หัวเว่ยจะลดการผลิต
เซินเจิ้น - นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมใหญ่ที่สุดในโลกและผลิตสมาร์ทโฟนใหญ่อันดับสองของโลกเผยว่า จะลดกำลังผลิตลงในช่วงสองปีหน้า โดยจะลดลงราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 938,600 ล้านบาท) จากที่มีรายได้กว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3.12 ล้านล้านบาท) เมื่อปีก่อน และคาดว่าบริษัทจะกลับมาทะยานได้ดังเดิมภายในปี 2564 เพื่อให้บริการสังคมต่อไป โดยเปรียบเทียบหัวเว่ยที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี 2530 หรือเมื่อ 32 ปีก่อนว่า เหมือนกับเครื่องบินที่เกิดความเสียหาย หัวเว่ยกลายเป็นเรื่องหลักในกรณีพิพาททางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่ต่างฝ่ายต่างเก็บภาษีตอบโต้กันมาตั้งแต่ปีก่อน รัฐบาลสหรัฐห้ามหัวเว่ยเข้าตลาดสหรัฐและห้ามธุรกิจอเมริกาจำหน่ายอุปกรณ์สำคัญให้หัวเว่ยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ โดยอ้างว่าระบบของหัวเว่ยอาจถูกรัฐบาลจีนใช้เป็นเครื่องมือจารกรรม นอกจากนี้ยังกดดันรัฐบาลนานาชาติให้ห้ามใช้อุปกรณ์หัวเว่ยวางเครือข่าย 5จี (5G) ด้วย มาตรการของสหรัฐส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งในหลายประเทศประกาศระงับการทำธุรกิจกับหัวเว่ยแล้ว
อาร์เจนฯ-อุรุกวัยกลับมามีไฟใช้
บัวโนสไอเรส - อาร์เจนตินาและอุรุกวัย สองประเทศในอเมริกาใต้กลับมามีไฟฟ้าใช้เป็นส่วนใหญ่แล้ว หลังจากเกิดเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้อง จนไม่มีไฟฟ้าใช้นาน 12 ชั่วโมง เมื่อวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น กระทบต่อผู้คนกว่า 48 ล้านคน รวมถึงกระทบถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างปารากวัยที่อยู่ใกล้เคียงเป็นเวลาสั้นๆ ด้วย นับเป็นครั้งแรกที่ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ทั้งประเทศในอาร์เจนตินาที่มีประชากรกว่า 44 ล้านคน และอุรุกวัยที่มีประชากร 3.4 ล้านคน พร้อมกันทั้งสองประเทศ ส่งผลให้การเดินรถไฟล่าช้า และการจราจรชะลอตัวเนื่องจากสัญญาณไฟจราจรใช้การไมได้ รัฐมนตรีพลังงานอาร์เจนตินาเผยว่า ยังไม่มีข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่น่าจะเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ สำนักงานการพลังงานอาร์เจนตินาระบุว่า ระบบการเชื่อมต่อล้มเหลวทำให้ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่สามารถทำงานทดแทนได้ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ขณะที่ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ผู้นำอาร์เจนตินา สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้กระแสไฟฟ้าดับทั่วประเทศในครั้งนี้แล้ว
รวบมือมีดแทงตำรวจ
โตเกียว - ตำรวจโอซากาในญี่ปุ่น สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุใช้มีดแทงตำรวจได้รับสาหัสได้รับบาดเจ็บและชิงปืนพกไปได้ เหตุเกิดที่ป้อมยามใกล้สถานีตำรวจเมืองซุยตะ นอกเมืองโอซากา เมื่อวันอาทิตย์ ได้แล้วในช่วงเช้าวันที่ 17 มิ.ย. ทราบชื่อ ยูจิโร ลิโมริ อายุ 33 ปี มาจากกรุงโตเกียว ซึ่งตำรวจพบผู้ต้องสงสัยคนนี้ ขณะนอนอยู่บนม้านั่ง และพบปืนที่ชิงมาจากตำรวจในกระเป๋าที่วางไว้ใต้ม้านั่ง จากการตรวจสอบพบกระสุนปืนถูกยิงไป 1 นัด โดยเจ้าตัวอ้างว่ามีการป่วยทางจิต และปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุใดๆ ทางด้านตำรวจวัย 26 ปี ที่ถูกแทงเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ยังมีอาการสาหัส รักษาตัวในโรงพยาบาล และไม่รู้สึกตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี