ปักกิ่ง/ไทเป (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน เตือนไต้หวันว่า การแยกตัวเป็นเอกราชจะนำมาซึ่งหายนะ จีนพร้อมรวมชาติกับไต้หวันอย่างสันติ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งสิทธิที่จะใช้กำลัง
ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือโปลิตบูโร วาระพิเศษ ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ที่จีนออก “สารถึงเพื่อนร่วมชาติในไต้หวัน” เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2522 ว่า การรวมชาติต้องเป็นไปตามหลักการจีนเดียวที่ระบุว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ทุกคนในไต้หวันต้องตระหนักให้แจ่มแจ้งว่า การแยกไต้หวันเป็นเอกราชจะนำมาซึ่งหายนะใหญ่หลวงสู่ไต้หวันเท่านั้น จีนพร้อมเปิดพื้นที่เพื่อให้มีการรวมชาติอย่างสันติ แต่จะไม่เหลือพื้นที่ให้แก่การเคลื่อนไหวแยกตัวในทุกรูปแบบ และไม่รับปากว่าจะสละสิทธิที่จะใช้กำลังเมื่อถึงคราวจำเป็น รวมถึงทางเลือกที่จะดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็น ขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของจีน จึงไม่อนุญาตให้ภายนอกเข้ามาแทรกแซง ผู้นำจีนเตือนดังกล่าวหลังจากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวัน กล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่เมื่อวันอังคารว่า จีนต้องใช้สันติวิธีในการแก้ไขความขัดแย้งกับไต้หวันและเคารพค่านิยมประชาธิปไตยของไต้หวัน
ประธานาธิบดีสียังชี้ถึงรูปแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบสำหรับการรวมชาติกับไต้หวันที่จีนนำมาใช้กับฮ่องกง โดยบอกว่าระบบดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นเพื่อให้เข้ากับความเป็นจริงของไต้หวัน และช่วยปกป้องผลประโยชน์รวมถึงผลดีต่อไต้หวัน ภายใต้เงื่อนไขล่วงหน้าในการรับประกันความเป็นอธิปไตยและความมั่นคงของชาติด้วย
“สารถึงเพื่อนร่วมชาติในไต้หวัน” ระบุว่า จีนจะยุติการยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะแก่งใกล้จีนที่ไต้หวันควบคุมอยู่ และเสนอเปิดการเจรจาสองฝ่าย หลังจากเป็นปรปักษ์กันตั้งแต่นายพลเจียงไคเช็กพ่ายสงครามให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2492 แล้วหนีไปเกาะไต้หวัน รัฐบาลไต้หวันในขณะนั้นไม่รับไมตรีจากจีน อีกทั้งยังประกาศนโยบาย “สามไม่” ในเดือนเมษายนปีเดียวกัน ประกอบด้วย ไม่ติดต่อ ไม่ประนีประนอม และไม่เจรจากับจีน จนถึงขณะนี้จีนและไต้หวันยังไม่มีสนธิสัญญาสันติภาพหรือยุติการเป็นปรปักษ์
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชาวไต้หวันหลายหมื่นคนได้ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการลงประชามติว่าด้วยการแยกตัวเป็นเอกราชจากแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกาะแห่งนี้เริ่มปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมานานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม ชาวไต้หวันบางคนมองว่าความสัมพันธ์กับจีนที่ย่ำแย่ลงส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจ และยิ่งรัฐบาลหั่นเงินบำนาญและลดวันหยุดเทศกาลลงด้วยแล้วก็ยิ่งเพิ่มความคับแค้นใจต่อปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและฐานเงินเดือนที่ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี