นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรม “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ที่เอปเลอร์ ยิมเนเซียม ภายในโอห์โลเน่ คอลเลจ ที่เมืองซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา 

โดยมี นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นางสาววิภาวี วัยวัฒน์ ผู้อำนวยการกองบริหารงานกีฬามวย และนายอภิชัย นราวงษ์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันมวยไทยแห่งชาติ และทีมงานร่วมด้วย

กิจกรรม “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส ทัวร์ 2025” ที่สหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ได้นำเอา 3 ยอดนักชกมวยไทย ได้แก่ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ และเพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9 มาเปิดคลาสสอนมวยไทยให้ชาวอเมริกันที่สนใจ ทั้งพื้นฐานการชกมวยไทยที่ถูกต้อง, การออกอาวุธ และเทคนิคต่างส่วนตัวต่างๆของแต่ละคน บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน โดยมีผู้ที่สนใจลงทะเบียนเข้ามาร่วมงานมากกว่า 750 คน รวมถึงยังมีชาวสหรัฐที่เดินทางมาลงทะเบียนหน้างาน และขอเข้าไปร่วมอบรมเพิ่มอีกจนยอดทะลุเกิน 800 คน ซึ่งในช่วงท้ายของงานได้มีการฉลองวันคล้ายวันเกิดให้กับ แสนชัย ที่อายุครบ 45 ปี ไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีการมอบป้าย Standard Muaythai Gym หรือ SMG ที่ผ่านมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ ไรส์ คอมแบต สปอร์ต, เอล นิโญ่, แอสเซนด์, 10th แพลเน็ต, ใจเย็นยิม (Jai Yen), เอ็นน์ มวยไทย, อิค กรูฟ, ซีเอ็มเอ, วูดเดนแมน และเคโอเอ รวมถึงจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การอำนวยความสะดวก และให้คำแนะนำเพื่อดำเนินการขอวีซ่าเรียนมวยไทย แบบ Non-Immigrant Visa รหัส ED 90 Day และวีซ่า Muaythai DTV (Destination Thailand Visa) 180 วัน โดยกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นช่องทางในการสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวอเมริกัน ได้ลงทะเบียนเดินทางมาเรียนมวยไทยในค่ายมวยมาตรฐานของประเทศไทย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู่การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ และเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศต่อไป

นายชลิตรัตน์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้โปรโมทมวยไทยผ่านโครงการมาสเตอร์คลาส ที่ซาน ฟรานซิสโก นับเป็นแห่งที่ 12 ในช่วง 1 ปี 4 เดือนที่ได้ทำมา และเป็นครั้งที่สองที่มาสหรัฐ ซึ่งรู้สึกแปลกใจมากๆ ที่ได้เห็นคนมาร่วมงานเยอะขนาดนี้ จากหนก่อนที่นครลอส แองเจลิส มีแค่ราวๆ 350 คนเท่านั้น แต่นี่เพิ่มมาเกิน 1 เท่าตัว ซึ่งมันทำให้เห็นว่าคนที่นี่ไม่ได้มองมวยไทยเป็นแค่เรื่องของกีฬา แต่มองเป็นเรื่องของการออกกำลังกาย เป็นเทรนด์การออกกำลังกายของชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม ซึ่งก็จะกลายเป็นการช่วยเผยแพร่มวยไทยทางอ้อมให้กับประเทศไทย

“การจัดกิจกรรมเหล่านี้ก็เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ของมวยไทยให้ดีขึ้น จะช่วยส่งเสริมมวยไทยในหลายๆ ด้าน เพราะสุดท้ายคนเหล่านี้ก็ต้องการที่จะเดินทางไปประเทศไทย เพื่อไปกิน ไปเที่ยว หรือไปฝึกที่บ้านเรา นอกจากนี้การมอบป้ายมาตรฐานยิมมวยไทยให้กับยิมมวยไทยในต่างประเทศ นอกจากจะทำให้รากฐานมวยไทยของประเทศนั้นๆ ดีขึ้น ค่ายมวยเหล่านั้นจะมีคนมาเรียนมวยมากขึ้น ก็เป็นผลดีต่อวงการมวยไทยทั้งสิ้น

“ที่ผ่านมาเราได้มีการเก็บข้อมูลจากหอการค้าไทย ทุกครั้งที่ไปแต่ละประเทศก็จะมีตัวเลขของผู้ที่เดินทางกลับไปประเทศไทยเพื่อเรียนมวยไทย หรือท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น บางประเทศเราจัดงานใช้เงินแค่ 6-7 ล้านบาท แต่มูลค่าที่ได้กลับมานั้นมากกว่า 10 เท่าเลยทีเดียว”

ทางด้าน นางโปรดปราน กล่าวว่า ต้องบอกว่ารู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ กับจำนวนคนที่มาลงทะเบียน เพราะครั้งนี้มากกว่าทุกครั้งที่เคยจัดงานมา อย่างไรก็ตามในปีต่อไป กลุ่มเป้าหมายของกกท.จะเปลี่ยนไป จะไปเน้นที่ผู้ฝึกสอนบ้าง เพราะจากที่ได้สัมผัสยิมมวยไทยในต่างประเทศตอนนี้ส่วนใหญ่เขาจะเดินทางไปเรียนที่ไทย แล้วกลับมาเปิดยิมสอน แต่เราจะยกระดับยิมมวยเหล่านี้ ด้วยการเปิดอบรมครูฝึกมวยและให้สอบซีไลเซนส์ เพื่อให้พวกเขาได้มีไลเซนส์ในการไปสอนต่อและจะได้ยกระดับมวยไทยในต่างแดนให้มากขึ้นด้วย

“หลังจากที่เขาได้ซีไลเซนส์แล้ว ก็จะเน้นการต่อยอดว่าถ้าคุณจะเรียน บี หรือเอไลเซนส์ หรือแม้แต่ต่ออายุใบอนุญาตของซีไลเซนส์เองจะต้องเดินทางกลับไปที่ประเทศไทย ซึ่งก็จะเป็นการดึงเม็ดเงินรายได้เข้าสู่ประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง” รองผู้ว่าการกกท. กล่าวปิดท้าย

สำหรับโครงการมวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 จะเดินทางไปเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยทั้งหมด 10 ประเทศซึ่งก่อนหน้านี้เดินทางไปฮ่องกง, บราซิล, อังกฤษ และสกอตแลนด์ มาแล้ว โดยสหรัฐเป็นประเทศที่ 5 และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ต่อด้วยฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส และออสเตรเลีย