18 ม.ค.62 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ เสนอข่าว “EU slaps duties on Cambodia, Myanmar rice exports” ระบุว่า คณะกรรมการสหภาพยุโรป (EU) มีมติให้ทบทวนสิทธิพิเศษทางภาษีที่ให้ต่อกัมพุชาและเมียนมาในการส่งออกข้าวไปยัง EU โดยให้เหตุผลว่าส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตข้าวในยุโรป ซึ่งในรอบ 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีการนำเข้าข้าวจากทั้ง 2 ประเทศเพิ่มสูงถึงร้อยละ 89 และราคาขายยังต่ำกว่าข้าวที่ผลิตในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ส่วนแบ่งในตลาดข้าวของสมาชิก EU ทั้ง 28 ประเทศ ลดลงจากร้อยละ 61 เหลือเพียงร้อยละ 29
มติของคณะกรรมการ EU ครั้งนี้สืบเนื่องจากอีตาลีซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตข้าวในปริมาณครึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเรียกร้องขอความคุ้มครอง โดยมีประเทศอื่นๆ ที่ผลิตข้าวเช่นกันให้การสนับสนุน อาทิฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส กรีซ ฮังการี โรมาเนียและบัลแกเรีย ซึ่งในเดือน เม.ย. 2560 ผู้ผลิตข้าวใน EU กล่าวว่าเป็นสถานการณ์วิกฤติ จากการที่กัมพูชาส่งออกข้าวได้ถึง 345,000 ตันในปี 2559 เพิ่มจาก 8,000 ตันในปี 2552
รายงานของอัลจาซีรา กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้เมียนมาและกัมพูชาได้สิทธิพิเศษทางภาษีในการส่งออกสินค้าต่างๆ ยกเว้นอาวุธไปยังสหภาพยุโรปในฐานะประเทศยากจน อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องผลกระทบต่อผู้ผลิตข้าวใน EU แล้วยังเป็นไปได้ที่การทบทวนสิทธิพิเศษทางดังกล่าวอาจมาจากเรื่องสิทธิมนุษยชนที่ EU ให้ความสำคัญ โดยก่อนหน้านี้ EU เคยขู่ว่าจะคว่ำบาตรทางการค้ากับกัมพูชากรณีฮุน เซน (Hun Sen) ผู้นำรัฐบาลกัมพูชา ใช้วิธีการต่างๆ จัดการกับผู้ต่อต้านรวมถึงการยุบพรรคฝ่ายค้าน ส่งผลให้เขาไร้คู่แข่งในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2561
ด้าน ฮุน เซน เมื่อทราบท่าทีของ EU ก็ออกมาขู่ทันทีว่าพร้อมตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา เวย์น เฮย์ (Wayne Hay) ที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา มองว่า ฮุน เซน ท้าทายมาตรการของโลกตะวันตกท่ามกลางการค้าและการลงทุนของจีนในกัมพูชา โดยฮุน เซนมีกำหนดการไปเยือนกัมพูชาในวันที่ 20 ม.ค. 2562
ทั้งนี้ ตลอด 10 ปีล่าสุด กัมพูชาส่งสินค้าไปขายใน EU มากถึงร้อยละ 40 ของการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดที่กัมพูชาทำกับประเทศต่างๆ และเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างสูง ถึงกระนั้นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา มองว่าท่าทีของ EU อาจทำให้รัฐบาลกัมพูชาทบทวนการกระทำของตน อาทิ ขุม ถาโร (Khum Tharo) จากศูนย์พันธมิตรแรงงานและสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญของรัฐบาลที่ต้องรักษานักลงทุน ส่งเสริมบรรยากาศการค้า มีกลไกทางกฎหมายที่เข้มแข็งและลดปัญหาการทุจริต
ในปี 2560 ศาลฎีกากัมพูชาตัดสินให้ยุบพรรค Cambodia National Rescue Party (CNRP) ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของพรรค Cambodian People Party (CPP) ของฮุน เซน และห้ามสมาชิกพรรคจำนวน 118 คนยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ตามคำร้องของรัฐบาลกัมพูชาที่อ้างว่าพรรค CNRP ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา แต่รัฐบาลสหรัฐยืนยันว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะที่ เขม โสกา (Kem Sokha) แกนนำพรรค CNRP ที่ถูกปล่อยตัวหลังถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปีในข้อหากบฏ ยังคงถูกกักตัวในบ้านพัก ยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
กระทั่งเมื่อเดือน ธ.ค. 2561 สภาของกัมพูชาที่มีเพียงพรรคการเมืองเดียวคือพรรคของฮุน เซน เพิ่งผ่านร่างกฎหมายอนุญาตให้ผู้เคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากกรณียุบพรรค CNRP กลับมาเล่นการเมืองได้ แต่มีข้อแม้ว่าบรรดาสมาชิกพรรค CNRP ต้องยื่นคำร้องขอต่อฮุน เซน หรือ ซอ เค็ง (Sar Kheng) รัฐมนตรีมหาดไทย นอกจากนี้นายกฯ ฮุน เซน ยังกล่าวเตือนว่าใครที่ไม่ยอมรับการยุบพรรค CRNP จะต้องถูกจับกุม ทั้งนี้นอกจาก เขม โสกา แล้วแกนนำพรรค CNRP คนอื่นๆ ต่างเดินทางออกนอกประเทศเพื่อหนีการกวาดล้างของฝ่ายรัฐบาล
-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.aljazeera.com/news/2019/01/190118061520515.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี