ตั้งข้อหาฆาตกรรม

มือกราดยิงมัสยิดนิวซีแลนด์

ช็อกโลกดับสยอง49ศพ

‘บัวแก้ว’เตือนคนไทย

ระมัดระวังท่องแดนกีวี

ชายชาวออสเตรเลียที่เป็นตัวการในเหตุยิง 49 ศพ ที่มัสยิด 2 แห่ง ในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์เมื่อวันศุกร์ ถูกนำตัวขึ้นศาลและตั้งข้อหาฆาตกรรมเมื่อวานนี้ ด้านนายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ประกาศจะปฏิรูปกฎหมายปืน

นายเบรนตัน แฮร์ริสัน แทร์เรนต์ วัย 28 ปี ชายชาวออสเตรเลียที่เป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงภายในมัสยิด 2 แห่ง ในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์เมื่อวันศุกร์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 49 คน บาดเจ็บอีก 48 คน ถูกนำตัวขึ้นศาลแขวงไครสต์เชิร์ชเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) เขาไม่ได้ให้การใด ๆ และถูกส่งกลับไปควบคุมตัวรอขึ้นศาลสูงไครสต์เชิร์ช ในวันที่ 5 เมษายน นายแทร์เรนต์ ซึ่งสวมชุดผู้ต้องขังสีขาวและถูกสวมกุญแจมือ ไม่พูดแม้แต่คำเดียว ขณะที่ทนายความก็ไม่ได้ยื่นขอประกันตัว หรือขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขา เบื้องต้นอัยการตั้งข้อหานายแทร์เรนต์เพียงข้อหาเดียว คือฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อย่างไรก็ดี ตำรวจคาดว่าเขาจะถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมนอกจากข้อหาฆาตกรรม พร้อมกับให้ข้อมูลด้วยว่านายแทร์เรนต์มีแนวคิดซ้ายจัด นิยมฟาสซิต์แบบสุดโต่ง บูชาลัทธิเชิดชูผิวขาว และเชื่อในทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวอีก 2 คน ตำรวจกำลังสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้อย่างไร

คลิปที่คนร้ายถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ก และตำรวจขอร้องประชาชนว่าอย่าดูหรือส่งต่อ เห็นภาพตั้งแต่คนร้ายขับรถไปที่มัสยิดอัลนูร์ ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช เข้าไปข้างในและยิงคนอย่างไม่เลือกหน้า เห็นร่างคนบนพื้น จากนั้นขับรถไปยังมัสยิดลินวูดซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 5 นาที แล้วไปก่อเหตุกราดยิงที่นั่น ก่อนที่ผู้แสวงบุญคนหนึ่งจะสามารถปลดอาวุธจากนายแมร์เรนต์ได้ ในช่วงที่ตำรวจยกกำลังมาถึงที่เกิดเหตุพอดี และจับกุมเขาโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงตามมา ตำรวจระบุว่าจับกุมมือถือได้ในรถที่มีระเบิดแสวงเครื่อง หลังได้รับแจ้งความ 36 นาที นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์น กล่าวว่า คนร้ายชาวออสเตรเลียมีปืนขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย ใช้อาวุธก่อเหตุทั้งหมด 5 อย่าง มีปืนสั้น 2 กระบอก และปืนกึ่งอัตโนมัติ 2 กระบอก รวมอยู่ด้วย ทางการกำลังตรวจสอบว่า เขาได้อาวุธและทะเบียนมาอย่างไร และเข้านิวซีแลนด์มาก่อเหตุได้อย่างไร รัฐบาลจะแก้ไขกฎหมายครอบครองปืน และจะพิจารณาเรื่องห้ามใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติ

ส่วนที่หน้าโรงพยาบาลในเมืองไครสต์เชิร์ช ที่ผู้บาดเจ็บกว่า 40 คน รับการรักษาตัวอยู่นั้น มีกำลังตำรวจอารักขาแน่นหนา ผู้บาดเจ็บ 11 คน ยังคงอาการหนัก ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีทั้งชาวมุสลิมจากบังกลาเทศ อินเดีย และอินโดนีเซีย ขณะที่วานนี้เริ่มมีการจัดพิธีศพให้แก่ผู้เสียชีวิตบางรายแล้ว ขณะเดียวกัน มีการเปิดเว็บไซต์ระดมเงินให้แก่เหยื่อ ได้เงินแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (กว่า 21.6 ล้านบาท) ภายในเวลาไม่ถึงวัน ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ก็เต็มไปด้วยข้อความแสดงความเสียใจ เห็นใจ และตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ด้านบริษัทด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์รายใหญ่ของโลกรวมถึงเฟซบุ๊ก ยูทูบ และอินสตาแกรม ได้ลบบัญชีของคนร้ายแล้ว หลังได้รับแจ้งจากตำรวจตั้งแต่คนร้ายเริ่มถ่ายทอดสด นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ กำลังไล่ลบคลิปที่มีการทำสำเนาหรือส่งต่อด้วย โดยจะมีทีมงานเฉพาะกิจคอยตรวจสอบว่ายังมีการเผยแพร่หรือแบ่งกันคลิปเหตุการณ์ครั้งนี้อีกหรือไม่ ซึ่งทางบริษัทจะลบทิ้งทันที รวมถึงตรวจสอบไม่ให้มีการเผยแพร่คลิปนี้อีกเช่นกัน

ด้านสื่อบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า นายแทร์เรนต์ได้ผูกกล้องวิดีโอไว้กับศีรษะเพื่อถ่ายทอดสดเหตุกราดยิงที่เกิดในกลางเมืองไครสต์เชิร์ชทางโลกออนไลน์ ในหลายช่องทาง รวมทั้งทางเฟซบุ๊กในช่วงสั้นๆ โดยเสียงเพลงที่มาจากรถยนต์ของผู้ก่อเหตุ คือเพลงเพื่อการสวนสนามของหน่วยติดอาวุธชาตินิยมเซอร์เบียที่ชื่อ เชตนิกส์ ที่ปฏิบัติการในสงครามบอสเนียระหว่างปี 1992-1995 เนื้อหาของเพลงคือการเชิดชู นายราดอวาน คาราจิช ผู้นำชาวเซิร์บแห่งบอสเนีย ที่ต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิด ฐานเป็นอาชญากรสงคราม ก่อโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมในบอสเนีย ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ที่เมืองเซเบรนิกา กว่า 8,000 ราย ระหว่างเกิดสงครามในบอสเนีย ช่วงปี 2535-2538

ขณะที่สื่อออสเตรเลียรายงานว่า นายแทแรนต์ มีพื้นเพมาจากเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของนครซิดนีย์ 600 กม. เคยทำงานในยิมออกกำลังกายแห่งหนึ่ง อดีตนายจ้างของเขาบอกว่า นายแทร์เรนต์ไม่เคยแสดงให้เห็นถึงความคิดแบบสุดโต่ง หรือ พฤติกรรมเพี้ยน ๆ เลย ส่วนเอกสารที่เต็มไปด้วยถ้อยคำหยาบคายที่เขาโพสต์นั้น มีความยาวถึง 16,500 คำ มีชื่อว่า การแทนที่ครั้งใหญ่ (The Great Replacement) ซึ่งตรงกับชื่อของขบวนการเคลื่อนไหวระดับโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ เขาระบุว่าเขาเริ่มวางแผนก่อเหตุร้ายตั้งแต่กลับจากการเยือนยุโรปเมื่อปี 2017 เนื่องจากขุ่นเคืองใจจากหลายเหตุการณ์ที่นั่น โดยเฉพาะ เหตุผู้สนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ก่อเหตุโจมตีด้วยรถบรรทุกในสวีเดน และการที่ชาวฝรั่งเศสเลือกนายเอ็มมานูเอล มาครง นักการเมืองสายกลาง เป็นประธานาธิบดี อีกทั้งความหลากหลายทางเชื้อชาติในฝรั่งเศส แม้นายแทเรนต์อ้างว่า สิ่งที่ทำไปไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง แต่เขาลงบันทึกอย่างละเอียดถึงกระบวนการ และวิธีคิดของเขาในหลายประเด็น และยอมรับว่าเขาตั้งใจว่าจะรอดชีวิตจากการก่อเหตุร้ายครั้งนี้ ซึ่งจะกระพือความสะพรึงกลัวออกไป

ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทย รวมถึงชาวไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะที่เมืองไครสต์เชิร์ช เพิ่มความระมัดระวังภัยก่อการร้าย ส่วนผู้ที่จะไปใช้บริการท่าอากาศยานเมืองไครสต์เชิร์ชช่วง 1-2 วันนี้ ขอให้เผื่อเวลามากกว่าปกติ เนื่องจากมีการตรวจเช็กผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องทุกเที่ยวบินอย่างละเอียดมากกว่าปกติ