r คิมลั่นเสริมศักยภาพกองทัพ
เปียงยาง - สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือ รายงานอ้างถ้อยแถลงของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่กล่าวปิดการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคแรงงานว่า เกาหลีเหนือจะต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่สามารถจะทำได้ในการเพิ่มการป้องกันสงครามนิวเคลียร์ ในขณะเดียวกันก็จะต้องสร้างสมรรถนะทางด้านการทหารให้แข็งแกร่งมากที่สุด การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 8 ของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือจัดขึ้นในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนที่นายโจ ไบเดน จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ท่ามกลางการเจรจาที่ชะงักงันเกี่ยวกับความพยายามยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเพื่อแลกกับการที่สหรัฐจะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งนี้ ดำเนินไปเป็นเวลา 8 วันในกรุงเปียงยาง เป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 และเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาในระหว่างการประชุมครั้งนี้ นายคิมได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคแรงงานอีกครั้ง ซึ่งเป็นการยืนยันอำนาจของเขาในการเป็นผู้นำประเทศต่อไป
r ประหารนักโทษหญิงฆ่าสาวท้อง
แตร์โฮต - นางลิซา มอนต์โกเมอรี นักโทษหญิงในเรือนจำรัฐบาลกลางเพียงคนเดียวของสหรัฐ ถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดสารพิษที่ทัณฑสถานในเมืองแตร์โฮต รัฐอินดิแอนา เมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากผู้พิพากษาศาลสูงปฏิเสธคำสั่งให้เลื่อนการประหารชีวิตของผู้พิพากษาท้องถิ่นเมื่อคืนวันจันทร์ เปิดทางให้สามารถประหารชีวิตเธอได้ทันที ส่งผลให้นางมอนต์โกเมอรีเป็นนักโทษประหารหญิงคนแรกที่ถูกประหารชีวิตในรอบ 67 ปีนางมอนต์โกเมอรีเป็นนักโทษหญิงเพียงคนเดียวที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางของรัฐบาลกลาง จากความผิดฐานฆาตกรรมนางบ็อบบี้ โจ สตินเนตต์วัย 23 ปี หญิงท้องอายุครรภ์ 8 เดือน เมื่อปี 2547โดยนางมอนต์โกเมอรี ซึ่งขณะนั้นอาศัยรัฐแคนซัส ออกอุบายลวงซื้อลูกสุนัขจากนางสตินเนตต์ และทำทีเดินทางไปยังบ้านของนางสตินเนตต์ในรัฐมิสซูรี เพื่อรับลูกสุนัข แต่กลับทำร้ายร่างกายจนนางสตินเนตต์หมดสติ จากนั้นใช้มีดผ่าท้องซึ่งเป็นเหตุให้เหยื่อเสียชีวิต ก่อนขโมยทารกเพศหญิงในครรภ์ของนางสตินเนตต์ไป และนำทารกไปแอบอ้างกับครอบครัวตัวเองว่า เด็กน้อยเป็นลูกของตน ต่อมานางมอนต์โกเมอรีถูกตำรวจจับกุม ส่วนทารกเพศหญิงที่ถูกขโมยนั้นได้รับการดูแลจากสามีของนางสตินเนตต์ที่เสียชีวิต และปัจจุบันมีอายุได้ 16 ปี
r หิมะถล่มญี่ปุ่นตายเพิ่ม
โตเกียว – ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุพายุหิมะรุนแรงพัดถล่มพื้นที่ภาคเหนือของญี่ปุ่นตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 16 ศพแล้ว และมีผู้บาดเจ็บกว่า 300 คน ผู้เสียชีวิตหลายคนจังหวัดนีงาตะ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีผู้เสียชีวิต4 ศพ บาดเจ็บ 148 คน ส่วนจังหวัดฟุกุอิ บาดเจ็บ64 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในจังหวัดอิชิคาว่าและกิฟูด้วย ส่วนจังหวัดโทยามะ เกิดหิมะตกหนักที่สุดในรอบ 35 ปี โดยวัดปริมาณหิมะที่ตกลงมาได้มากกว่า 100 เซนติเมตร จังหวัดนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บ91 คน ด้านอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ยังคงเตือนภัยหิมะตกหนัก สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตภูเขาในภูมิภาคคันโต ซึ่งรวมถึงกรุงโตเกียว ญี่ปุ่นเผชิญหิมะตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตกตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 ศพ นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา หิมะกองสูงท่วมหลายภูมิภาคของญี่ปุ่น โดยเฉพาะภูมิภาคที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น เป็นพื้นที่ที่เกิดหิมะตกหนักที่สุด ทำให้การจราจรหลายพื้นที่เป็นอัมพาต และมีรถยนต์ตกค้างอยู่บนทางด่วนนับพันคัน
ตรวจกำแพง : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ตรวจเยี่ยมการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก ที่เมืองอลาโม รัฐเท็กซัส ท่ามกลางกระแสกดดันจากหลายฝ่ายที่ต้องการให้ปลดเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากผู้สนับสนุนของเขา บุกจู่โจมเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เจอกล่องดำ : นักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยกองทัพเรืออินโดนีเซีย ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปกล่องดำ 1 ใน 2 กล่อง ของเครื่องบินโดยสารสายการบินศรีวิจายาแอร์ ที่เก็บกู้ขึ้นมาได้จากทะเลชวา นอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตาเมื่อวันอังคาร เตรียมส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว คร่าชีวิตคนบนเครื่อง 62 ศพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี