ออตตาวา/เตหะราน (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - เจ้าหน้าที่สืบสวนจากแคนาดาที่ได้รับเชิญจากอิหร่านจะได้รับอนุญาตให้เข้าตรวจสอบซากเครื่องบิน และกล่องดำจากเครื่องบินของสายการบินยูเครน ที่ถูกขีปนาวุธอิหร่านยิงตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วขณะที่อิหร่านจับกุมผู้ที่มีส่วนกับเหตุการณ์ดังกล่าวได้หลายคน
นางแคธี ฟอกซ์ หัวหน้าคณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคม ของแคนาดา หรือทีเอสบี แถลงว่า เจ้าหน้าที่จากทีเอสบีของแคนาดา 2 คน เดินทางถึงกรุงเตหะราน ในวันอังคาร ส่วนอีก 2 คน จะตามไปสมทบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยอิหร่านจะเป็นผู้นำในการสอบสวน ส่วนเจ้าหน้าที่จากแคนาดาจะมีส่วนร่วมในการดาวน์โหลด และวิเคราะห์กล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและกล่องบันทึกข้อมูลการบิน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากแคนาดายังจะได้รับอนุญาตให้เข้าตรวจสอบจุดที่เครื่องบินตกและตรวจสอบซากเครื่องบินที่กำลังถูกประกอบขึ้นใหม่ในหลุมจอดใกล้กัน รวมทั้งยังจะได้ร่วมตรวจสอบด้วยว่าการยิงขีปนาวุธดังกล่าวเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือไม่ และทำไมจึงยังคงมีการเปิดน่านฟ้าในช่วงที่เกิดความตึงเครียดในภูมิภาค
เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินยูเครนอินเตอร์แนชชันนัล แอร์ไลน์ส หรือยูไอเอถูกยิงด้วยขีปนาวุธ หลังเดินทางออกจากกรุงเตหะราน ในช่วงก่อนรุ่งสางของวันพุธได้เพียงไม่นาน เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟ ของยูเครน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 176 ศพบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวนนี้57 ศพ เป็นชาวแคนาดา รัฐบาลอิหร่านปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเครื่องบินตกในช่วงแรก ก่อนออกมายอมรับในเวลาต่อมาว่ายิงขีปนาวุธโจมตีเครื่องบินยูเครนโดยไม่เจตนา อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา กล่าวว่า สหรัฐเป็นฝ่ายจุดชนวนความตึงเครียดจากการสังหารนายพลกาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการทหารอิหร่านใกล้กับสนามบินกรุงแบกแดดเมื่อวันที่ 3 มกราคม ทำให้อิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพในอิรัก
เมื่อวันที่ 8 มกราคม และอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินของยูเครนก็ถูกยิงตกเนื่องจากกองทัพอิหร่านเข้าใจว่าเป็นเครื่องบินของฝ่ายตรงข้าม ขณะที่อิหร่านกำลังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังการโจมตีขั้นสูงสุด
ล่าสุด โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดของอิหร่านเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมดังกล่าว และการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานี ของอิหร่าน ระบุว่าอาจมีการจัดตั้งศาลพิเศษขึ้นเพื่อพิจารณาไต่สวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกับยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ใช้กระสุนจริงยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล แต่ใช้ความอดทนอดกลั้นในการรับมือกับผู้ประท้วง พร้อมเตือนว่าพวกที่ตั้งใจที่จะปลุกปั่นเพื่อหวังผลจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมา หลังมีรายงานว่า ประชาชนจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงใช้กำลังสลายการชุมนุมบริเวณจตุรัสอาซาดี ในกรุงเตหะราน ระหว่างชุมนุมประท้วงต่อต้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กรณีทางการอิหร่านปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเครื่องบินตก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี