3 ส.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นโยบายเข้มปราบอาชญากรรมของผู้นำคนใหม่บวกกับระบบไต่สวนเชื่องช้าทำให้นักโทษล้นคุกฟิลิปปินส์ แม้จะเคยเห็นข่าวเรือนจำในฟิลิปปินส์จัดกิจกรรมสันทนาการให้กับนักโทษทั้งการวิ่งแข่ง การแข่งเต้นรำและกิจกรรมฟื้นฟูต่างๆ แต่ความจริงหลังฉากที่เป็นอยู่คือสภาพความเป็นอยู่ที่แย่และแออัดของเหล่านักโทษที่ทวีจำนวนมากขึ้นทุกวัน

โดยเฉพาะหลังการประกาศนโยบายปราบอาชญากรรมเข้มงวดของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต นอกเหนือจากกระบวนการยุติธรรมไต่สวนคดีที่ล่าช้า หลายคนต้องนอนคุกรอไต่สวนคดีเป็น 10 ปี อย่างเช่นกรณีนักโทษคนหนึ่งที่เรือนจำเขตเกซอน ซิตี้ ในกรุงมะนิลา ที่รอไต่สวนคดีมากว่า 14 ปี บอกว่าเรือนจำที่เขาอยู่ สร้างเมื่อ 60 ปีก่อนเพื่อขังนักโทษ 800 คน ตอนนี้มีนักโทษแออัดถึง 3,800 คน เขาและเพื่อนนักโทษต้องแย่งกันหาที่หลับนอนทั้งพื้นสนามบาสเก็ตบอลเปิดโล่ง ขั้นบันได ใต้เตียงและอื่นๆ เท่าที่จะหาได้ แม้ได้ที่แล้วยังต้องขดงอตัวไม่ต่างจากปลาซาร์ดีนอัดกระป๋อง การอยู่การกินถือว่าลำบากสุดๆ ถึงขั้นที่นักวิชาการชาวอเมริกันคนหนึ่งบอกว่าถ้าเป็นในสหรัฐคงเกิดจลาจลขึ้นทุกวัน

ด้านข้อมูลของสถาบันวิจัยนโยบายอาชญากรรมแห่งมหาวิทยาลัยกรุงลอนดอน พบว่าระบบเรือนจำฟิลิปปินส์มีความแออัดมากที่สุดอันดับ 3 ของโลก เรือนจำทั่วประเทศมีนักโทษอยู่เกินกว่าจำนวนที่รองรับได้ถึง 5 เท่า สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่มากขึ้นเมื่อตำรวจเร่งทำงานภายใต้นโยบายปราบอาชญากรรมของนายดูเตอร์เต ทำให้มีผู้ถูกจับคดียาเสพติดแล้วกว่า 4,300 คนนับแต่เขาขึ้นรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.แต่เขาพูดถึงแนวทางแก้ไขนักโทษล้นคุกน้อยมาก ด้านกระทรวงมหาดไทยแถลงมาตรการแก้ปัญหาเตรียมหาที่สร้างเรือนจำใหม่เพิ่มและให้ศาลเลือกไต่สวนตัดสินคดียาเสพติดก่อนเพื่อลดความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมและความแออัดของเรือนจำ