1 มิ.ย.59 ผลการศึกษาพบว่า มีผู้คนทั่วโลกตกเป็นแรงงานทาสยุคใหม่มากกว่า 45 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียแปซิฟิก ผลการศึกษาของมูลนิธิวอล์กฟรีฟาวเดชัน ในออสเตรเลีย ซึ่งจัดทำดัชนีสถานการณ์แรงงานทาสทั่วโลกประจำปีนี้เผยว่ามีผู้ใหญ่และเด็กกว่า 45 ล้านคนทั่วโลกยังคงตกเป็นเหยื่อการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ถึงร้อยละ 28 โดย 2 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้อยู่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

จากการสำรวจพบว่าอินเดียมีจำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อการใช้แรงงานทาสสูงสุดในโลก 18.35 ล้านคน ตามด้วยจีน ปากีสถาน บังกลาเทศ และอุซเบกิซสถาน ส่วนเกาหลีเหนือมีสัดส่วนทาสยุคใหม่ต่อจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีเหนือมีการตอบสนองเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานทาสต่ำสุด และยังคงเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่ได้กำหนดให้การใช้แรงงานทาสเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

คณะผู้จัดทำดัชนีสถานการณ์แรงงานทาสทั่วโลก ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ เช่น สหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งมีคะแนนการจัดการแก้ไขปัญหาแรงงานทาสที่ดีอยู่แล้วให้ดำเนินการกวดขันมากขึ้น โดยไม่สนับสนุนสินค้าที่ผลิตจากแรงงานทาสในต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ ดัชนีสถานการณ์แรงงานทาสทั่วโลก จัดทำโดยการสัมภาษณ์แหล่งข้อมูล 42,000 คน ใน 167 ประเทศ เพื่อประเมินถึงความรุนแรงของสถานการณ์แรงงานทาสและการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชาติต่าง ๆ การสำรวจครั้งนี้ได้นิยามถึงการบังคับใช้แรงงานทาสยุคใหม่ว่าหมายถึงสถานการณ์ที่บังคับให้บุคคลไม่สามารถผละจากการใช้แรงงานได้เนื่องจากการข่มขู่ หลอกลวง หรือการใช้ความรุนแรงต่าง ๆ เช่น กรณีแรงงานทาสในเรือประมงผู้ช่วยแม่บ้านที่ถูกกักขังทุบตีโดยไม่ได้รับค่าแรง หรือผู้ที่ถูกบังคับค้าประเวณี

ปัจจุบันมี 124 ประเทศ กำหนดให้การค้ามนุษย์เป็นความผิดอาญาตามพิธีสาร เพื่อป้องกันปราบปรามและลงโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะเด็กและสตรีของสหประชาชาติ และ 96 ประเทศ มีแผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อประสานงานการทำงานของหน่วยงานรัฐบาล