16 กันยายน 2562 สำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส เสนอข่าว “Lilly, Thailand's Greta Thunberg, wages 'war' on plastic” เล่าเรื่องของ “ลิลลี่ (Lilly)” Ralyn Satidtanasarn เด็กหญิงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 12 ปี ผู้ใช้เวลาว่างล่องเรือไปตามลำคลองต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมืองหลวงของประเทศไทย เพื่อเก็บขยะ อาทิ ขวด ถุงพลาสติก และกระป๋อง ซึ่งไทยนั้นถูกระบุว่าเป็นประเทศที่ทำให้เกิดขยะในทะเลและมหาสมุทรมากเป็นอันดับ 6 ของโลก

รายงานข่าวระบุว่า คนไทยนั้นใช้ถุงพลาสติกมากกว่าคนจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ถึง 12 เท่า กล่าวคือเฉลี่ย 8 ใบต่อคนต่อวัน หรือราว 3,000 ใบต่อคนต่อปี ตั้งแต่บรรจุอาหาร ห่อกาแฟ ไปจนถึงในร้านค้าต่างๆ อย่างไรก็ตาม กระแสลด ละ เลิกการใช้ถุงพลาสติกเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นในสังคมไทย หลังมีข่าว “พะยูน” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่อาศัยในทะเลได้ตายลงจากการกินพลาสติกเข้าไป 

เด็กหญิงรายนี้ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลไม่สนใจเรื่องนี้ เธอก็จำเป็นต้องเข้าหาภาคเอกชนด้วยตนเองเพื่ออธิบายให้เข้าใจ ซึ่งเมื่อเดือน มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ลิลลี่ได้ร่วมผลักดันจนหนึ่งในผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของไทย ประกาศว่าจะหยุดแจกถุงพลาสติก เช่นเดียวกับผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง ก็ประกาศจะทำเช่นเดียวกันตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 เป็นต้นไป 

รายงานจาก AFP กล่าวต่อไปว่า ลิลลี่เริ่มสนใจงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ เมื่อพ่อแม่พาเธอไปเที่ยวทะเลทางภาคใต้ของประเทศไทย ในครั้งนั้นเมื่อเธอเห็นชายหาดเกลื่อนกลาดไปด้วยขยะก็รู้สึกหวาดกลัว เพราะแม้เธอกับพ่อแม่จะช่วยกันทำความสะอาดชายหาด แต่ในวันรุ่งขึ้นทุกอย่างก็กลับมาเละเหมือนเดิม กระทั่งความตั้งใจของเธอในด้านนี้หนักแน่นขึ้น เมื่อได้ยินข่าวของ เกรตา ทุนเบิร์ก (Greta Thunberg) วัยรุ่นชาวสวีเดนที่รณรงค์สร้างความตระหนักเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับชาวโลก 

แต่แม้จะมีอุดมการณ์เดียวกัน ในวันที่ 20 ก.ย. 2562 ที่จะมีการประชุมด้านภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ (UN) ณ เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะไม่เห็นลิลลี่ร่วมประท้วงกับทุนเบิร์กที่นั่น เด็กหญิงให้เหตุผลว่า ที่ที่เธอต้องต่อสู้นั้นอยู่ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเธอเข้าร่วมกิจกรรม “Trash Hero” หรือกลุ่มจิตอาสาร่วมทำความสะอาดที่จัดขึ้นในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม งานของเธอคงไม่ง่ายนัก เพราะการรณรงค์ลด ละ เลิกการใช้พลาสติก ย่อมขัดผลประโยชน์กับธุรกิจปิโตรเคมี ที่มีส่วนในการผลิตพลาสติกและมีกำไรมหาศาล

ณัฐพงศ์ นิธิอุทัย (Nattapong Nithiuthai) เจ้าของบริษัทที่เปลี่ยนขยะจากชายหาดให้กลายเป็นรองเท้าแตะที่ใช้งานได้จริง กล่าวว่า ลิลลี่เป็นเสียงที่ดีของเยาวชนในประเทศนี้ แต่พลังของล็อบบี้ยิสต์ก็มากเสียจนทำให้การเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นได้ยาก ขณะที่ Sasie แม่ของลิลลี่ กล่าวเสริมว่า ในตอนแรกคิดว่าลูกสาวทำไปตามแฟชั่น แต่เมื่อเห็นความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าจึงขอสนับสนุนด้วย อาทิ ช่วยเขียนสุนทรพจน์เมื่อลิลลี่ต้องไปพูดในเวทีของ UN หรือหน่วยงานภาครัฐ

คาคุโกะ นากาทานิ-โยชิดะ (Kakuko Nagatani- Yoshida) ผู้ประสานงานระดับภูมิภาคว่าด้วยสารเคมี ขยะและคุณภาพอากาศ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UN Environment) กล่าวว่า เราสามารถหาหลักฐานและข้อสนับสนุนได้มากมายบนโลก แต่มันคงยากหากจะเพิกเฉยต่อเสียงของเด็กๆ ที่ถามว่าทำไมเราถึงทำลายโลกที่พวกเขาจะต้องมีชีวิตอยู่ 

ขอบคุณเรื่องจาก : www.afp.com