7 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน เหตุระเบิดจากสารเคมีครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันอังคาร (4 ส.ค.) ได้จุดชนวนความวิตกกังวลอีกครั้งในออสเตรเลีย ซึ่งกักตุนสารเคมีชนิดเดียวกันในปริมาณมากไว้ใกล้กับพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น
กลุ่มผู้สนับสนุนชุมชนบางส่วนในออสเตรเลียรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับการจัดเก็บสารเคมีไว้ใกล้กับพื้นที่ที่มีประชากรอยู่หนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองนิวคาสเซิล เมืองท่าทางตอนเหนือของซิดนีย์ โดยออริกา (Orica) บริษัทวัตถุระเบิดเชิงพาณิชย์ ได้จัดเก็บแอมโมเนียมไนเตรตระหว่าง 6,000-12,000 ตัน รวมทั้งผลิตสารเคมีราว 430,000 ตันต่อปี บนเกาะคูรากัง (Kooragang Island) ของท่าเรือนิวคาสเซิล (Port of Newcastle) ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 3 กิโลเมตร
ด้านฮัสซัน ดิอับ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ระบุว่าเหตุระเบิดร้ายแรงครั้งนี้มีแอมโมเนียมไนเตรตเกี่ยวโยงเพียง 2,750 ตัน โดยแอมโมเนียมไนเตรตถูกต้องสงสัยว่าเป็นต้นตอเหตุระเบิดครั้งใหญ่ดังกล่าว ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนในเลบานอนมากกว่า 100 ราย แม้แอมโมเนียมไนเตรตไม่ถูกจัดเป็นสารไวไฟ แต่สามารถทำให้ไฟติดได้หากมีออกซิเจนและเสี่ยงต่อการระเบิด
อนึ่ง ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตและผู้นำเข้าแอมโมเนียมไนเตรตรายใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้งานในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่
“มันเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมีการผลิตและจัดเก็บวัตถุอันตรายเช่นนี้ และเราร้องเรียนเรื่องนี้มานานหลายปีมากแล้ว” คีธ เคร็ก วิศวกรเคมีและนักรณรงค์ชุมชน กล่าวกับสถานีวิทยุกระจายเสียงออสเตรเลีย (ABC) “ประชาชนหลายคนอาจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หากอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นที่ออริกา”
อย่างไรก็ดี โฆษกของออริกากล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่าสถานการณ์ในเบรุตนั้นเกิดจากความผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการจัดการสารเคมี แต่สำหรับการดำเนินงานบนเกาะคูรากังของออริกาถูกควบคุมดูแลและตรวจสอบจากทางการอย่างสม่ำเสมอ พร้อมแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด
“พื้นที่จัดเก็บแอมโมเนียมไนเตรตบนเกาะคูรากังสามารถทนทานต่อไฟได้ดี เนื่องจากสร้างขึ้นจากวัสดุที่ไม่ติดไฟโดยเฉพาะ และเรายังกำหนดเขตคุ้มครองพิเศษไว้รอบพื้นที่จัดเก็บอีกด้วย” โฆษกเสริม
เคร็กยอมรับว่าเนื่องจากกฎหมายการกำกับดูแลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดของออสเตรเลีย ทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำ แต่เขาเตือนไม่ให้ประมาทต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ออสเตรเลียเคยเผชิญโศกนาฏกรรมเศร้าสลดที่เกี่ยวกับการขนส่งแอมโมเนียมไนเตรตมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ เหตุรถบรรทุกระเบิดในปี 1972 ที่คร่า 3 ชีวิต และเหตุรถบรรทุกสารเคมี 50 ตัน ประสบอุบัติเหตุและระเบิดในปี 2014 จนมีผู้บาดเจ็บ 8 ราย และสะพานพังเสียหาย โดยบริษัทเหมืองแร่ที่เกี่ยวข้องยังคงอยู่ระหว่างการฟ้องร้องทางกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี