ผบ.กองทัพสหรัฐประจำเกาหลีใต้
โซล - พล.อ.วินเซนต์ บรุ้กส์ มีอายุครบ 60 ปี เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กล่าวในพิธีส่งมอบตำแหน่งผู้บังคับการกองกำลังสหรัฐประจำเกาหลีใต้ ให้กับพล.อ.โรเบิร์ต บี. เอบรัมส์ ที่ค่ายฮัมฟรีย์ส ในเมืองพย็องแท็กห่างจากกรุงโซล ลงไปทางใต้ราว 64 กิโลเมตร ว่า ในสถานที่แบบนี้ไม่มีใครประสบความสำเร็จได้ด้วยการเดินตามลำพัง ความกลัวและความกังวลจะเพิ่มขึ้นหากคิดจะเดินไปตามทิศทางของตัวเอง บททดสอบและแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาตลอดความเป็นพันธมิตรนานกว่า 65 ปี ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่แตกแยกตามที่มีคนคาดเดา พล.อ.บรุ้กส์ซึ่งเข้ารับตำแหน่งนี้เมื่อเดือนเมษายน 2559 เคยพูดถึงช่วงเวลาที่อยู่ในตำแหน่งว่าตื่นเต้นเหมือนนั่งรถไฟเหาะ ไม่เคยมีคนแจ้งเขาล่วงหน้าว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศหลังประชุมสุดยอดครั้งแรกกับนายคิม จอง อึนผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อเดือนมิถุนายน ว่าจะยกเลิกการกระทำยั่วยุทั้งหมดและการซ้อมรบกับเกาหลีใต้ ด้าน พล.อ.เอบรัมส์ วัย 57 ปี ยืนยันความพร้อมของกองกำลังสหรัฐในเกาหลีใต้จะลดลงอย่างแน่นอน อันเป็นผลจากการยกเลิกการซ้อมรบ แต่เขาจะเดินหน้าความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับเกาหลีใต้ต่อไป
ฮุนเซ็นป้องลูกชายโตเร็ว
พนมเปญ - นายกรัฐมนตรีฮุนเซ็น ของกัมพูชา โต้เสียงวิจารณ์เรื่องบุตรชายทั้งสามคนได้ดำรงตำแหน่งระดับสูงเพื่อเสริมสร้างอำนาจของเขาว่า การได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผลพลอยได้จากการศึกษาเล่าเรียนต่างประเทศและมีดีกรีสูง ข่าวบอกว่าลูกๆ ของเขาได้เลื่อนตำแหน่งเพื่อเสริมสร้างอำนาจของเขา ขอถามกลับว่าหากส่งไปฝึกฝนในต่างประเทศแล้วไม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งจะฝึกไปเพื่ออะไร ผู้สันทัดกรณีชี้ ฮุนเซ็นอยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ปี 2528 ได้เพราะอาศัยความหลักแหลมทางการเมืองและเครือข่ายผู้ภักดีในกองทัพ เชื่อว่าเขากำลังวางตัวลูกชายทั้งสามคนให้สืบทอดอำนาจต่อไป พล.อ.ฮุน มาเนต บุตรชายคนโต และบุตรคนที่สองจากทั้งหมดหกคนวัย 41 ปี ได้เลื่อนตำแหน่งเมื่อต้นเดือนกันยายนขึ้นเป็นหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารร่วม ของกองทัพ และผู้บังคับการทหารราบเขาจบโรงเรียนเตรียมทหารสหรัฐ และจบปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์ จากอังกฤษ ขณะที่พลจัตวาฮุน มานิต บุตรชายคนที่สอง และบุตรคนที่สี่ วัย37 ปี เป็นรองหัวหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยข่าวกรองในกองทัพทหาร ส่วนฮุน มณี บุตรชายคนสุดท้อง และบุตรคนที่ห้าวัย 35 ปี เป็น สส.จังหวัดกำปงสปือ และประธานคณะกรรมการการศึกษาในสภาผู้แทนราษฎร
อากาศในนิวเดลีย่ำแย่หนัก
นิวเดลี - ดัชนีมลพิษของรัฐบาลกลางอินเดีย 2 ดัชนีระบุคุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลี ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ว่า “เลวร้ายมาก” และ “ร้ายแรง”เป็นระดับที่หากได้รับเข้าไปมากๆ อาจทำให้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจได้ ขณะที่สถานทูตสหรัฐในกรุงนิวเดลี แจ้งว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 2.5 ที่สามารถเข้าไปในฝังในเนื้อเยื่อปอดเพิ่มขึ้นเป็น 689 จุด เป็นภาวะฉุกเฉินที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ เพราะสูงกว่าระดับมาตรฐานที่ 50 จุดเกือบ 14 เท่า อย่างไรก็ดี ชาวกรุงนิวเดลียังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ มีไม่กี่คนที่สวมหน้ากากอนามัยออกไปนอกบ้านที่เต็มไปด้วยหมอกควันพิษ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากชาวฮินดูในกรุงนิวเดลี และหลายเมืองทั่วประเทศพากันจุดดอกไม้ไฟฉลองดิวาลี เทศกาลแห่งไฟและแสงสว่างตลอดคืนวันพุธ ศาลฎีกาอินเดียสั่งเมื่อเดือนก่อนให้ใช้ดอกไม้ไฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่มีดอกไม้ไฟประเภทนี้ให้ซื้อหาตามท้องตลาดและร้านค้าทั่วไป และการจุดดอกไม้ไฟฉลองเทศกาลดิวาลีทั่วประเทศก็เป็นไปตามปกติเหมือนทุกปี ทางการไม่อยากสั่งห้าม เพราะเป็นประเพณีสำคัญของชาวฮินดู ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศยิ่งรุนแรงขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี