เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 เว็บไซต์ นสพ.South China Moring Post ของฮ่องกง เสนอข่าว Thailand’s durian dealers fear for China exports after coronavirus surge ระบุว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุดในประเทศไทย สร้างความกังวลให้กับผู้ปลูกและส่งออกทุเรียน ว่าจะกระทบต่อการส่งไปจำหน่ายในประเทศจีน อาทิ พานเจียวหลิง (Pan Jiao Ling) หญิงชาวจีนวัย 36 ปี ที่ย้ายจากบ้านเกิดในเมืองหนานหนิง มาตั้งรกรากในไทยตั้งแต่ปี 2552 หลังเห็นความพิเศษของผลไม้ไทยชนิดนี้และตัดสินใจทำธุรกิจส่งออกทุเรียนจากไทยไปจีน
ก่อนสถานการณ์โรคระบาดใหญ่จะเริ่มขึ้น พาน สั่งซื้อทุเรียนจากสวนในไทยประมาณ 30-40 ตัน และยังรักษาจำนวนการส่งออกไว้ได้ช่วงการระบาดในปี 2563 แม้จะมีสะดุดบ้างกรณีมาตรการของประเทศลาวและเวียดนามที่กำหนดให้คนขับรถบรรทุกข้ามประเทศต้องเข้ากระบวนการกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน ประเทศไทยนั้นเผชิญการระบาดระลอก 2 เมื่อปลายปี 2563 จากตลาดอาหารทะเลในเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ และครั้งที่ 3 หรือล่าสุดจากสถานบันเทิงหรูในกรุงเทพฯ ทำให้หญิงรายนี้กังวลเรื่องธุรกิจส่งออกทุเรียนของตนเอง
พาน ตั้งข้อสังเกตว่า กระแสในสื่อออนไลน์ค่อนข้างหวาดกลัว อาทิ กรณีของเชอร์รี่จากประเทศชิลี หลังมีการเผยแพร่หนังสือเวียนของหน่วยงานสาธารณสุขในท้องถิ่นของจีน แจ้งเตือนว่าเชอร์รี่นำเข้าพบการปนเปื้อนของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ราคาผลไม้ตกต่ำลงในช่วงต้นปี 2564 และหากจีนพบการปนเปื้อนแบบเดียวกันในบรรจุภัณฑ์จากไทย ก็อาจสั่งระงับการบริโภคผลไม้จากไทยทั้งหมด นั่นทำให้ตนต้องลดการรับซื้อทุเรียนลงเหลือเพียงวันละ 10 ตัน เพราะสถานการณ์ในไทยค่อนข้างรุนแรงและตนไม่ต้องการความเสี่ยงในการตรวจสอบที่ท่าเรือ
เช่นเดียวกับ Pornthip Puttarat หญิงไทยวัย 62 ปี ที่เล่าว่า ก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 เคยส่งออกทุเรียนใส่ตู้คอนเทนเนอร์ 3 ตู้ไปเกาะฮ่องกงทุกวัน แต่ปีนี้ส่งได้เพียง 1 ตู้เท่านั้นด้วยน้ำหนักทุเรียนรวม 18 ตัน ซึ่งตนคิดว่าชาวฮ่องกงไม่ได้ใช้จ่ายอย่างที่เคยเป็น เช่นเดียวกับที่จีน ในอดีตเคยส่งไป 200-300 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อวัน แต่ตอนนี้เหลือเพียง 70-80 ตู้เท่านั้นไม่เฉพาะแต่ตลาดส่งออก Pornthip ยังกล่าวอีกว่า ตลาดทุเรียนในประเทศก็ซบเซาลงเช่นกัน เพราะเมื่อคนไทยเลือกที่จะอยู่บ้านก็ทำให้การใช้จ่ายลดลง
ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1,335 คนในวันที่ 14 เม.ย. 2564 ซึ่งเป็นการระบาดระลอก 3 ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมรวม 35,910 คน และเสียชีวิตรวม 97 ราย นำไปสู่การตั้งโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศเพราะโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอ ขณะที่หลายจังหวัดมีข้อกำหนดคุมเข้มบุคคลที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่
ภานุศักดิ์ สายพาณิชย์ (Panusak Saipanich) นายกสมาคมทุเรียนไทย ยอมรับว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยด้วย และอาจเลวร้ายลงหากตรวจพบไวรัสในทุเรียนไทยขึ้นมาจริงๆ โดยสวนทุเรียนทั่วประเทศขณะนี้มีการกำชับให้ดูแลคนงานอย่าให้ติดเชื้อ ด้านข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ยอดส่งออกทุเรียนสดไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 259 ยอดส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 497 เมื่อเทียบกันปีต่อปีของเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ แม้ยอดกการส่งออกตลอดทั้งปี 2563 จะต่ำสุดในรอบ 6 ปีก็ตาม
แต่สถานะผู้นำการส่งออกทุเรียนของไทยก็กำลังถูกคุกคาม รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช (Aat Pisanwanich) ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องยากในการคาดเดาว่าไทยจะครองสถานะนี้ต่อไปได้อีกนานเท่าใด โดย มาเลเซีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนไปยังจีน มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกแม้จะต้องเสี่ยงกับปัญหาการบุกรุกทำลายป่าก็ตาม พื้นที่การเกษตรของมาเลเซียมีจำกัด แต่ผลผลิตของ อินโดนีเซีย เน้นบริโภคในประเทศ ระดับการผลิตของประเทศอื่นแม้จะต่ำแต่ก็กำลังเขยายอย่างรวดเร็ว
ในปี 2563 ที่ผ่านมา อินโดนีเซียมียอดการผลิตทุเรียนถึง 1.19 ล้านตัน เอาชนะไทยที่ผลิตได้ 1.1 ล้านตัน ส่วนมาเลเซียกับเวียดนาม ผลิตได้ 350,202 และ 347,512 ตันตามลำดับ ขณะที่การส่งออกนั้นในปี 2563 ไทยส่งออกทุเรียนทั้งหมด 620,900 ตัน ในจำนวนนี้ 575,000 ตันมีปลายทางอยู่ที่จีน โดยตลาดส่งออกสำคัญของไทยคือจีน ฮ่องกง และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
รศ.ดร.อัทธ์ ยังแสดงความเป็นห่วงเรื่องการส่งออกทุเรียนที่ยังไม่สุกไปยังจีนว่าอาจนำปัญหามาสู่ไทยในอนาคต เนื่องจากร้านค้าปลีกในจีนมักไม่ยอมรับผลไม้ที่ไม่สุกเพราะเนื้อจะแข็งไม่สามารถบริโภคได้ ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางการไทยเข้มงวดในการตรวจสอบทั้งสวนทุเรียนและผู้จำหน่าย ไม่ให้เห็นแก่ผลกำไรสูงสุดด้วยการนำผลไม้ที่ไม่สุกไปขาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี