11 กันยายน 2562 สำนักข่าว CapitalCambodia ในเครือ นสพ. Khmer Times เสนอข่าว “Crackdown on foreign workers welcomed” ระบุว่า ทางการกัมพูชาเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราไม่ให้ชาวต่างชาติทำงานในอาชีพที่สงวนไว้สำหรับพลเมืองกัมพูชา เช่น คนขับแท็กซี่ รถบรรทุก รถสามล้อ ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ช่างทำผม พนักงานนวด ช่างเครื่องทอง คนขัดรองเท้า ช่างเครื่องยนต์ ผู้ค้าโบราณวัตถุ พระพุทธรูปและของที่ระลึก ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีชาวเวียดนาม จีนและอินเดียเข้ามาลักลอบทำงานเป็นจำนวนมาก
ยอร์ มันห์ (Yor Manh) พ่อค้ากล้วยปิ้งวัย 27 ปี กล่าวว่า ตนทำอาชีพหาบเร่แผงลอยมาแล้ว 2 ปี โดยก่อนหน้านั้นเคยไปเป็นแรงงานในมาเลเซีย อินโดนีเซียและไทย ด้วยเหตุผลว่ามีกิจการของตนเองสามารถหยุดพักเมื่อใดก็ได้ ไม่ต้องทำงานเป็นเวลาแบบการเป็นลูกจ้างที่ต้องออกจากบ้าน 7 โมงเช้าและกลับบ้านตอนเย็น ซึ่งได้ค่าจ้างวันละ 50,000-60,000 เรียล หรือประมาณ 12 เหรียญสหรัฐ (ราว 368 บาท) พร้อมกับย้ำว่าเห็นด้วยที่รัฐบาลจะกวดขันไม่ให้ชาวต่างชาติมาประกอบธุรกิจเล็กๆ เหล่านี้
ตามกฎหมายการทำงานของคนต่างด้าวในกัมพูชา ระบุว่า ชาวต่างชาติต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำวีซ่าผู้ประกอบอาชีพอิสระ เป็นเงิน 360 เหรียญสหรัฐ (ราว 1.1 หมื่นบาท) ต่อปีกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และอีก 130 เหรียญสหรัฐ (ราว 4 พันบาท) ต่อปีเป็นค่าใบอนุญาตทำงาน ผู้ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกปรับวันละ 10 เหรียญสหรัฐ (ราว 307 บาท) และจะถูกส่งกลับ
อิฐ สัมเฮง (Ith Samheng) รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของกัมพูชา กล่าวว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระหมายถึงใครก็ตามที่ทำงานหรือหารายได้โดยไม่มีนายจ้าง และทางกระทรวงจะไม่ต่ออายุใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้กับชาวต่างชาติที่ทำงาน 10 ประเภทซึ่งห้ามคนต่างด้าวทำ ทั้งนี้รายงานในปี 2561 พบมีชาวต่างชาติจาก 93 ประเทศ รวม 160,077 คน ทำงานในกัมพูชา ในจำนวนนี้กว่า 1 แสนคนเป็นชาวจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย อินโดนีเซีย ไต้หวัน มาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดียและอังกฤษ
เฮง ซอร์ (Heng Sour) โฆษกกระทรวงแรงงานกัมพูชา กล่าวเสริมว่า มาตรการนี้จะไม่ส่งผลกับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานกับบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่จดทะเบียน แต่องค์กรหรือนายจ้างต้องแจ้งจำนวนลูกจ้างที่เป็นชาวต่างชาติต่อกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้คาดว่าในภาคเอกชนน่าจะมีแรงงานชาวต่างชาติถึงร้อยละ 10 ของแรงงานทั้งหมด เพราะหากผู้ประกอบการไม่สามารถหาแรงงานท้องถิ่นที่มีทักษะเหมาะสมกับงานได้ ก็สามารถมายื่นขอโควตานำเข้าแรงงานต่างด้าวกับทางกระทรวงฯ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางกระทรวงฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจทั่วประเทศ
ซานดรา ดี’อามิโก (Sandra d’Amico) รองประธานสหพันธ์นายจ้างและสมาคมธุรกิจกัมพูชา (CAMFEBA) ระบุว่า กฎหมายนี้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นเพราะปกป้องสิทธิในการทำงานของแรงงานที่เป็นคนท้องถิ่น และไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชา เพราะชาวต่างชาติที่ประกอบอาชีพอิสระอยู่ในธุรกิจนอกระบบและกิจการขนาดเล็กที่มีมูลค่าไม่มากนัก อีกทั้งคงไม่ดีนักหากปล่อยให้ชาวต่างชาติมาทำงานในกัมพูชา ใช้ทรัพยากรต่างๆ ของกัมพูชา แต่ไม่เสียภาษีให้กัมพูชา
อัฐ ธรณ์ (Ath Thorn) ประธานสมาพันธ์แรงงานกัมพูชา กล่าวว่า มาตรการตรวจตราเข้มงวดกับชาวต่างชาติในเศรษฐกิจนอกระบบ เพราะเห็นว่าคนกลุ่มนี้มาแย่งอาชีพคนท้องถิ่น จึงต้องปกป้องประชาชนชาวกัมพูชา ซึ่งนอกจากกัมพูชาแล้ว สิงคโปร์ มาเลเซียและไทย ก็มีมาตรการแบบเดียวกัน ทั้งนี้ตนเห็นว่าแรงงานที่เข้ามาทำอาชีพต้องห้ามส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนามและจีน มาตรการนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับคนที่จดทะเบียนธุรกิจกับภาครัฐอย่างถูกต้อง
ขอบคุณเรื่องจาก : capitalcambodia
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี