19 พฤศจิกายน 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน สำนักวิทยาศาสตร์แห่งชาติของออสเตรเลียพบว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จำนวนมากในทั่วโลกขาดหายไป
งานวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (17 พ.ย.) อ้างอิงข้อมูลจากคณะนักวิจัยขององค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (CSIRO) ซึ่งเผยว่าในข้อมูลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ร้อยละ 95.5 ที่ถูกจัดเก็บในแผนริเริ่มระดับโลกว่าด้วยการแบ่งปันข้อมูลโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งหมด หรือ จีไอเอสเอไอดี (GISAID) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลจีโนมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ไม่มีข้อมูลผู้ป่วยซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้อง
เอส. เอส. แวเซน ผู้เขียนอาวุโสของงานวิจัยและหัวหน้าทีมเชื้อโรคอันตรายขององค์การระบุว่าการบันทึก “ประสบการณ์ของผู้ป่วย” (Patient Journey) โรคโควิด-19 เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้มนุษย์ทำความเข้าใจวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
“เราต้องรีบระบุข้อมูลผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับลำดับจีโนมของไวรัสโดยด่วน เพื่อทำความเข้าใจว่าผลของโรคตัวนี้เกิดจากการกลายพันธุ์เพียงครั้งเดียวหรือหลายครั้งในตัวไวรัส หรือปัจจัยต่างๆ ของผู้ที่ติดเชื้อ เช่น อายุ เพศ และโรคที่เกิดขึ้นร่วมกัน”
“เป็นไปได้มากว่าทีมทางคลินิกซึ่งเป็นผู้รักษาผู้ป่วยจะรู้ข้อมูลเหล่านี้ แต่ส่งต่อมาไม่ถึงคลังข้อมูลสาธารณะเช่นจีไอเอสเอไอดี เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน”
จีไอเอสเอไอดีมีข้อมูลลำดับจีโนมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กว่า 200,000 ชุด นับเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีข้อมูลลำดับจีโนมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยงานวิจัยของงค์การวิจัยฯ ระบุว่ามีการบันทึกลำดับจีโนม 100,000 ชุดในช่วง 2 เดือนก่อนถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ในเดือนเมษายน จีไอเอสเอไอดีกำหนดให้ “สถานะของผู้ป่วย” เป็นข้อมูลที่จำเป็นต้องกรอกเพื่อใส่ข้อมูลลำดับจีโนมเชื้อไวรัสลงในฐานข้อมูล แต่งานวิจัยพบว่าโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ด้อยประสิทธิภาพเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการดังกล่าว
เดนิซ เบาเออร์ ผู้เขียนหลักของงานวิจัยระบุว่าแบบแผนการเก็บข้อมูลที่งานวิจัยเสนอนั้นจะครอบคลุมข้อมูลสำคัญๆ มากขึ้น พร้อมกล่าวว่ามีการระบุขั้นตอนต่างๆ ในการขอข้อมูลด้านสุขภาพในกระบวนการทำงาน ซึ่งคาดว่าส่งผลกระทบต่อกระบวนการศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเชื้อไวรัสตัวนี้มากที่สุด พร้อมเสริมว่ามีการใช้งานแบบสอบถามที่ได้มาตรฐาน ซึ่งอ้างอิงหลักภววิทยา (วิธีการบรรยายขอบเขตแนวคิดหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวกับแนวคิด) ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี