27 กันยายน 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี แห่งอิหร่าน กล่าวนอกรอบการประชุมสมัชชาสหประชาชาติว่า บุคคลใดก็ตามซึ่งกล่าวหารัฐบาลเตหะรานโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่ง ของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้แสดงหลักฐานเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาของตัวเอง 

สหรัฐฯและซาอุดีอาระเบียต่างกล่าวโทษอิหร่านต่อเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันอับกอยก์และคูไรส์ ซึ่งส่งผลต่อกำลังผลิตของซาอุดีอาระเบียลดลงกว่าครึ่ง ด้านฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ต่างก็กล่าวโทษอิหร่านเช่นกัน

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียนำชิ้นส่วนซึ่งอ้างว่ามาจากอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน 18 ลำ และขีปนาวุธนำวิถีอีก 9 ลูก ออกมาจัดแสดงแก่สื่อมวลชน ที่ฐานทัพในเมืองเจดดาห์ ริมชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่าคือซากอาวุธซึ่งเป็น "หลักฐานสำคัญ" ที่อิหร่านใช้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันทั้งสองแห่งของซาอุดีอารามโก และเผยด้วยว่ารัศมีการโจมตีมาจากทิศเหนือ สื่อโดยนัยว่ามาจากอิหร่าน 

อย่างไรก็ตาม โรฮานีประณามข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า "น่าขัน" และปฏิเสธความรับผิดชอบ และยังย้ำว่าเขาพร้อมเปิดเจรจากับสหรัฐฯ หากว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรและยุตินโยบายเพิ่มแรงกดดันขั้นสูงสุดกับเตหะราน