“ไพศาล” ชี้กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง ช่วยคืนความรุ่งเรืองกลับมา เชื่อเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของชาวโลก พร้อมยกจีนก้าวเป็นผู้นำโลกยุคใหม่แล้ว
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2563 นายไพศาล พืชมงคล อุปนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้วิเคราะห์ถึงกรณีที่รัฐบาลจีน ได้ออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงเมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ว่า การที่สภาประชาชนแห่งชาติจีน ลงมติให้ตรากฎหมายดังกล่าวถือว่า สอดคล้องกับสถานการณ์และจังหวะเวลายุคสมัย เพราะนับตั้งแต่ฮ่องกงกลับคืนไปสู่จีนภายใต้ทฤษฎี 1 ประเทศ 2 ระบบแล้ว การดำเนินงานส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบบเดิมอยู่ ระบบเศรษฐกิจชัดเจนว่าเป็น 2 ระบบกับจีน
เรื่องความมั่นคงและอธิปไตยเหนือฮ่องกงยังอยู่ระยะเปลี่ยนผ่าน นับตั้งแต่รับโอนฮ่องกงมาจนถึงวันที่ประกาศใช้กฎหมายนี้ ทำให้เสมือนหนึ่งว่าเป็น 2 ประเทศ 2 ระบบอยู่ อันนั้นจำเป็นสำหรับระยะเปลี่ยนผ่านเพื่อธำรงรักษาความมั่นคงและความมั่งคั่งของทางฮ่องกงไว้ แต่ปรากฏว่าในห้วงเวลานี้เกิดมีกระบวนการบ่อนทำลายความมั่นคงของจีนและฮ่องกง เช่น การชุมนุมในฮ่องกงที่ผ่านมาเห็นชัดว่า ไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศจีน หรือ ชาวฮ่องกง แต่เป็นไปเพื่อจะชักชวนให้ต่างชาติเข้ามาปกครองฮ่องกง
นายไพศาล ระบุว่า ตรงนี้ขัดกับหลักการพื้นฐานใหญ่ของทฤษฎี 1 ประเทศ 2 ระบบ การที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” และพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยเฉพาะสภาประชาชนแห่งชาติจีน มีมติให้ตรากฎหมายนี้ จึงเป็นความถูกต้องเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประเทศจีนเหมือนกับประเทศต่างๆ ที่ล้วนมีกฎหมายความมั่นคงสำหรับประเทศของตนทั้งสิ้น ภายนอกจะแทรกแซงไม่ได้เด็ดขาด มีเพียงสหรัฐฯ และบางประเทศเท่านั้น ที่เดือดร้อนไปกับเรื่องในบ้านของจีน ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายระหว่างประเทศและผิดกฎบัตรของสหประชาชาติ
“ฮ่องกงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปได้พ้นสภาพความเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เข้าสู่ระบบ 1 ประเทศ 2 ระบบกับจีนแล้ว ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลจีนยุคปัจจุบันที่ทำให้เรื่องเป็นจริงจังได้และหลังจากรัฐบาลจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงนี้ ส่งผลให้ความสงบสุขกำลังกลับคืนมาสู่ฮ่องกงอย่างรวดเร็ว การแทรกแซงจากต่างประเทศ แม้จะยังมีอยู่แต่เป็นในเรื่องของกระดาษ เช่น การตรากฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เป็นต้น ในความเป็นจริง จีนมีอธิปไตยและได้ใช้อำนาจของประเทศจีนครอบคลุมทั้งประเทศเป็น 1 ประเทศจริงๆแล้ว” นายไพศาล ระบุ
นายไพศาล ยืนยันว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่งคั่งของฮ่องกง มีแต่จะปกป้องความมั่งคั่งและความรุ่งเรืองของฮ่องกง สังเกตจากระบบเศรษฐกิจทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกลไกตลาดหุ้น ตลาดทุน การลงทุน การค้า กฎหมายนี้ไม่ได้แตะต้อง มีแต่ให้ความคุ้มครองป้องกันเฉพาะการบ่อนทำลายจากต่างชาติหรือจากการสมคบกันระหว่างคนในฮ่องกงบางส่วนกับต่างชาติ เพื่อจะให้ต่างชาติเข้ามาปกครองฮ่องกง ดังนั้นกฎหมายนี้ถือเป็นการ
ปิดฉากยุคเสมือน 2 ประเทศ 2 ระบบ ที่ต่อยอดมาจากช่วงรับคืนฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว
“ชัยชนะของจีนในเวทีสหประชาชาติ คือ สัญญาณที่หนุนการประกาศกฎหมายความมั่นคงตรงนี้ เชื่อว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย เพราะการดำรงความมั่งคั่งและความรุ่งเรืองของฮ่องกงไว้ต่อไป ประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกงยังคงได้รับประโยชน์ ผู้ที่เสียประโยชน์มีพวกเดียว คือ พวกที่หวังยืมมือคนไม่ดีในฮ่องกงบางพวกเพื่อเข้ามายึดฮ่องกง ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อีกแล้ว ดังนั้น การที่จะทำให้ฮ่องกงกลับสู่ความเป็นปรกติโดยเร็วที่สุดต่างหาก จึงเป็นที่ต้องการและเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของชาวโลก รวมทั้งเป็นประโยชน์ภูมิภาคเอเชีย อาเซียน และต่อประเทศไทยด้วย” นายไพศาล ระบุ
นายไพศาล ยังระบุถึงบทบาทของประเทศจีนในขณะนี้ที่หลายฝ่ายมองว่า จะส่งผลให้จีนเป็นมหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลกว่า จีนประกาศยืนยันทุกครั้งว่าไม่เป็นมหาอำนาจ เพราะความเป็นมหาอำนาจไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับจีน และไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อชาวโลก แต่จีนที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้โดยเฉพาะนับตั้งแต่ท่านประธานาธิบดี"สีจิ้น ผิง"ประกาศยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมแล้ว ทำให้จีนเป็นผู้นำโลกยุคใหม่ที่ปิดฉากยุคเก่าของโลก ซึ่งยุคเก่า คือ ยุคแห่งความขัดแย้งและสงคราม เข้าสู่ยุคใหม่ ยุคแห่งสันติภาพและการพัฒนา โดยการพัฒนาที่จะกระจายไปยังคนทั้งโลก นับเป็นกระแสใหญ่ของโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วันนี้จึงถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของจีนยุคใหม่
คลิกฟัง ... อุปนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน มุุมมอง กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี