วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์) - ผู้นำสหรัฐแถลงสดทางโทรทัศน์ ขอร้องชาวอเมริกันทั้งประเทศว่า เขาจำเป็นต้องได้รับงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก เพื่อยุติวิกฤตการณ์บริเวณชายแดน แต่ไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ตามที่ขู่ไว้ก่อนการแถลง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แถลงทางโทรทัศน์เป็นเวลานาน 8 นาที ซึ่งมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ เมื่อเวลา 3 ทุ่ม ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 9 โมงเช้าวันพุธ ตามเวลาในบ้านเรา โดยขอให้ชาวอเมริกันทั้งประเทศเข้าใจว่า เขาจำเป็นต้องได้รับเงินงบประมาณเพื่อการสร้างกำแพงเหล็กกั้นชายแดนสหรัฐกับเม็กซิโก เป็นเงิน 5,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 180,000 ล้านบาท) โดยทรัมป์ระบุว่า กำแพงดังกล่าวจะสามารถยับยั้งวิกฤตการณ์ด้านความมั่นคง และด้านมนุษยธรรม ที่กำลังเกิดขึ้นที่บริเวณชายแดนทางใต้ของสหรัฐ ในการแถลงสดต่อประชาชนทั้งประเทศ จากห้องทำงานรูปไข่ภายในทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกนี้ ทรัมป์พยายามที่จะทำให้คนอเมริกันเชื่อว่า การหลั่งไหลเข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมายของผู้อพยพต่างด้าว ผ่านทางชายแดนทางใต้ของสหรัฐ ซึ่งติดกับเม็กซิโกนั้น มีความร้ายแรงถึงขั้นที่เป็นวิกฤตการณ์
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์มิได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ทุกคนต้องรอฟังการแถลงครั้งนี้ของเขาอย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลทรัมป์ได้ขู่ก่อนหน้าการแถลงครั้งนี้ว่า ทรัมป์อาจประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อให้สามารถสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐ
ทรัมป์ระบุในการแถลงวันนี้ว่า ชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับความเจ็บปวด จากปัญหาการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายโดยไร้การควบคุม เนื่องจากสหรัฐต้องสูญเสียทรัพยากรส่วนรวม เพื่อนำไปใช้จัดการกับปัญหานี้ นอกจากนี้ การอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ยังส่งผลกระทบต่อสหรัฐ ในแง่ที่ทำให้ตำแหน่งงานลดลง และค่าจ้างแรงงานลดลงในสหรัฐ โดยกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นในสหรัฐ คือชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และคนเชื้อสายสเปน ทรัมป์ยังกล่าวถึงประเด็นการปิดหน่วยงานราชการสหรัฐ หรือการชัตดาวน์ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้น เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับรัฐสภา เรื่องงบสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยทรัมป์ยืนยันว่า การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐ คงจะต้องปิดต่อไป และกล่าวโทษว่า เป็นเพราะพรรคเดโมแครตไม่ยอมผ่านร่างงบประมาณเพื่อรักษาความมั่นคงบริเวณชายแดน
ด้านพรรคเดโมแครตได้กล่าวตอบโต้ทรัมป์ทันที ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เช่นกัน โดย นางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต และวุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรคเดโมแครต เรียกร้องให้ทรัมป์ยุติการชัตดาวน์ และให้หน่วยงานราชการได้เปิดทำงานอีกครั้ง วุฒิสมาชิกชูเมอร์กล่าวหาทรัมป์ว่า ปกครองด้วยการใช้ความหวาดกลัว แทนการใช้ข้อเท็จจริง และใช้ความแตกแยก แทนความสามัคคี
ขณะเดียวกัน การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐ หรือชัตดาวน์ ได้เข้าสู่วันที่ 18 แล้วในวันพุธ โดยการที่หน่วยงานราชการสหรัฐต้องปิดทำการนั้น เป็นผลกระทบมาจากการที่สภาผู้แทนสหรัฐ ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ไม่ยอมลงมติอนุมัติร่างงบประมาณ ที่รวมเอางบประมาณการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐกับเม็กซิโก ทำให้หน่วยงานราชการสหรัฐราวร้อยละ 25 หมดเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่าย จึงต้องปิดทำการมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี