี เดินทางไปยังโรงแรมที่เกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ พร้อมทั้งกล่าวว่า การก่อการร้ายจะไม่มีวันชนะ และมาลีจะไม่ปิดประเทศ อันเนื่องมาจากเหตุก่อการร้าย ขณะเดียวกัน ทางการมาลีเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี