ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกาะสุลาเวสีเพิ่มขึ้นเป็น 832 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากหน่วยกู้ภัยยังประสบปัญหาในการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลซึ่งไม่สามารถติดต่อได้และต้องการความช่วยเหลือด่วน
ล่าสุดวันนี้ (30 ก.ย.61) รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลาของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 7.5 และสึนามิที่เกาะสุลาเวสีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 832 คน ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่าพันคน เนื่องจากรายงานผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากเมืองปาลูเพียงแห่งเดียว แต่ยังมีพื้นที่อื่นๆ ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่ยังเข้าถึงไม่ได้ หน่วยกู้ภัยยังประสบปัญหาในการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลซึ่งไม่สามารถติดต่อได้และต้องการความช่วยเหลือด่วน
นอกจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากแล้ว ยังมีรายงานว่าอีกหลายสิบคนยังคงติดอยู่ใต้ซากหักพังของโรงแรม 2 แห่ง และศูนย์การค้าอีกแห่งในเมืองปาลู ซึ่งเผชิญคลื่นสึนามิสูง 6 เมตร ซัดเข้ามาหลังจากแผ่นดินไหวขนาด 7.5 เมื่อวันศุกร์
เว็บไซต์ Detik.com รายงานว่า หญิงสาวคนหนึ่งได้รับความช่วยเหลือออกมาจากซากหักพังของโรงแรม เจ้าของโรงแรมคาดว่า มีผู้ติดอยู่ในอาคารถึง 60 คน ขณะที่มีประชาชนหลายร้อยคนชุมนุมกันที่ศูนย์การค้าเพื่อออกตามหาสมาชิกครอบครัวที่สูญหายไป ขณะที่มีภาพร่างผู้เสียชีวิตกระจายอยู่บนท้องถนน บางรายอยู่ในถุงใส่ศพ และบางรายมีแค่เพียงเศษผ้าปิดใบหน้าไว้เท่านั้น ภายหลังคลื่นยักษ์สึนามิสูง 6 เมตร ตามมาในช่วงที่มีผู้คนหลายร้อยคนมาร่วมเทศกาลรื่นเริงที่ชายหาดปาลู ทำให้กำแพงน้ำขนาดใหญ่กวาดกลืนผู้คนหายไปในชั่วพริบตา
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซีย เดินทางถึงเมืองปาลูเพื่อตรวจสอบความเสียหายจากแผ่นดินไหว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเร่งระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
ขณะที่ รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบความช่วยเหลือ 37.58 ล้านดอลลาร์ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแล้ว
อย่างไรก็ดี การส่งความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ยังไม่เพียงพอต่อภาวะขาดแคลนอย่างหนักทั้งน้ำดื่ม อาหาร และเชื้อเพลิง ทำให้ผู้ประสบภัยที่สิ้นหวังหลายร้อยคนจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ บุกปล้นสินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ตและสถานีบริการน้ำมันหลายแห่ง เพื่อหยิบฉวยสิ่งของใส่ไว้ในถุงพลาสติกและลัง ภายในเต็มไปด้วยขนมปังกรอบ อาหาร ผ้าอ้อม แก๊สกระป๋อง กระดาษชำระ และสินค้าอื่นๆ ออกมาจากร้านค้าเท่าที่สามารถกวาดของออกมาได้
ชายคนหนึ่งร้องตะโกนว่า ไม่ได้รับความช่วยเหลือ และพวกเขาจำเป็นต้องหาอาหารกินประทังชีวิต จึงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ขณะที่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมืองปาลูยังต้องนอนอยู่กลางแจ้ง เพราะเกรงว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก
ขณะเดียวกันสำนักข่าวอันตาราของทางการอินโดนีเซีย รายงานว่า นักโทษกว่าครึ่งของจำนวน 560 คน หลบหนีออกจากเรือนจำเมืองปาลู หลังจากกำแพงถล่มช่วงแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ ผู้คุมเรือนจำไม่สามารถตามจับผู้ต้องขังที่วิ่งหนีได้ทั้งหมด ขณะที่พวกเขาก็ตื่นตกใจและต้องรักษาชีวิตรอดไว้เช่นกัน อีกด้านหนึ่งมีรายงานนักโทษหลายร้อยคนแหกคุกจากเรือนจำในเขตดงกาลา
ด้าน นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าวว่า อินโดนีเซียยังไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือมา แต่เขาได้ติดต่อกับประธานาธิบดีวิโดโด ของอินโดนีเซีย เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อเสนอให้ความช่วยเหลือ และแสดงความเห็นใจเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกาะสุลาเวสี เมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขามั่นใจว่านายวิโดโด จะบริหารจัดการในเรื่องนี้ได้ และถ้าหากผู้นำอินโดนีเซียต้องการความช่วยเหลือ ทางออสเตรเลียก็พร้อมในทันที
ในอีกด้านหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์อินโดนีเซีย (บีเอ็มเคจี) ซึ่งออกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิหลังจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกาะสุลาเวสีเมื่อวันศุกร์ จากนั้นได้ยกเลิกเตือนภัยในอีก 34 นาทีถัดมา ตกเป็นที่วิจารณ์ตำหนิอย่างหนักที่ยกเลิกประกาศเร็วเกินไป แม้เจ้าหน้าที่กล่าวว่าคลื่นยักษ์ซัดถล่มเข้ามาในช่วงที่ยังอยู่ในประกาศเตือนภัยพอดี และยืนยันว่าได้ดำเนินการต่างๆ ตามขั้นตอนอย่างดีที่สุดแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พริบตาพุ่งเฉียด1,000ศพ!ยอดตายเหยื่อดินไหว-สึนามิอินโดฯ (ประมวลภาพ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี