ซานฟรานซิสโก/ลอสแองเจลิส (เอพี/บีบีซี นิวส์) - บริษัทเฟซบุ๊ค เปิดเผยว่า นักเจาะระบบหรือแฮกเกอร์ได้ลักลอบเจาะเข้าแล็บท็อปของพนักงานบางคนของบริษัทในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ทำให้สังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดกลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของการโจมตีทางไซเบอร์

เฟซบุ๊คเผยบนบล็อกของบริษัทว่า ไม่มีข้อมูลของผู้ใช้คนใดได้รับผลกระทบจากการลักลอบเจาะระบบครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากพนักงานของบริษัทได้เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์หนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้แล็บท็อปของพวกเขาติดมัลแวร์ หรือโปรแกรมประสงค์ร้ายต่างๆ ซึ่งจะโจมตีระบบ รวมไปถึงการโจรกรรมข้อมูล โดยทันทีที่เฟสบุ๊คตรวจพบมัลแวร์ดังกล่าว ก็ได้แก้ไขแล็บท็อปที่ติดมัลแวร์
ทุกเครื่อง รวมถึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ทางการ และเริ่มการสอบสวนมาจนถึงขณะนี้ เฟสบุ๊คยังระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้เป็นการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ประเภทที่ร้ายแรงและซับซ้อนที่สุด โดยเป้าหมายจะไม่สามารถตรวจพบและตรวจหาต้นตอของแฮกเกอร์ได้ อีกทั้งยังเสียค่าใช้จ่ายสูง และมักจะมีทางการมาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามเฟซบุ๊คปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุและต้นตอของการเจาะระบบครั้งนี้ แต่ได้กล่าวว่า เว็บไซต์ของตนไม่ได้เป็นเหยื่อเพียงรายเดียวของพวกแฮกเกอร์ มีอีกหลายเว็บไซต์ที่ถูกลักลอบเจาะระบบเช่นกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าเว็บไซต์ใด

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอีกบริษัทซึ่งมีความรู้ในด้านนี้กล่าวว่า เขารู้มาว่าต้นตอการเจาะระบบเฟซบุ๊คดูเหมือนจะอยู่ในจีน ด้านสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เช่นกัน และผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถติดต่อกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐได้