ฮานอย (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์)-นายคิมจอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เดินทางถึงกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามแล้ว เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดรอบใหม่เป็นเวลา 2 วันในวันนี้และวันพฤหัสบดี ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัย เข้มงวด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รถไฟสีเขียวมะกอกของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือและคณะเข้าจอดที่สถานีด่ง ดัง ของเวียดนามซึ่งอยู่ติดชายแดนจีน หลังจากเดินทางจากเกาหลีเหนือเป็นระยะทาง 4,000 กิโลเมตร ด้วยเวลา 2 วันครึ่ง ข้ามจีนมายังเวียดนาม จากนั้นนายคิมเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปยังกรุงฮานอยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางถึงกรุงฮานอยในช่วงค่ำวันอังคาร คาดว่าทั้งคู่จะได้พบกันตัวต่อตัวเป็นระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงเย็นวันพุธ ก่อนที่จะรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยคณะของประธานาธิบดีทรัมป์ร่วมด้วยนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายมิก มัลวานีย์ รักษาการผู้อำนวยการประจำทำเนียบขาวซึ่งจะมาร่วมในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ส่วนนายคิมจะมีเจ้าหน้าที่ติดตาม 2 คน ผู้นำทั้งสองจะพบกันอีกหลายรอบในวันพฤหัสบดี ทั้งนายคิมและนายทรัมป์มีกำหนดจะเข้าพบกับผู้นำเวียดนาม แต่เข้าพบคนละเวลากัน
ขณะที่รอยเตอร์ยังได้ลงแผนที่แสดงที่ตั้งโรงแรมเมเลีย ฮานอย ที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะเข้าพัก โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ฮานอยที่คาดว่าผู้นำสหรัฐจะเข้าพัก สถานทูตเกาหลีเหนือ สถานทูตสหรัฐ ศูนย์สื่อมวลชนที่ศูนย์วัฒนธรรมมิตรภาพแรงงานเวียดนาม-โซเวียต และสถานที่ที่น่าจะใช้จัดซัมมิตคือ บ้านพักรับรองของรัฐบาลเวียดนามหรือโรงแรมเมโทรโปล รอยเตอร์รายงานว่า เห็นกลุ่มทหารในชุดลายพรางพร้อมเครื่องตรวจจับโลหะกระจายทั่วบริเวณนั้น ทหารอีกหลายกลุ่มเร่งติดตั้งอุปกรณ์วิทยุสื่อสารและอุปกรณ์ต่างๆ บนหลังคาอาคารใกล้เคียง โดยมีตาข่ายลายพรางคลุมอุปกรณ์ไว้
นายทรัมป์และนายคิม พบกันครั้งแรกที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการคาดหมายว่า ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงในขั้นสุดท้ายเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องรายละเอียดที่ได้ตกลงกัน แต่มีความหวังว่า จะนำไปสู่การประกาศว่า สงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1950-1953 นั้น ยุติลงอย่างเป็นทางการ และสหรัฐก็คาดหวังว่า เกาหลีเหนือจะขยับเพื่อเดินหน้าในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เป็นการตอบแทน ก่อนหน้านั้น ผู้นำสหรัฐเผยว่า เขาตั้งใจรออย่างใจจดจ่อที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่จะดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์ หากเกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์แล้ว เกาหลีเหนือจะกลายเป็นมหาอำนาจทางด้านเศรษฐกิจ หากไม่มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือก็จะอยู่เหมือนเดิม และนายคิมจะตัดสินใจอย่างฉลาดในเรื่องนี้
ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานเจาะลึกเกี่ยวกับการเดินทางมายังเกาหลีเหนือด้วยรถไฟของนายคิม ว่าเป็นการเลียนแบบแง่มุมการเยือนของนายคิม อิลซุง ปู่ของเขาด้วยการไปยังสถานที่บางแห่งที่ปู่เคยเยือนมาก่อน แม้แต่ขบวนรถไฟที่เขาใช้เดินทางจากเกาหลีเหนือผ่านจีนไปจนถึงเวียดนามเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตรก็คล้ายกับขบวนรถไฟที่นายคิม อิล ซุง เคยใช้มาก่อนนายคริสโตเฟอร์ กรีน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของกลุ่มอินเตอร์เนชันนัลไครซิสกรุ๊ปมองว่า เป็นการเมืองแบบสืบทอดมรดก เกาหลีเหนือต้องการชูภาพความสำเร็จของนายคิมให้เหมือนปู่ของเขาที่ทำให้ประเทศมีความชอบธรรมในระดับสากลหลังจากตั้งประเทศในปี 2491
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี