วอชิงตัน (รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ของสหรัฐเผยว่า จะห้ามใช้ติ๊กต๊อก แอพพลิเคชั่นทำคลิปสั้นยอดนิยมของจีนในสหรัฐ ตามที่ทางการกังวลว่าแอพนี้อาจตกเป็นเครื่องมือของหน่วยข่าวกรองจีน รวมถึงบีบให้บริษัทจีนที่เป็นเจ้าของขายติ๊กต๊อกให้บริษัทสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นไมโครซอฟต์ หรือเฟซบุ๊ค
ประธานาธิบดีทรัมป์เผยกับสื่อบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซวันเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า ตามที่มีความกังวลเรื่องติ๊กต๊อก เขาจะห้ามใช้แอพนี้ในสหรัฐ โดยจะดำเนินการทันทีในวันเสาร์ด้วยการใช้อำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินหรือคำสั่งบริหาร ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันมีข่าวสะพัดว่า ทรัมป์จะขอให้บริษัทในสหรัฐที่ให้บริการติ๊กต๊อกแยกตัวจากไบท์แดนซ์ที่เป็นบริษัทแม่ในจีน ซึ่งจะจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้แก่ไบท์แดนซ์ ให้ขายทิ้งแอพตัวนี้ ให้แก่บริษัทของสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นไมโครซอฟต์หรือเฟซบุ๊ค แต่การเจรจายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ เนื่องจากติดปัญหาที่ไบท์แดนซ์ ต้องการคงหุ้นส่วนน้อยไว้ในติ๊กต๊อก และยืนยันราคาขายติ๊กต๊อกที่มากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านนายเควิน เอ ไมเออร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของติ๊กต๊อก และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ หรือซีโอโอ ของไบท์แดนซ์ โพสต์เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ติ๊กต๊อกไม่ใช่บริษัทการเมือง ไม่เคยรับโฆษณาทางการเมือง และไม่มีวาระซ่อนเร้น วัตถุประสงค์เดียวของบริษัทคือเป็นแพลตฟอร์มให้ทุกคนได้สนุกสนาน บริษัทตกเป็นเป้าหมายล่าที่สุด แต่ขอยืนยันว่าบริษัทไม่ใช่ศัตรู
ติ๊กต๊อกเปิดตัวเมื่อปี 2559 แต่ได้รับความนิยมหลังจากควบรวมกิจการกับ Musical.ly แอพของสหรัฐในปี 2561 ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาเชื่อว่า การใช้แอพนี้มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงแทบเป็นศูนย์ แต่ไบท์แดนซ์ที่เป็นบริษัทแม่อาจถูกทางการจีนกดดันให้เซ็นเซอร์เนื้อหาได้ สำหรับความนิยมใช้ติ๊กต๊อกในสหรัฐ มีผู้ใช้ 80 ล้านยูสเซอร์ต่อเดือน และเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นอเมริกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี