4 กันยายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ประสานงานการดำเนินมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด -19) เผยว่ามาเลเซียจะประกาศห้ามไม่ให้พลเมืองจากกลุ่มประเทศที่มี “ความเสี่ยงสูง” ต่อโรคโควิด-19 เดินทางเข้าประเทศ โดยประเทศที่มีความเสี่ยงสูงหมายถึงมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลมากกว่า 150,000 ราย
ยาค็อบกล่าวว่ากลุ่มประเทศข้างต้น ได้แก่ สหรัฐฯ บราซิล ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร สเปน อิตาลี ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย และบังกลาเทศ รวมถึงอีก 3 ประเทศที่เคยประกาศก่อนหน้านี้อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. เป็นต้นไป
“เราจะเพิ่มประเทศความเสี่ยงสูงอื่นๆ ที่มีผู้ป่วยเกิน 150,000 ราย เข้าบัญชีรายชื่อในอนาคต โดยพลเมืองของประเทศเหล่านี้จะถูกห้ามเดินทางเข้ามาเลเซีย” ยาค็อบกล่าว “สำหรับกรณีฉุกเฉินหรือกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทวิภาคี เช่น การประชุมระหว่างประเทศ เราจะอนุญาตให้เข้าประเทศ แต่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากสำนักตรวจคนเข้าเมืองก่อน”
ยาค็อบเสริมว่ากระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียจะประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับประเทศที่อยู่ในรายชื่อห้ามเดินทางเข้ามาเลเซีย ทว่าชาวมาเลเซียที่เดินทางกลับจากประเทศเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการกักกันตัวนาน 14 วัน โดยขณะนี้มาเลเซียอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ถือบัตรผ่านหรือวีซ่าระยะยาวเข้าประเทศเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงไม่สามารถเข้ามาได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์มาเลเซียประกาศห้ามผู้เดินทางจากอินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เข้าประเทศ โดยอ้างอิงจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศเหล่านี้ นอกจากนั้นยังประกาศใช้ข้อจำกัดสำหรับผู้อาศัยถาวร ผู้ถือบัตรผ่านโครงการ “มาเลเซีย บ้านหลังที่ 2 ของฉัน” (MM2H) ชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศ ผู้ถือวีซ่าคู่สมรส และนักเรียนต่างชาติ
ด้านนูร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมอนามัย สังกัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่ามาเลเซียตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 14 ราย ในวันพฤหัสบดี (3 ก.ย.) โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ 4 ราย และผู้ป่วยที่ติดเชื้อในท้องถิ่น 10 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยในประเทศรวมอยู่ที่ 9,374 ราย
ขณะเดียวกันมาเลเซียมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลเพิ่ม 4 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยหายดีรวมอยู่ที่ 9,083 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 96.9 ของผู้ป่วยทั้งหมด ด้านจำนวนผู้ป่วยที่ยังรักษาตัว 163 ราย ส่วนหนึ่งเป็นผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนัก 4 ราย และผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 3 ราย
อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่ในประเทศ ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 128 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี