p เฮอร์ริเคนแซลลีจ่อถล่ม
ฮุสตัน/นิวออร์ลีนส์ - พื้นที่แถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ เตรียมรับมือพายุเฮอร์ริเคนแซลลี ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าถล่ม ทำให้การผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐต้องหยุดไปกว่า 1 ใน 4 กำลังการผลิตน้ำมันหายไปเกือบ 500,000 บาร์เรลต่อวัน พายุเฮอร์ริเคนแซลลี มีความเร็วลมสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นอีก โดยพายุเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ด้วยความเร็ว 3.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐคาดการณ์ว่า พายุเฮอร์ริเคนแซลลีจะพัดขึ้นฝั่งระหว่างรัฐมิสซิสซิปปีกับรัฐฟลอริดา ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ แม้จะอ่อนกำลังลงแล้วแต่ยังคงจัดอยู่ในระดับหนึ่ง โดยอาจทำให้มีฝนตก 10-20 นิ้ว หรือมากถึง 30 นิ้ว ในบางพื้นที่ อีกทั้งการที่พายุเคลื่อนตัวช้าสร้างความวิตกว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมจนอาจเสียหายเป็นวงกว้างตามชายฝั่งระหว่างรัฐมิสซิสซิปปีกับรัฐฟลอริดา ต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์ กระทบต่อการเดินทางและความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคนี้
p ชดเชย 370 ล้านหญิงผิวสีถูกยิง
หลุยส์วิลล์-ทางการเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกีของสหรัฐ ตกลงจ่ายเงินชดเชยจำนวน 12 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 370 ล้านบาทให้กับครอบครัวของบรีออนนา เทย์เลอร์หญิงผิวสีที่ถูกตำรวจฆาตกรรมภายในห้องพัก เทย์เลอร์ วัย 26 ปี ถูกยิงอย่างน้อย 8 ครั้ง และเสียชีวิตในวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการบุกตรวจค้นในปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดหลังเที่ยงคืนด้วยหมายค้นแบบไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า โดยในวันเกิดเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยิงกระสุนมากกว่า 25 นัดซึ่งครอบครัวของบรีออนนา เทย์เลอร์ ได้ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ด้วยข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ชื่อของเทย์เลอร์ จึงกลายเป็นชนวนในการประท้วงครั้งใหญ่เพื่อต่อต้านการเหยียดผิวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อเกิดกรณีการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดเข่าเข้าที่คอของเขาเป็นเวลาหลายนาทีระหว่างการจับกุมในรัฐมินนิโซตา เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการเสียชีวิตของฟลอยด์ส่งผลให้เกิดการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติไปทั่วโลก
p คุมเพลิงไหม้ค่ายผู้อพยพ
เอเธนส์ - ทางการกรีซสามารถควบคุมเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นใกล้กับค่ายผู้อพยพบนเกาะซามอสทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลอีเจียนได้แล้ว โดยเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในป่าใกล้กับค่ายผู้อพยพไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย
แต่อย่างใด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของกรีซระบุว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นใกล้กับค่ายดังกล่าวที่มีผู้อพยพอาศัยอยู่ราว 4,700 คน และได้คุมตัวผู้อพยพ3 คน ไปสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เกิดเหตุเพลิงไหม้เผาผลาญค่ายผู้อพยพใหญ่ที่สุดของกรีซบนเกาะเลสบอสเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ผู้อพยพกว่า 12,000 คนต้องอาศัยอยู่ตามท้องถนน และทำให้ปัญหาวิกฤติผู้อพยพที่เกิดขึ้นมายาวนานตามชายแดนทวีปยุโรปกลายเป็นวาระทางการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี